แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปฎิญญาโบนันซ่า ความเป็นอิสระของเสื้่อแดง และหนทางสู่ผู้นำบารมีของทักษิณ

ที่มา Thai Free News

ลูกชาวนาไทย





การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่โบนันซ่า เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2555 
นับว่าประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง 
เพราะมีคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศเข้ามาร่วมการชุมนุมอย่างคับคั่ง ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน 
ทั้งๆ ที่การเดินทางเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมค่อนข้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก 
เพราะการจราจรติดขัดอย่างมาก และแดดก็ร้อนมาก 
ผู้ชุมนุมบางส่วนไปจองที่หน้าเวทีตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 
และพอเช้าวันเสาร์ก็ทยอยเดินทางเข้ามาอย่างคับคั่ง 
คนเสื้อแดงต้องตากแดดอยู่ทั้งวัน โดยไม่ยอมถอย โดยกางร่มเอา

ผมไปถึงโบนันซ่าตั้งแต่เย็นวันศุกร์ เพื่อร่วมกับหน่วยอาสาพยาบาล FARED 

ให้บริการพี่น้องเสื้อแดง และตอนเย็นวันนั้น ก็ได้คุยกับพี่น้องที่มาจาก ภูเก็ต 
ซึ่งเห็นเดินเป็นกลุ่มเข้ามาในงานตอนเย็นวันศุกร์กว่า 60 คน 
นั่นเป็นกลุ่มที่เดินทางมาเกือบ 1,000 กม. จากภาคใต้

การชุมนุมโบนันซ่าครั้งนี้ 

มีการออกแถลงการณ์ จุดยืนของ อาจารย์ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. 
โดยผมขอเรียกว่า "ปฎิญญาโบนันซ่า" 3 ข้อคือ

  1) เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลโหวตการแก้ไข รธน.วาระสาม
  2) เรียกร้องให้รัฐบาลรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ 

  เพื่อให้ ICC เข้ามาสอบสวนกรณีสังหารหมู่ประชาชนใน  กรุงเทพฯ เมื่อปี 2553
  3) เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยไม่นิรโทษกรรมคนสังหารประชาชน

ปฎิญญาโบนันซ่านี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นท่าทีของ นปช.หรือแกนนำคนเสื้อแดง 

มีมติที่สวนทางกับนายกฯทักษิณ นายกฯปู และแกนนำรัฐบาล ที่พยายามผลักดัน 
การลงประชามติเกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 
ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ แกนนำเสื้อแดงมีท่าทีแตกต่างไปจากฝ่ายทักษิณ 
และมีความเป็นตัวของตัวเอง 
แม้คุณทักษิณจะได้โฟนอินเข้ามาบนเวทีและสนับสนุนประชามติก็ตาม

ปรากฎการณ์นี้เราอาจวิเคราะห์ต่อไปได้ว่า 

อิทธิพลของคุณทักษิณต่อคนเสื้อแดงอาจลดลง 
และอาจสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้อีกต่อไป 
แต่ต้องมีการปรึกษาหารือกัน หากต้องการเสียงสนับสนุน 
มันบ่งบอกชัดเจนว่า ขบวนการเสื้อแดงได้เติบโตไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว 
และหากรัฐบาลหรือคุณทักษิณฝืนมติ ความขัดกันอาจมีมากขึ้นในอนาคต

ก็อย่างที่ผมเขียนบทความไปหลายครั้งแล้วว่า 

การตั้ง ครม. ปู 3 ครั้งที่ผ่านมา เป็นความพลาดของนายกฯปูที่ไม่ละเอียดอ่อน 
ทำให้คนรู้สึกว่า สายเจ้แดงและสายชินวัตรมากเกินไป 
พวกเขาที่เป็นฐานสนับสนุนไม่ได้อะไรเลย 
ความรู้สึกห่างเหินมีมากขึ้น และแกนนำต่างๆ ไม่มีทางเลือก 
นอกจากเข้าร่วมสร้างขบวนการเสื้อแดงให้เข้มแข็งขึ้น 
ซึ่งมันประจวบเหมาะกับขบวนการเสื้อแดงในชนบทมีความเข็มแข็ง
และเติบโตโดยไม่ต้องอาศัยบารมีคุณทักษิณอย่างเดียวแล้ว 
แต่มีประเด็นด้านอุดมการณ์เข้าเสริม

ปี 2556 การเมืองไทยคงเข็มข้นขึ้น 

เพราะครั้งนี้เป็นการต่อสู้กันในประเด็นสำคัญที่สุดของสังคม คือ 
กติกาของสังคม รัฐธรรมนูญ ว่าเมืองไทยจะไปทางไหน

สำหรับท่านนายกฯทักษิณ ก็คงมาถึง เส้นทางที่จะต้องแสดงความชัดเจนให้มากขึ้น 

เพราะการต่อต้านของมวลชนเสื้อเหลืองนั้นต่อต้านคุณทักษิณ โดยส่วนตัวอยู่
โดยพวกเขายังมีความสงสัยในตัวคุณทักษิณค่อนข้างมาก 
มีคนรวบรวมประเด็นไว้สาม ประเด็นคือ

1) คุณทักษิณมุ่งแต่จะเอาเงินคืนอย่างเดียว
2) คุณทักษิณและตระกูลชินวัตรพยายามที่จะรวบอำนาจทั้งหมด
3) คุุณทักษิณนั้นไม่ได้สนับสนุนประชาธิปไตยจริงๆ

ปี 2556 คุณทักษิณควรมีความชัดเจนในประเด็นเหล่านี้

มีการศึกษาวิจัยอย่างชัดเจนแล้วว่า "ความเป็นผู้นำบารมีนั้น "

บารมี ไม่ใช่คุณสมบัติที่มีอยู่ในตัวผู้นำเอง แต่เป็นสิ่งที่ประชาชนมอบให้ 
เพราะเขาเชื่อว่า ผู้นำคนนั้นมีบารมี 
คุณสมบัติสำคัญของผู้นำบารมี คือ Self-Devotion คือ 
ความเสียสละทุ่มเท ตรงนี้ต้องแสดงให้คนเห็น ให้คนเชื่อว่า 
ผู้นำคนนั้นมี  Self-Devotion อาจทำโดยการประชาสัมพันธ์ สร้างภาพหรืออะไรก็ตาม 
(ก็เห็นประจำในประเทศไทย) แต่ต้องทำให้คนเชื่อว่ามีความเสียสละ

คุณทักษิณต้องแสดง Self-Devotion ให้ชัดเจน 

โดยประกาศไปเลยชัดๆ ว่า ไม่ต้องการเงินที่ถูกยึดไปแล้วคืน 
ถือว่าเป็นการมอบให้สังคม นี่เป็นการแสดงความเสียสละอย่างชัดเจน 
(ยังไงก็ได้คืนยาก ก็ประกาศไปเลยว่าไม่เอาคืน) 

ข้อสอง ที่ต้องประกาศคือ ต้องประกาศ "สละอำนาจ" 

จะไม่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก หรือไม่เล่นการเมืองอีก 
ตรงนี้สำคัญ เพราะ "สิ่งที่นักวิจัยด้านผู้นำ" ค้นพบข้อหนึ่งคือ 
"การแสดงเจตจำนงสละอำนาจ" นั้น ผู้นำคนนั้นจะได้อำนาจกลับคืนมาอย่างใหญ่โต 
มีตัวอย่างเช่น จอร์จ วอชิงตัน หลังจากกู้เอกราชได้แล้ว 
ก็สละอำนาจจากการเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด กลับบ้าน 
แต่ในที่สุดก็ได้เป็นประธานาธิบดี โฮจิมิน ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองอะไรเลย 
แต่ก็มีอำนาจมากในสังคม

คุณทักษิณเป็นคนที่มีโอกาส "เป็นผู้นำบารมีสูงสุด" มากที่สุด 

แต่ต้องแสดงความเสียสละ ทั้งเงินทอง และอำนาจให้คนเห็น 
เมื่อเราเสียสละไปแล้ว นั่นคือ การแสดง Self-Devotion 
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้คนก็จะมอบสิ่งสำคัญที่สุดของพวกเขาให้แทน 
นั่นคือ "บารมี" เพราะบารมีคือสิ่งที่คนอื่นๆ มอบให้ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้นำสร้างขึ้นมาเองได้



http://www.tfn5.info/board/index.php?topic=43895.0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น