วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 (go6TV) "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ในหัวข้อ “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ในทัศนะของประชาชนจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,194 คน
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการอภิปรายที่ ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2555
โดยเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชน ว่าสนใจ “การอภิปรายไม่ไว้
โดยเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชน ว่าสนใจ “การอภิปรายไม่ไว้
วางใจ” มากน้อยเพียงใด
อันดับ
1 สนใจอยู่บ้าง 52.63%
เพราะ
มีประเด็นทางการเมืองหลายเรื่องที่ประชาชนต่างให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ เช่น
โครงการรับจำนำข้าว ฯลฯ
อันดับ
2 สนใจมาก 23.02%
เพราะ การเมืองไทยมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในทุกๆด้าน
มีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ฯลฯ
อันดับ
3 ไม่ค่อยสนใจ 18.42%
เพราะ มีแต่โต้เถียงกันไปมา ขุดคุ้ยเรื่องเก่า
พูดพาดพิงผู้อื่นให้เสียหาย หวังแต่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ฯลฯ
อันดับ
4 ไม่สนใจ 5.93%
เพราะ เบื่อ ไม่ชอบการเมือง ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ฯลฯ
เมื่อถามว่า “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนหรือไม่
เมื่อถามว่า “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนหรือไม่
อันดับ
1 ไม่ค่อยกระทบ40.13%เพราะ เป็นเรื่องของส.ส. ไม่เกี่ยวข้องกับประชาชน
เป็นการอภิปรายในเรื่องเดิมๆ ฯลฯ
อันดับ
2 กระทบบ้าง
30.92%เพราะ
เมื่อติดตามการอภิปรายบางครั้งรู้สึกเครียด ไม่เข้าใจการทำงานของนักการเมือง ฯลฯ
อันดับ
3 ไม่มีผลกระทบ17.63%
เพราะ ไม่ได้สนใจหรือติดตาม ไม่มีผลกับการดำรงชีวิตประจำวัน ฯลฯ
อันดับ
4 กระทบมาก
11.32%เพราะชีวิตของประชาชนขึ้นอยู่กับนักการเมือง
สภาพเศรษฐกิจยังไม่ดี ข้าวของแพง ฯลฯ
เมื่อถามสิ่งที่ประชาชน “พอใจ” ในการอภิปรายครั้งนี้
เมื่อถามสิ่งที่ประชาชน “พอใจ” ในการอภิปรายครั้งนี้
อันดับ
1 การรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆโดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆเพิ่มมากขึ้น
ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น 48.52%
อันดับ
2 ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านเตรียมตัวมาดี
มีข้อมูลเอกสารมาชี้แจง 29.18%
อันดับ
3 นายกยิ่งลักษณ์ขึ้นชี้แจงด้วยตนเอง
14.59%
อันดับ
4 ส.ส.ส่วนใหญ่ให้ความเคารพประธานสภาและที่ประชุมดี
7.71%
เมื่อถาม สิ่งที่ประชาชน “ไม่พอใจ” ในการอภิปรายครั้งนี้
เมื่อถาม สิ่งที่ประชาชน “ไม่พอใจ” ในการอภิปรายครั้งนี้
อันดับ
1 มีการโต้เถียง
ทะเลาะเบาะแว้ง ลุกขึ้นประท้วง30.27%
อันดับ
2 พูดจาโจมตีกันไปมา
นำเรื่องเก่ามาพูด 25.58%
อันดับ
3 ใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ
ไม่เหมาะสม 24.11%
อันดับ
4 พูดพาดพิงบุคคลอื่น
พูดนอกประเด็น 20.04%
เมื่อถาม ประชาชนเชื่อข้อมูลของใคร มากกว่ากัน
เมื่อถาม ประชาชนเชื่อข้อมูลของใคร มากกว่ากัน
อันดับ
1 ไม่เชื่อทั้ง 2
ฝ่าย 41.06% เพราะ เบื่อการเมือง
มีแต่การโต้เถียงทะเลาะเบาะแว้ง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว หยิบยกแต่เรื่องดีๆมาพูด ฯลฯ
อันดับ
2 เชื่อ“ฝ่ายรัฐบาล” มากกว่า24.50% เพราะ
สามารถตอบโต้ ชี้แจงได้ทุกประเด็น รัฐบาลให้ความช่วยเหลือประชาชนจริง ฯลฯ
อันดับ
3 เชื่อพอๆกัน19.21%
เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีข้อมูล เหตุผลมาหักล้างพอๆกัน
พูดโต้ตอบได้ดีทั้ง 2 ฝ่าย ฯลฯ
อันดับ
4 เชื่อ“ฝ่ายค้าน” มากกว่า 15.23% เพราะ
เอกสารหลักฐาน คลิปภาพที่นำมาดูมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ มีการเตรียมตัวมาดี ฯลฯ
เมื่อถามว่า “ฝ่ายรัฐบาล” ประชาชนประทับใจการอภิปรายของใครมากที่สุด
เมื่อถามว่า “ฝ่ายรัฐบาล” ประชาชนประทับใจการอภิปรายของใครมากที่สุด
อันดับ
1 นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์
ชินวัตร51.79%
อันดับ
2 ร.ต.อ.เฉลิม
อยู่บำรุง 38.95%
อันดับ
3 พล.อ.อ.สุกำพล
สุวรรณทัต 9.26%
เมื่อถามว่า“ฝ่ายค้าน” ประชาชนประทับใจการอภิปรายของใครมากที่สุด
เมื่อถามว่า“ฝ่ายค้าน” ประชาชนประทับใจการอภิปรายของใครมากที่สุด
อันดับ
1 นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ 50.04%
อันดับ 2 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ 25.13%
อันดับ 2 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ 25.13%
อันดับ
3 นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์ 24.83%
เมื่อถามว่า ประชาชนได้รับประโยชน์จาก “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ในครั้งนี้หรือไม่
เมื่อถามว่า ประชาชนได้รับประโยชน์จาก “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ในครั้งนี้หรือไม่
อันดับ
1 ได้รับประโยชน์
51.65% เพราะ ได้รับรู้ข้อมูลต่างๆที่ไม่เคยรู้มาก่อน
มีความเข้าใจในการทำงานของรัฐบาลมากขึ้น ได้เห็นการอภิปรายของทั้ง 2 ฝ่าย ฯลฯ
อันดับ
2 ไม่ได้รับประโยชน์
48.35% เพราะ เป็นเรื่องของการเมือง
ไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองหรือประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รัฐบาลมีเสียงมากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น