วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
ท่านผู้อ่าน สังเกตไหมครับว่า ยิ่งนานวัน นายกฯปู
ของเรา รัศมีบารมียิ่งเรืองรอง ออร่าฉายพรรณรังษีเปล่งปลั่ง
วูบวาบไปยังทุกๆที่ ซึ่งเธอไปปรากฏกาย โกยคะแนนความนิยมจากทั้งชาวไทยและเทศ
ทิ้งห่าง นายมาร์ค หัวปลอก ผู้นำฝ่ายค้านดักดาน มากยิ่งขึ้นทุกวันนายกฯปูนั้น แม้จะออกอาการไม่สันทัดงานในหน้าที่ผู้นำประเทศในตอนต้นๆ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง แต่ในเวลาไม่ช้านาน เธอสามารถตีตื้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ “ขันติบารมี” ของ นายกฯผู้หญิงคนนี้ ที่ไม่ใส่ใจต่อเสียงนินทาก่นด่า โดยมุ่งหน้าแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองลูกเดียว จนเศรษฐกิจของชาติ กระเตื้องขึ้นแบบเหลือเชื่อ
หลังจากรัฐบาลโลซกของ “ตัวตลก-หัวปลอก” ที่ใช้นโยบาย “ทะเลาะเขมร เขม่นพม่า ด่าญาวน กวนส้นตีนลาว” พ่ายแพ้การเลือกตั้งไปแล้ว และนายกฯปูขึ้นสู่อำนาจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ตัวเลขการส่งออกระหว่างกัน เพิ่มขึ้นแบบพรวดพราด มูลค่าสินค้าส่งออกเกินห้าหมื่นล้านบาทปรากฎชัดที่หลายด่านศุลกากร และใกล้หนึ่งแสนล้านที่บางด่านชายแดน
เป็นผลให้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งท้องถิ่น คือ อ.บ.ต. ที่ อ.แม่สอด ซึ่งพรรคดักดานครองตำแหน่งนายก อ.บ.ต. ถึงสามสมัยได้ แบบ “หักปากกา” เซียนการเมืองทั้งหลายไปเลย
บรรยากาศที่ดียุคนายกฯปูนี่เอง เป็นส่วนสำคัญที่ลบคำสบประมาทของ อดีตรัฐมนตรีคลังอย่าง ที่มีฉายา “นายกรณ์ เซ้กกั้นแฮน” (เพราะแกชอบของประภท “มือสอง” หรือของใช้แล้ว) พูดก่อนการเลือกตั้งว่า
ตลาดหุ้นเมืองไทยจะตกต่ำกว่า 1 พัน จุด หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล
การคาดการณ์ของคนชอบของมือสองนั้น “ผิด” เพราะดัชนีหุ้นนายกฯปู สูงแตะพันห้าร้อยจุด สูงกว่ายุคพรรคดักดานกว่าสามร้อยจุด และหากนับเป็นตัวเงินที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ สูงกว่าล้านล้านบาทด้วยซ้ำไป
สู้กันไม่ได้จริงๆ!
นายกฯยิ่งลักษณ์นั้น ต่างจากผู้นำฝ่ายค้านอย่างสิ้นเชิง เพราะนายมาร์ค หัวปลอก นั้น ไร้เสน่หา ขาดวิสัยทัศน์ จมอยู่กับเรื่องเก่าๆ ซ้ำๆซากๆ ย้ำคิดย้ำทำ ดักดานไม่สร่างซา ประเทศก้าวหน้าไปไหนไม่ได้ (จนมีคนทำภาพเปรียบเทียบเอาไว้ในเว็บพันทิพ อย่างภาพที่นำมาฝาก)
เมื่อกลับไปเป็นฝ่ายค้าน นายมาร์ค หัวปลอก กับพรรคพวกยิ่งทำตัวราวกับเป็น “กากเดนเจ้าปัญหา” ค้านแม่งไปเสียทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่ตัวเคยทำมาก่อน สร้างความอือมระอาให้กับผู้คน มากยิ่งขึ้นทุกที โดยเฉพาะบทบาทที่เล่นในสภาเร็วๆนี้
เรียกเสียง “ก่นด่า” จากชาวบ้าน ได้อย่างเหลือเชื่อจริงๆ!
เมื่อวันเสาร์ ที่ 23 มีนาคม 2556 คอลัมน์ ประจำสัปดาห์ของ “วาทตะวัน” ชื่อ แดกทั่วไทย จัญไรทั่วทิศ!!! http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=419 ได้พูดถึงปัญหาใหญ่ของพรรคฝ่ายค้าน ว่า
พรรคการเมืองดักดานนี้ กำลังมีปัญหาใหญ่ เพราะสมาชิกคนสำคัญของ ถูกดำเนินคดีเรื่อง “ทุจริตคอรัปชั่น” แล้วหลายคน ทั้งที่เคยดำรงตำแหน่งใหญ่โต ตัวอย่างเช่น
- นายชิวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต รัฐมนตรีศึกษา ต้องไปรับทราบข้อหา “ทุจริตคอรัปชั่น” จาก DSI กรณีจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง มูลค่า
5,300 ล้านบาท
- ที่เป็นอดีต ผู้ว่า กทม.อย่าง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน คดีทุจริตตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งทำเนียบเสาชิงช้า ยังคาราคาซังอยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
- นายอภิรักษ์ฯ ยังมีเรื่องทุจริตคอรัปชั่นที่ คุณหญิง ณัฐนนท์ ทวีสิน อดีต ปลัด กทม. ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายอภิรักษ์ฯ ข้อหาทุจริตโครงการรถ BTS ซึ่งมีหลักฐานแน่นหนา แต่ยังค้างเติ่งอยู่ที่ ป.ป.ช. กว่า 5 ปี แล้ว
- ผู้ว่า กทม.อย่าง “หม่อมเอ๋อ เมาแอ๋” ต้องย้ายตูดย้วยๆ ไปรับทราบข้อกล่าวหา“ทุจริตคอรัปชั่น” ตั้งแต่ก่อนออกจากตำแหน่งครั้งที่แล้ว พอรับตำแหน่งหมาดๆนั่งเก้าอี้ ตูดไม่ทันร้อน ดันมีหนังสือจาก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตข้าราชการขวัญใจของพรรค ป.ช.ป. สั่งให้ไปรับทราบข้อหากล่าวหา “ทุจริตคอรัปชั่น” อีกแล้ว
ช่างเป็นเวรเป็นกรรม ของพรรคดักดาน ที่สมาชิกต้องเจอแต่ข้อหา “แดกบ้าน-รับประทานเมือง” ทำไมถีงเป็นไปได้ เช่นนี้หนอ!?
ใช่แต่แค่นั้น นะครับ! เมื่อไม่กี่วันนี้ สำนักงาน ป.ป.ช.โดย กรรมการ ป.ป.ช.ที่จะอายุจะครบ 70 ปี และต้องพ้นตำแหน่งเดือนกันยายนนี้ ชื่อ นาย กล้านรงค์ กบาลเกลี้ยง อดีตยุวสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยังออกมาแถลงว่า
องค์กรงี่เง่าอย่าง ป.ป.ช. ได้ชี้มูล นายมาร์ค หัวปลอก หัวหน้าพรรคดักดาน กับ นายสุเทพ ณ เขาแพง อดีตเลาธิการพรรค ถูกชี้มูลความผิดกรณีทุจริตคอรัปชั่น เรื่องการสร้างโรงพัก ตามคำร้องของเสี่ยอ่างชูวิทย์ฯ เสียอีก ซวยล่ะซี! คิดว่าพี่น้องประชาชนคนธรรมดา ต่างต้องรู้สึกเหนื่อยหน่าย ต่อ “พฤติกรรมอัปรีย์” ของพรรคดักดานนี้ เต็มทีแล้ว!!
จึงอยากแนะนำให้องค์กรเอกชน อย่าง “ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น” ที่มีนาย ประมนต์ สุธีวงศ์ เป็นประธาน อีตานี่แกเป็นเจ้าของโครงการ คือ “อาสาสมัครหมาเฝ้าบ้าน” (ที่ชอบ “ถล่ม”พรรคเพื่อไทยเป็นประจำ) ให้ชักชวนสมาชิกหมาอาสาของตัว ช่วยกันนำนิทรรศการการทุจริตโครงการ “ไทยเข้มแข็ง” ที่เพิ่งจัดแสดงกันที่ “พรรคเพื่อไทย” ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ ไปจัดแสดงให้ผู้คนได้ดูกันทั่วประเทศ โดยใช้วัสดุอุปกรณ์และแนวคิดจากงานนิทรรศการเดิม จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลา ที่ต้องคิดมุกเอง
เป็นการขยาย“ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น” ไปด้วย!
ทั้งนี้ ให้เริ่มจัดที่ โรงแรมลีการ์เดน “หาดใหญ่” เมืองหลวงภาคใต้ (โรงแรมนี้ รปภ.เขาดี ตอนนี้ไม่มีระเบิดแล้ว) เป็นแห่งแรก และค่อยๆไล่ไปจัดทีละจังหวัด ในภาคใต้ทั้งหมด
ทั้งนี้ เพื่อเผยแพร่ความรู้ เรื่องทุจริตคอรัปชั่นมโหฬารบานทะโรค ในโครงการ “ไทยเข้มแข็ง” จะได้ช่วยเปิดหูเปิดตาพี่น้องแดนสะตอ ให้ทราบพฤติกรรมของพรรคดักดาน โดยทั่วกัน
จากนั้น ให้เดินสายจัดนิทรรศการไปจนครบ และจบลงที่จังหวัดปุ้มปุ้ย ซึ่งเป็นถิ่นของโนห์ราห์เติม ที่บ้านเดิมอยู่ “ตรัง”
ทั้งพวงทั้งรัง กิโลกว่า...โน่น!
ก่อนจบบทความวันนี้ ผมต้องขอแนะนำ ให้เปลี่ยนชื่อ จาก นิทรรศการ ทุจริตโครงการ “ไทยเข้มแข็ง” ของพรรคประชาธิเปรต เพราะตั้งแต่เริ่มโครงการกาลีนี้ มีแต่ข่าวไม่เป็นมงคล เต็มสองรูหูคนไทยทุกผู้ทุกนาม
ทั้งนี้ ก็เพราะว่า…
“ไทยเข้มแข็ง” มีการคอรัปชั่นวินาศสันตะโร ตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการตั้งหน้าตั้งตา ตะบัน “แดก” วอดวายไฟแลบ จน สมาชิกพรรคเจ้าของโครงการ
ต้องถูกดำเนินคดี โดยถ้วนหน้ากัน! เริ่มตั้งแต่คนระดับ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ไปจนถึง สมาชิกคนสำคัญ ของพรรคดักดาน ที่เคยดำรงตำแหน่งสูงๆ ในรัฐบาล เช่น…
นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ รัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ และผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ทั้งอดีตและปัจจุบันอีกถึงสองหน่อ และคงจะต้องติดตามมาอีกมาก ล้วนแต่โดนกล่าวหาเรื่อง “ทุจริตคอรัปชั่น” อย่างเป็นทางการ จนจะหมด “ทั้งพรรค” ประชาธิเปรตแล้ว!
พี่น้องประชาชนคนไทยเรา ได้รู้เช่นเห็นชาติของคนพรรคนี้ แบบแจ่มแจ้งแดงกระแจ๋แหวว และคงต้องตั้งคำถามถกกัน ว่า
โครงการมันเลวระยำอย่างนี้ แล้วประเทศไทยของเรา จะ “เข้มแข็ง” ได้อย่างไรกัน!?
คงต้องเปลี่ยนชื่อ ให้เหมาะสม ฟังดูแข็งขัน และถูกต้องตรงกับความจริง
โดยให้ชื่อนิทรรศการครั้งนี้ ว่า เป็นงาน...
นิทรรศการ “แดกทั่วไทย จัญไรทั่วทิศ” ที่หาดใหญ่!!
พี่น้องชาวใต้ ไปดูกันให้ได้ นะจ๊ะ!!!
...............
ท้ายบท ใน
วาระวันสงกรานต์ ผู้เขียนขออำนวยอวยพรให้ผู้อ่านทุกท่าน สุขภาพดี มีเงินใช้
ความเจ็บให้รู้หาย ความไข้อย่ารู้มี เจริญสุขสวัสดี จงทุกประการเทอญสุขสันต์ วันสงกรานต์ ครับวาทตะวัน สุพรรณเภษัช
อนึ่ง เพื่อความเข้าใจเติมเต็มความเข้าใจ บทความวันนี้
ขอความกรุณาอ่าน คอลัมน์ ได้เวลา…ล้างกาลี!!!http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=308ประกอบด้วย
สำหรับความเห็นคอลัมน์สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้โพสต์ข้อความ ดับต่อไปนี้
ความคิดเห็นที่ 1
ต้อง หาเรือบดไทยเข้าไปกระแทกไส้แม่สองซิ้ม...เรียกพยาธิในกายออกมาโชว์ตัว บ้าง...จะได้ “อันเดอร์สแตนด์” แต่ก็ไม่แน่นะครับท่านวาทฯ ของแม่สองซิ้มนี้ อาจจะมีแร่ไยหิน ทะเล็ดออกมาก็ได้
โดยคุณ วาทฝัน ตะวันทะลึ่ง 125.24.44.XXX
ความคิดเห็นที่ 2
ตั้งแต่ จำความได้ นี่ก็หลายสิบปีแล้ว ประเทศนี้ไม่เคยสิ้นคนกระแดะจำพวกนี้เลย ทำได้เพียงรับรู้แล้วนำอุเบกขาธรรมมานำใจ ไม่ยินดียินร้าย แต่ก็ให้นึกเป็นห่วงผู้ขาดโยนิโสมนสิการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มนุษย์ย่อมเป็นไปตามกรรม พระพุทธองค์ตรัสไว้ชอบแล้ว
โดยคุณ ไม่ชอบพวกกระแดะ 115.87.106.XXX
ความคิดเห็นที่ 3
แร่ ไยหินมีประโยชน์คือ ใช้เป็นชนวนกันความร้อนในอุตสาหกรรมรถยนต์ จักรยานยนต์และอุตสาหกรรมก่อสร้างในการ ซ้อฟเสียงไม่ให้ดังกระจายเกินไป ไม่ได้เอามาสูดดมโดยตรงและเคี้ยวกินเล่นเหมือนหมากฝรั่ง จึงไม่หลักฐานทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นสาเหตุที่ก่อมะเร็ง คุณสังกะมา สารวัตรและ กรรณิการ์ กิติเวชกุล คงจะขาดข้อมูลหรือไม่ได้ศึกษาข้อมูล แต่พยายามใช้ข้อมูลบางส่วนเพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ให้กับตัวเอง มากกว่า น่าสมเพช จริง
โดยคุณ bangloa 101.51.239.XXX
ความคิดเห็นที่ 4
อ้วก เรื่องพยาธิอะไรนี่น่าเกลียดมาก. อ้วกๆๆๆๆ ในขณะเดียวกันเรื่องแร่ใยหินก็ต้องรับพิจารณาไว้ ไม่ต้องแตกตื่นเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะหลายอย่างในชีวิตประจำวันเราก็เป็นอันตรายเกือบทั้งนั้น อย่างที่เขาว่ากันแหละ "ตื่นตัวโดยไม่ตื่นตูม" ดีที่สุด
โดยคุณ รจนา 125.24.207.XXX
ความคิดเห็นที่ 5
wait to read vattavan.com every week re. switzerland
โดยคุณ pla hotmail .ch 178.83.161.XXX
ความคิดเห็นที่ 6
“โอว! ...ไม่อันเดอร์สแตนด์ ไม่อันเดอร์สแตนด์” เพราะน่าขยะแขยงมาก/ที่ชอบเรื่องพวกนี้ ไม่พ้นด๊อกเตอร์กระเทยเฒ่าคนนั้น
โดยคุณ นะยะ 125.25.139.XXX
(***คอลัมน์ ประจำสัปดาห์ ชวนไปดูนิทรรศการ “แดกทั่วไทย จัญไรทั่วทิศ” ที่หาดใหญ่ ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 13 เมษายน 2556)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น