แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แฉ! "มหกรรมโคตรโกงระบายข้าวรัฐบาลอภิสิทธิ์" เคส "หนองลังกาฟาร์ม"

ที่มา go6tv












“หนองลังกาฟาร์ม” นั้นเป็นใคร มาจากไหน????
"หนองลังกาฟาร์ม" จดทะเบียนจดตั้งบริษัทกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ประกอบกิจการเลี้ยงหมู อยู่ในจังหวัดราชบุรี มากว่า 15 ปี แบบไม่มีบทบาทางการเมือง
แต่ “หนองลังกาฟาร์ม” กลับกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทใน “โครงการระบายพืชผลทางการเกษตร ของกระทรวงพาณิชย์” ในสมัย”รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์” ที่มี “พรทิวา นาคาศัย” เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (พรรคร่วมรัฐบาล) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แทบทุกรายการ
โดย งานที่ “หนองลังการฟาร์ม” เข้าไปมีบทบาทก็คือ การระบายมันเส้น จำนวน 250,251.26 ตัน ซึ่งเอกชนที่ได้รับอนุมัติให้ เข้ามารับซื้อสินค้า จำนวน 3 ราย คือ หนองลังกาฟาร์ม และไพรสะเดาฟาร์ม จำนวน 7.4 หมื่นตัน และบริษัท กาญจนพันธ์ ฟาร์ม จำกัด จำนวน 175,989.92 ตัน รวมมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ครั้งหนึ่งแล้ว
จากนั้น ฟาร์มหนองลังกาฟาร์ม ก็กลายเป็นเอกชนเพียงรายเดียว ที่ยื่นขอเสนอซื้อ “ข้าวสารเก่าในสต็อกรัฐบาล” ซึ่งประกอบด้วยข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ นาปี 2544/45 ข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ชั้น 2 นาปีปี 2547/48 และข้าวขาว 25 เปอร์เซ็นต์ นาปรัง ปี 2548 โดยเสนอขอซื้อข้าวสารทุกชนิด ในราคา 5,400 บาทต่อตัน ในวันที่ 5 สิงหาคม 2553
ให้หลังเพียง 1 วัน ก็มีการส่งเรื่องให้นางพรทิวา รับทราบในวันที่ 6 สิงหาคม 2553 และนางพรทิวา ได้อนุมัติให้มีการจำหน่าย ในวันที่ 9 สิงหาคม 2553 จากนั้นนำเสนอต่อไปยังนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี และรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) )ให้เห็นชอบ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553
ซึ่งถ้าคิดเอาว่า ขายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลได้ในราคา 12,000 บาทต่อตัน รัฐบาลควรได้กี่พันล้าน แต่นี่กลายเป็น เอาไปตีขายราคาถูก  จากตัวเลขทั้งหมด ก็จะเห็นอย่างชัดเจนว่า การระบายข้าวครั้งนี้ เฉพาะในส่วนของ “หนองลังกาฟาร์ม” ก็ทำให้สูญไปหลายหมื่นล้านบาท !!!
โดย “หลังฉาก” ความเสียหายมโหฬาร จากเหตุการณ์ระบายข้าวที่สวยหรู ครั้งนี้ Siamleaks พบตรวจสอบพบว่า “หนองลังกาฟาร์ม” เป็นบริษัท ในเครือบริษัท กาญจนาฟาร์ม จำกัด ซึ่งมี “นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา” และ “นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
จุดสำคัญของเรื่องทั้งหมด อยู่ที่ “บุญยิ่ง นิติกาญจนา” นั้นได้รับการแต่งตั้งจาก “คณะรัฐมนตรี” ที่มี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นั่งหัวโต๊ะเป็น “นายกรัฐมนตรี” เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 ให้เป็น “ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พรทิวา นาคาศัย)”
ในส่วนของ “วิวัฒน์ นิติกาญจนา” นั้น ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลในทางการเมือง เพราะรู้จักกันในนาม “กำนันตุ้ย” มือขวา “สมศักดิ์ เทพสุทิน” หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา ใน “พรรคภูมิใจไทย”
โดย ครั้งหนึ่ง “กำนันตุ้ย” คนนี้ เคยนั่งในตำแหน่ง “รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย” ที่มี “อนงค์วรรณ เทพสุทิน” ภรรยาของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เป็นหัวหน้าพรรค
นอกจากนี้ “วิวัฒน์” หรือ “กำนันตุ้ย” ยังเป็นสามีของ “บุญยิ่ง นิติกาญจนา” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้วย !!!
พูดมาถึงตรงนี้ อาจจะมีคนบอกว่า แล้วมันเกี่ยวข้องกับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ขณะนั้นและพรรคประชาธิปัตย์ ตรงไหน ???
คำตอบก็คือ มติ ครม. เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 ที่รับทราบกรอบยุทธศาสตร์การดำเนินการระบายข้าวตามโครงการแทรกแซงของรัฐบาล ที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เสนอ และเห็นชอบให้คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวกำหนดหลักเกณฑ์และกรอบ ยุทธศาสตร์ รวมถึงปริมาณการจำหน่ายด้วยความระมัดระวัง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อภาวะราคาตลาด และให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสารเป็นผู้ดำเนินการและนำเสนอประธานคณะ อนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสารพิจารณาอนุมัติ แล้วเสนอ ประธาน กขช. (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี)หรือ รองประธาน กขช. (ไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี) พิจารณาให้ความเห็นสอบก่อนลงนามสัญญา
ซึ่งชัดเจนว่า “อำนาจ” ในการให้ความเห็นชอบจำหน่ายข้าวในสต็อกรัฐบาล นั้นไม่ใช่เพียงแค่ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” จาก “พรรคภูมิใจไทย” ที่สามารถตัดสินใจได้ตามอำเภอใจ
แต่ทั้งหมด “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี จาก “พรรคประชาธิปัตย์” ในฐานะประธาน กขช. และ “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” รองนายกรัฐมนตรี จาก “ประชาธิปัตย์” ในฐานะ “รองประธาน กขช.” รู้เห็นด้วยในทุกขั้นตอน !
จึงไม่น่าจะมีทางที่ “ประชาธิปัตย์” จะปล่อยให้ “ภูมิใจไทย” อิ่มหนำสำราญ ไปคนเดียวแน่ๆ !!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น