วันนี้ (23 พ.ค.56) เวลา 10.00 น.
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ
ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว หลังปักหลักชุมนุมยาวนานร่วม 18 วัน ระบุ MOU
ที่ทำไว้ร่วมกับรัฐบาลถือว่าเป็นสัจจะสาธารณะในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน
และรัฐบาลยืนยันชัดเจนว่าจะมีการนำเอากรณีปัญหาที่ได้ข้อยุติแล้ว 2 กรณีคือ
เขื่อนปากมูล และการคุ้มครองพื้นที่ดำเนินการโฉนดชุมชนเข้าสู่ที่ประชุม
ครม.วันที่ 28 พ.ค.นี้
คำแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ยืดเยื้อมายาวนาน
ซึ่งเกิดจากความไม่จริงใจในการแก้ปัญหาของรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมาจะถูกแก้ไข
ให้ลุล่วงไปได้โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มาจากรากหญ้าและได้อำนาจตามครรลอง
ประชาธิปไตย และหวังว่ารัฐบาลจะตระหนักและเห็นความสำคัญในปัญหาของประชาชน
"เราจะกลับมาอีกครั้ง ตราบใดที่การพัฒนายังไม่เปิดโอกาสมีส่วนร่วม
และสร้างปัญหาให้พี่น้อง" สมปอง เวียงจันทร์ แกนนำสมัชชาคนจน
กรณีเขื่อนปากมูล กล่าว
ด้าน ดิเรก กองเงิน ประธานกลุ่มปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนบ้านโป่ง
กล่าวว่าการเจรจาในระหว่าการชุมนุมที่ผ่านมาแม้ประเมินแล้วชาวบ้านจะได้แค่ 1
ใน 10 ของข้อเรียกร้อง
แต่ก็ถือว่ามีความก้าวหน้าและเห็นว่ามีความพยายามในการเจรจาของคณะอนุกรรม
การแก้ปัญหาชุดต่างๆ
และใช่ว่าหากชาวบ้านมามากขึ้นปัญหาจะได้รับการแก้ไขมากขึ้น
บางกรณียังต้องอาศัยเวลาและความจริงใจของรัฐบาลในการแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมเดินทางกลับในเวลาประมาณ 5 โมงเย็น
เนื่องจากยังมีการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อการแก้ปัญหาของพีมูฟบางชุด
และช่วงบ่ายวันนี้จะมีผู้ชุมนุมไปร่วมในเวที เสวนา: กฎหมาย อำนาจ(ดุลพินิจ)ในการมีคำสั่งที่ว่าด้วยการปล่อยตัว สอดคล้องกับแนวคิดสิทธิมนุษยชนอย่างไรด้วย
แถลงการณ์มีรายละเอียดดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่ ๓๓
ยุติการชุมนุม สร้างมาตรฐานใหม่ กับการแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล
การชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรม
เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอันเป็นความเดือดร้อนที่เกิด
จากนโยบายการพัฒนา และโครงการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดในอดีต
พวกเราได้ใช้ความพยายามติดตามผลักดันการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง
จากหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ในรัฐบาลปัจจุบันนับตั้งแต่นางสาวยิ่งลักษณ์
ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พวกเราได้จัดการชุมนุม มาแล้ว ๗ ครั้ง
และครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๘ โดยการมาชุมนุมครั้งนี้ เกิดจากปัญหาหลัก ๓
ประการ ดังนี้
๑. การไม่ทำตามนโยบายของรัฐบาล ที่แถลงต่อรัฐสภา
๒. ปัญหาที่ได้ข้อยุติแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการต่อ
๓. กลไก (อนุกรรมการ) ไม่ทำหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหา
วันนี้ (๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖) เป็นวันที่ ๑๘
ในการชุมนุมของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
การชุมนุมครั้งนี้ ได้ทำให้มีการเจรจากันหลายครั้ง
รวมทั้งทำให้กลไกการแก้ไขปัญหา ในรูปของอนุกรรมการฯ
ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่มีความคืบหน้า
และอีกหลายกรณีปัญหามีแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจนมากขึ้น และเมื่อวานนี้
(๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖) ได้เกิดการทำข้อตกลง (MOU)
ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ซึ่งเป็นหลักประกันในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน
ทำให้พวกเรามีความเชื่อมั่นพอสมควร
MOU ที่ถูกทำไว้ จึงถึงว่าเป็นสัจจะสาธารณะ ระหว่างคนจนกับรัฐบาล
ว่าจะร่วมมือกันในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน สร้างความเป็นธรรม
โดยการมีส่วนร่วมระหว่างภาคประชาชนกับรัฐบาล อย่างเท่าเทียม และต่อเนื่อง
เพื่อแสดงความจริงใจ เชื่อใจ มั่นใจ โดยรัฐบาลยืนยันชัดเจนว่า
จะนำกรณีปัญหาที่ได้ข้อยุติแล้วทั้ง ๒ กรณี ( ๑.กรณีเขื่อนปากมูล
๒.การคุ้มครองพื้นที่ ฯ) เข้าสู่การประชุมพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในวันที่
๒๘ พฤษภาคม ๒๖๕๖ นี้
อย่างไรก็ตาม พวกเราขอเรียนว่า
สาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้ปัญหาความเดือดร้อนของพวกเรา ยืดเยื้อยาวนาน นั้น
เกิดจากความไม่จริงใจของรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา พวกเราหวังว่า รัฐบาลชุดนี้
เป็นรัฐบาลที่มาจากรากหญ้า และได้อำนาจมาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
จะได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญ
เข้าใจในปัญหาความเดือดร้อนของรากหญ้าอย่างพวกเรา
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องมุ่งมั่น จริงใจ
ในการแก้ไขปัญหาของพวกเราให้ลุล่วง อย่างเป็นรูปธรรม
อย่างทำเหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านๆ มา
ดังนั้น เพื่อก้าวข้ามความหวาดระแวง
และเดินหน้าทำงานแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
จึงขอประกาศยุติการชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อเดินทางกลับบ้านไปแก้ไขปัญหา
ต่อไป
ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น