วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 (go6TV) -
ที่รัฐสภา
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่ มร.มาร์ค ทรอเวล ตัวแทนจากสหภาพรัฐสภาโลก หรือไอพียู
เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าหารือกับนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ
รองประธานสภาผู้แทนราษฎรถึงสถานการณ์ทางการเมือง
และจะเข้าสังเกตการณ์และร่วมการรับฟังการพิจารณาคดีด้วย
นายพีรพันธุ์กล่าวว่า การเดินทางของ มร.มาร์ค
นักกฎหมายของสหภาพรัฐสภาโลกครั้งนี้เป็นไปตามมติของการประชุมประเทศสมาชิกทั้ง 148 ประเทศ ที่ประเทศเอกวาดอร์ เมื่อเดือน ธันวาคม 2555
เนื่องจากสนใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
และต้องการติดตามศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย
น.ส.จารุพรรณกล่าวว่า
เราได้รายงานถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทยที่เกิดขึ้นให้กับตัวแทนจากไอพียูได้รับทราบ
ซึ่ง มร.มาร์คกังวลเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย
หลังจากได้เดินทางเพื่อไปเข้าฟังการพิจารณาคดีกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์
ถูกฟ้องร้องในคดีก่อการร้ายที่ศาลอาญา
ทั้งที่เป็นในลักษณะเปิดสามารถเข้าฟังได้ปกติ
แต่เมื่อตัวแทนของไอพียูเดินทางไปเข้าร่วมรับฟัง กลับต้องถูกตรวจตรามากเป็นพิเศษ
โดย มร.มาร์คถึงกับกล่าวว่า
การกระทำดังกล่าวคล้ายกับการกีดกันไม่ให้เข้าร่วมรับฟัง แต่ก็จะเดินทางไปร่วมฟังการพิจาณาคดีอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเช่นกัน
น.ส.จารุพรรณกล่าวอีกว่า นอกจากนี้
มร.มาร์คยังเน้นย้ำกับสภาไทยว่าขอให้ดูแลผู้แทนที่ได้รับการรับเลือกจากประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างเต็มที่
เพราะการถอดถอนผู้แทนอย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับนายจตุพรนั้นง่ายดายเกินไป
จึงขอความร่วมมือกับรัฐสภาไทยให้รายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าว
และกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องตามมาตรา 68 แบบวันต่อวันด้วย
ส่วน นพ.เหวงกล่าวว่า การที่
มร.มาร์คเดินทางมาเยือนประเทศไทยนี้ ไม่ใช่เป็นการแทรกแซงทางการเมืองของประเทศไทย
เพราะเราก็เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก
และไอพียูก็มีความสนใจในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมาชิกภาพ ส.ส.
ของนายจตุพร
ซึ่งทางไอพียูก็ตั้งความหัวว่าต้องการสนทนากับตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญถึงกรณีดังกล่าว
เพื่อขอทราบเหตุผลว่าใช้กฎหมายอะไรในการทำสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายจตุพรสิ้นสุดลง
เราจึงติดต่อไปยังนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
แต่นายวสันต์กล่าวว่าไม่ให้เข้าพบ โดยให้เหตุผลว่า ไอพียูเป็นองค์กรทางนิติบัญญัติ
ส่วนศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรทางตุลาการ ไม่เกี่ยวข้องกัน
นพ.เหวงกล่าวอีกว่า
ตนขอเรียกร้องไปยังนายวสันต์ให้ทบทวนการขอเข้าพบใหม่อีกครั้ง
เพราะเชื่อว่าการพบปะพูดคุยจะสร้างความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อประชาคมโลกได้
นอกจากนี้ มร.มาร์คยังเก็บข้อมูลการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยสมาชิกรัฐสภาด้วยว่า
ทำไมอำนาจการแก้กฎหมายเป็นของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ยังทำไม่ได้
และจะศึกษาบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญด้วยว่าทำไมถึงมีอำนาจหยุดยั้งการทำหน้าที่ดังกล่าวได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น