ที่มา ข่าวสดออนไลน์
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของน.ส.ยิ่ง
ลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่าง
การเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ ที่กรุงนิวเดลี
ในโอกาสครบรอบ 20 ปีของการประชุมอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ วันที่ 20-21
ธ.ค. ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 1
ชั่วโมงครึ่ง) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้พบหารือกับทีมประเทศไทยและภาคเอกชนไทย
ระหว่างรับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรมที่พัก
เพื่อติดตามประเด็นเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนในอินเดียของภาคเอกชนไทย
โดยมีการพิจารณาและแก้ปัญหาประเด็นที่คั่งค้าง เช่น
การถือครองที่ดินของเอกชนต่างชาติในอินเดีย และการขอใบอนุญาตต่างๆ
รวมทั้งการรายงานผลการดำเนินงานการแก้ปัญหาเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำของ
อินเดีย การขอวีซ่าทำงาน และการส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมผู้นำอาเซียน-อินเดีย ว่า
ต่างให้ความสำคัญเรื่องการเชื่อมโยงทั้งทางบก ทะเล อากาศ และประชาชน
ที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและระเบียบเศรษฐกิจตามเส้นทางการเชื่อมโยง
รวมทั้งประเด็นการจัดทำเขตการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย
ที่บรรลุการเจรจาในการจัดทำเขตการค้าเสรี ด้านบริการและการลงทุน
ซึ่งจะเป็นโอกาสของภาคเอกชนไทย และข้อได้เปรียบของไทยในการแข่งขันทางการค้า
ที่ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนที่มีการเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆ ทั้งนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพการแข่งขัน
ทั้งการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน
และด้านการศึกษาที่จะผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน
และภาคการผลิตต่างๆ เช่นภาคเกษตรกรรม รวมทั้ง
ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการจัดทำ โซนนิ่งเกษตรกรรม
เพื่อพัฒนาและยกระดับการแข่งขันการผลิตสินค้าเกษตรของไทย ด้วย
จากนั้น เวลา 10.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายกรัฐมนตรี
เข้าร่วมพิธีรับรถ ASEAN-India Car Rally ณ Vigyan Bhawan
ร่วมกับผู้นำชาติสมาชิกอาเซียน โดยพิธีรับขบวน ASEAN-India Car Rally
เป็นกิจกรรมที่รัฐบาลอินเดียจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 20
ปีความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย โดยมีจุดเริ่มต้นที่เมืองยอกยาการ์ตา
ประเทศอินโดนีเซีย ผ่านประเทศอาเซียน 10 ประเทศ จนกระทั้งมาสิ้นสุดลง ณ
กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในวันนี้
ต่อมา ในเวลา 11.45 น. นายกรัฐมนตรี
ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน โดยมีนายกรัฐมนตรีอินเดียเป็นเจ้าภาพ
ที่โรงแรม Taj Palace ก่อนเดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารปาลาม
เพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น