แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

'เจ๊หน่อย' เเม่ทัพหญิงด้านการเมือง

ที่มา Voice TV




นิวส์เมกเกอร์ ประจำวันที่ 19 มกราคม 2556

แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ตัวผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นพลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ อย่างเป็นทางการแล้วและเดินหน้าหาเสียงมากว่า 1 สัปดาห์ แต่ดูเหมือนชื่อของบุคคลระดับแกนนำพรรคเพื่อไทยที่มีข่าวว่าจะลงสมัครด้วย อย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  กลับถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในกระแสความขัดแย้งในตัวผู้สมัคร และพูดแบบติดตลกว่า ชื่อเป็นข่าวมากกว่าตัวผู้สมัครผู้ว่า กทม.เสียอีก ทำให้ต้องมีการเปิดบ้านและลงพื้นที่ช่วย พลตำรวจเอกพงศพัศ หาเสียง เพื่อยุติกระแสข่าวดัวกล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2504 ที่กรุงเทพมหานคร สมรสกับนาย สมยศ ลีลาปัญญาเลิศ นักธุรกิจ มีบุตรด้วยกัน 3 คน

สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์

คุณหญิงสุดารัตน์ เข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรกในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม  2535 ด้วยวัยเพียงแค่ 31 ปี ได้เป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังธรรม ของพลตรีจำลอง ศรีเมือง

แต่หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 พลตรีจำลอง ศรีเมือง ได้วางมือทางการเมือง พรรคพลังธรรมก็ได้ผลัดเปลี่ยนหัวหน้าพรรคหลายคน มาจนถึง พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ได้รู้จักกับ พันตำรวจโททักษิณ พร้อมกับสมาชิกพรรคอีกหลายคนซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส. ในกรุงเทพมหานคร

จนในปี 2537 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคพลังธรรม ตุลาคม 2537 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลชวน หลีกภัย กรกฎาคม 2538 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. เขต 7 พรรคพลังธรรม  และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยหญิงคนแรก สมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา ในปี 2539 ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.กทม.เขต 7 และเป็น ส.ส. ของพรรคพลังธรรมเพียงคนเดียวในสภา

จนในปี 2541 เมื่อ พันตำรวจโททักษิณได้ออกมาก่อตั้งพรรคไทยรักไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นหนึ่งใน 23 บุคคลที่ร่วมก่อตั้งพรรคด้วย และก็ได้ร่วมงานกับทางพรรคเรื่อยมา ในปี 2543 คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามของพรรคไทยรักไทย โดยแข่งขันกับนายสมัคร สุนทรเวช ผลการเลือกตั้งปรากฏว่านายสมัครชนะคะเเนนอย่างท่วมท้น

หลังจากนั้นในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2544 คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ย้ายไปลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อของพรรค  และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทย  และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และในปี 2548 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้รับ โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ทำให้สามารถใช้คำนำหน้านามว่า "คุณหญิง"

โดยบทบาทในพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นที่รับรู้กันว่า มีอิทธิพลสูง มีสมาชิกในสังกัดอยู่ในความดูแลหลายคน ซึ่งเป็น ส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด โดยมีฉายา ที่เรียกตามชื่อเล่นที่ชื่อ "หน่อย" ว่า "เจ๊หน่อย"

ต่อมาในปี 2550 หลังการรัฐประหารได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง และในเหตุการณ์การชุมนุมของ กลุ่มนปช.ในปี 2553 คุณหญิงสุดารัตน์ ถูกศอฉ.ห้ามทำธุรกรรมทางการเงินด้วย

หลังจากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ผันตัวเองไปดูงาน ด้านพุทธศาสนา และเดินทางไปบรูณะปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้าบริเวณ "สวนอันศักดิ์สิทธิ์" ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

ก่อนที่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะมีชื่อเป็นแคนดิเดต ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย จนต้องโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ว่า ไม่พร้อมลงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. จนส่งผลถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรค จนคุณหญิงสุดารันต์ต้องเปิดบ้านให้พลตำรวจเอกพงศพัศ ผู้สมัครผู้ว่า กทม.เข้าพบ และร่วมลงพื้นที่หาเสียงกับพลตำรวจเอกพงศพัศ ด้วย

ทำให้ขณะนี้ บทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ เริ่มกลับเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเมืองเพิ่มขึ้น ทั้งการที่ให้มาช่วยเป็นคนกำหนดนโยบายของกรุงเทพมหานคร ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และล่าสุดการประชุมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ มีการแต่งตั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ขึ้นที่ปรึกษากองทุนฯ เพื่อช่วยพัฒนาบทบาทของสตรีไทย
19 มกราคม 2556 เวลา 15:31 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น