คลิป "สรุปผลการดำเนินงานเครือข่ายผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ทบ.ภ.๔ ประเภทเทิดทูนสถาบัน" ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 (ฉก.ทพ. 45)
(7 มิ.ย. 56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเว็บไซต์ของ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 (ฉก.ทพ. 45) ซึ่งขึ้นตรงกับกองทัพภาคที่ 4 มีที่ตั้งหน่วยอยู่ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้มีการโพสต์วิดีโอคลิปหัวข้อ "สรุปผลการดำเนินงานเครือข่ายผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ทบ.ภ.๔ ประเภทเทิดทูนสถาบัน" ซึ่งเป็นคลิปที่อัพโหลดไว้ในเว็บไซต์ YouTube มีผู้ใช้นามว่า aekfocuslansaka ซึ่ง โพสต์เอาไว้ตั้งแต่ตุลาคมปี 2555 ใต้คลิปเขียนคำบรรยายว่า "สรุปผลการดำเนินงานเครือข่ายผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ทบ.ภ.๔ ประเภทเทิดทูนสถาบันโดยกรมทหารพรานที่ ๔๕"
โดยคลิปดังกล่าวซึ่งมีความยาวประมาณ 6 นาที เป็นการบรรยายผลการปฏิบัติงาน "การแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค" ของหน่วยขึ้นตรง (นขต.) ของกรมทหารพรานที่ 45 (ทพ.45) โดยมีเสียงบรรยายว่า
"ด้วยปณิธานที่แน่วแน่ เพื่อจะเป็นข้าราชการที่ดีของพระองค์ท่าน จึงนำมาซึ่งการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยการโพสต์ข้อความและตอบโต้ข้อความ รวมถึงเว็บไซต์ที่ดูหมิ่นสถาบัน ตามที่ ผบ.ทบ. ได้กรุณาอนุมัติให้จัดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทบ. เพื่อส่งเสริมและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เฝ้าตรวจสอบเว็บไซต์และกระดานสนทนาที่มีเนื้อหาพาดพิง หมิ่นเหม่สถาบัน และเข้าแสดงการเทิดทูนสถาบัน ตลอดจนตอบโต้ และด้อยค่ากลุ่มต่อต้าน"
ในคลิปดังกล่าวระบุโครงสร้างการดำเนินงานว่า มี พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 เป็นผู้มอบนโยบายและสั่งการ ขณะที่มีฝ่ายยุทธการของ ฉก.ทพ.45 เป็นผู้สนับสนุนในการจัดเตรียมข้อมูล กำหนดเป้าหมายยอดการโพสต์ กระตุ้นการปฏิบัติ ค้นหาเว็บไซต์เทิดทูนสถาบันและเว็บไซต์ที่หมิ่นเหม่ หรือพาดพิงสถาบัน
ขณะที่ส่วนปฏิบัติการ ประกอบด้วยกองร้อยหน่วยขึ้นตรง (นขต.) ของกรมทหารพรานที่ 45 และกองร้อยทหารพรานหญิงในหน่วย โดยกำหนดให้ผู้ปฏิบัติการ "โพสต์ให้ได้ตามเป้าที่กำหนดหรือมากกว่า" และเมื่อมีอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบ
ทั้งนี้ในคลิปดังกล่าวระบุว่าหน่วยได้เริ่มปฏิบัติงานมาตั้งแต่ พฤษภาคม 2553 และในระหว่างเดือนมิถุนายน 2555 - กันยายน 2555 ได้โพสต์ข้อความรวมทั้งสิ้น 1,699,038 ข้อความ หรือวันละ 13,927 ข้อความต่อวัน ผู้บรรยายในคลิปยังอ้างด้วยว่าได้ทำให้กองทัพภาคที่ 4 เป็นกองทัพภาคที่โพสต์ข้อความแสดงความจงรักภักดีมากที่สุดเมื่อเทียบกับกอง ทัพภาคอื่นๆ
ผู้บรรยายในคลิปกล่าวด้วยว่า ที่หน่วย ทพ.45 ประสบความสำเร็จเนื่องจากมี Unit School หรือการอบรมความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ให้กำลังพล มีการกำหนดเป้าหมายยอดการโพสต์ นอกจากนี้สนับสนุนข้อมูล จัดทำข้อความ จัดหาข้อความสำหรับโพสต์โดยฝ่ายอำนาจการ ที่สำคัญมีการมอบรางวัลให้กำลังพลที่ปฏิบัติงานดีเด่น โดยมีการพากำลังพลไปทัศนศึกษาที่ประเทศมาเลเซียด้วย
ในท้ายคลิป มีการสรุปอุปสรรคที่เกิดขึ้นจาก "การปฏิบัติ" ซึ่งพบว่า "เว็บไซต์ที่เปิดให้มีการโพสต์ข้อความถวายพระพร เมื่อมีการโพสต์ข้อความในแต่ละวันของหลายๆ หน่วย พร้อมกัน เป็นจำนวนมาก เป็นระยะติดต่อกันไม่เกิน 1 เดือน จะพบปัญหา" โดยในคลิประบุไว้ 3 เรื่อง โดยบรรยายว่า"1. โพสต์ข้อความไม่เข้า หรือที่เรียกว่า Error 2. มีการปิดกั้นไม่ให้โพสต์ข้อความ หรือที่เรียกว่าถูกบล็อก 3. ข้อความเต็มความจุ ทำให้ผู้ให้บริการระงับการใช้ชั่วคราว หรือที่เรียกว่า เว็บแตก"
ในคลิประบุวิธีแก้ปัญหาของหน่วยว่า จะใช้วิธีนำเว็บไซต์สำรอง หรือจัดหาเว็บไซต์ตามช่องทางต่างๆ ให้กับหน่วยขึ้นตรงไปโพสต์แทนเว็บเดิม และจัดทำเว็บไซต์สำหรับโพสต์ข้อความเองได้แก่ เว็บไซต์ของกองร้อยทหารพรานที่ 4503 และ 4513
"ด้วยความจงรักภักดีที่แน่วแน่ของพวกเราชาวกองทัพภาคที่ 4 โดยกรมทหารพรานที่ 45 ขอเป็นส่วนหนึ่งของการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และสนองปณิธานของท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ว่า ผมจะนำพากองทัพภาคที่ 4 ให้ไปยืนอยู่ในแนวหน้าของกองทัพบกสืบไป" คำบรรยายท้ายคลิประบุ
นอกจากคลิปบรรยายผลการปฏิบัติงานของ ฉก.ทพ.45 ดังกล่าวแล้ว ยังพบการโพสต์ข้อความในลักษณะใกล้เคียงกัน โดยใช้ชื่อผู้โพสต์เป็นชื่อหน่วยงานในกองทัพหน่วยอื่น เช่นกระดานข่าวในเว็บบอร์ด BKK1.in.th มีการตั้งกระทู้ "กรมทหารพรานที่ 48: ร่วมตอบโต้การหมิ่นสถาบัน" เพื่อโพสต์ข้อความเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และตอบโต้การหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2555 และมีการโพสต์ข้อความทุกวัน จนถึงปัจจุบัน (7 มิ.ย. 56)
นอกจากนี้ใน YouTube ยังมีคลิปที่โพสต์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชื่อคลิปว่า "สอนเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์" โดย ผู้ใช้นามว่า Kampanart Somklar เนื้อหาเป็นการสอนกำลังพลให้โพสต์ภาพเทิดทูนสถาบันลงในโซเชียลเน็ตเวิร์คอ ย่าง facebook พร้อม Tag ผู้ใช้ facebook ด้วย โดยหลังการโพสต์แล้ว ในคลิปตั้งแต่นาทีที่ 6 จะมีการสอนให้ทำการคัดลอก URL ข้อความ พร้อมพิมพ์ชื่อผู้โพสต์ และจำนวนที่ถูกแท็ก เพื่อรายงานส่ง "ศูนย์กรรมวิธีข้อมูล" โดยในคลิปดังกล่าวบรรยายว่าเพื่อเป็นการ "ส่งยอด" ไปยังจังหวัดทหารบก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อสำรวจในเว็บไซต์ที่มีกระดานสนทนาสำหรับแสดงความคิดเห็นจะพบว่า เว็บไซต์หลายแห่งจะสร้างหมวดหมู่ย่อย เพื่อรวบรวมข้อความเทินทูนสถาบันที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน แยกออกมาจากหมวดหมู่อื่นๆ อย่างเช่น เว็บไซต์ Sanook.com ซึ่ง truehits.net ระบุว่ามีผู้เข้าชมวันละ 9.35 แสน IP นั้น ในเว็บบอร์ดหมวด "ชุมชนสนุก!" ได้สร้างห้องย่อย "ร่วมเทิดไท้องค์ราชันย์" แยกออกมาจากประเด็นสนทนาของห้องย่อยอื่นๆ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการโพสต์ข้อความในทำนองนี้โดยเฉพาะ
โดยปัจจุบัน (7 มิ.ย. 56) ห้องย่อยดังกล่าว มีจำนวนกระทู้ทั้งสิ้น 3,492 กระทู้ มีข้อความทั้งสิ้น 279,860 ข้อความ เมื่อเปิดเข้าไปดูจะมีข้อความถวายพระพร พระราชดำรัส และพระบรมราโชวาท โดยผู้โพสต์หากไม่ใช้นามแฝง ก็จะใช้ชื่อย่อของหน่วยงานทางทหาร โดยห้องย่อยดังกล่าวมีจำนวนข้อความมากรองจากห้องย่อยอื่นๆ "สนุก!ซุบซิบ ซึ่งมี 1,057,527 ความคิดเห็น และ "ผู้ใหญ่วัยทำงาน" ที่มีข้อความ 487,673 ข้อความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น