แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รธน.ระบุการขาดคุณสมบัติ ส.ส.ของ 'อภิสิทธิ์' หรือไม่

ที่มา Voice TV



รองนายกรัฐมนตรี ระบุ รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนถึงขาดคุณสมบัติจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หลังถูกกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งถอดยศ ด้าน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นเกมการเมือง


นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา เห็นว่ารัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะขาดคุณสมบัติจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญได้บัญญัติลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะเป็น ส.ส.อย่างครบถ้วน จึงต้องดูว่าคำสั่งของกระทรวงกลาโหมเป็นอย่างไร ส่งผลต่อสถานะ ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์หรือไม่ ส่วนพรรคเพื่อไทยเองยังไม่มีแนวคิดที่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ ส.ส. - ,ส.ว.ที่ต้องการตรวจสอบคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ สามารถทำได้ด้วยการส่งเรื่องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานวุฒิสภา เพื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย หรือบุคคลทั่วไปสามารถร้องเรียนผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ตรวจสอบ คุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ได้


ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงกลาโหม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาความศาลปกครอง พ.ศ. 2542 ระบุไว้ชัดเจนว่าศาลปกครองไม่สามารถรับพิจารณาเรื่องทางวินัยทหารได้


ด้าน นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่ากระบวนการต่อสู้กรณีที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากราชการยังไม่สิ้นสุด จึงไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างให้นายอภิสิทธิ์พ้นจากการเป็น ส.ส.ได้ โดยเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นแค่เกมการเมือง เนื่องจาก พ.ร.บ.วินัยทหาร ไม่สามารถใช้กับบุคคลที่ลาออกจากราชการแล้วได้


นอกจากนั้นหากเทียบกับกรณีของพลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เหตุที่ไม่สามารถร้องศาลปกครองกรณีถูกโยกไปช่วยราชการได้ เพราะพลเอกเสถียรยังอยู่ในราชการ แต่กรณีของนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการมาแล้ว จึงสามารถร้องเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการปกครองของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหมได้ ซึ่งนอกจากนายอภิสิทธิ์จะใช้กระบวนการต่อสู้ผ่านศาลปกครองแล้ว พรรคจะร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้ตรวจสอบการ ใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย


ส่วนกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.ร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.ก็ควรพิจารณาการใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเช่นกันทั้งนี้ นายถาวรเห็นว่าองค์กรสุดท้ายที่จะชี้ขาดว่านายอภิสิทธิ์ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ คือศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ยังมีกระบวนการต่อสู้อีกหลายขั้นตอน จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีแนบท้ายญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ จากนายอภิสิทธิ์เป็นบุคคลอื่น
13 พฤศจิกายน 2555 เวลา 13:07 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น