ผู้ใช้ชื่อล็อกอินในfacebbok ชื่อ Suttirat Muttamara ได้โพสต์ภาพของเธอกับชายผู้หนึ่งที่มีใบหน้าและัรูปร่างคล้ายอดีตพระมิตซูโอะ คเวสโก และpostข้อความดังต่อไปนี้
ขอบคุณสำหรับผู้ที่ไม่หวังดีต่อ ดิฉัน ที่กล่าวหาว่าดิฉันวางยา Blackmail อาจารย์มิตซูโอะ โดยมีเจตนาทำให้ดิฉันเสื่อมเสีย ชื่อเสียง จึงทำให้อาจารย์มิตซูโอะผู้ที่ม ีเมตตา และความรักต่อดิฉัน จะต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของด ิฉัน ด้วยการเปิดเผยความจริงต่อสังคม เร็วๆนี้ ขอบคุณอีกครั้ง
สำหรับเฟซบุ๊ก Suttirat Muttamara นั้น ระบุในโปรไฟล์ว่า เกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2504 สันนิษฐานว่า คือนางสุทธิรัตน์ มุตตามระ อายุ 52 ปี ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือ เดอะควอลิตี้ กรุ๊ป และประธานกรรมการบริหาร บริษัทคิวเมดิคอลเซ็นเตอร์ จำกัด ผู้ให้บริการต่อต้านความชรา
- 4 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ***********ข่าวก่อนหน้านี้:
กระหึ่มโซเชียล:โฉมสีกาแอนต้นเหตุพระมิตซูโอะสึก
ที่มา โซเชียลเน็ตเวิร์ค
หลัง พระชื่อดังสึก ก็มีข่าววงในว่า เป็นเพราะลูกศิษย์สาวเจ้าของคลินิกเสริมความสวยกลางกรุง ไม่กลัวตกนรก ฉกหลวงพี่ไป "วิปัสสนา กำถัน" เป็นการส่วนตัวคนเดียว ปล่อยให้ลูกศิษย์อื่นเป็นหมื่นๆเดือดร้อนใจไร้ที่พึ่ง.-โสมชบา(ที่มา:คอลัมน์ โสมชบาจ๊ะจ๋า,ไทยรัฐ 21 มิถุนายน 2556 )
หลังจากเป็นข่าวซุบซิบในคอลัมน์ดังกล่้าว วันนี้ก็มีคนนำไปขยายความในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คต่อไปอีักว่า...
- เหตุผลเบื้องหลังพระมิตซูโอะลาสิขาบท ข่าววงใน...พระอาจารย์ชื่อดังถูกลูกศิษย์หญิงที่เข้ามาคลุกคลีจนสนิทสนม พาขึ้นรถเพื่อไปส่งหาหมอฝังเข็มรักษาโรค ไปถึงก็ทานอะไรนิดหน่อยแล้ววูบไป
ตื่นขึ้นมา ถูกผู้หญิงถ่ายภาพเปลือยแบล๊คเมล์ บอกว่าให้เซ็นต์เช็คของมูลนิธิจ่ายให้ก้อนใหญ่ แต่พระอาจารย์ไม่เคยใส่ชื่อตัวเองเป็นคนเซ็นต์มาก่อน เลยทำไม่ได้ กลับมาเลยไม่รู้จะทำยังไง กลัวทางนั้นเอารูปมาประจานให้ศาสนาเสื่อมเสีย เลยคิดว่าสึกดีกว่า เพราะก็อาบัติแล้ว และไม่อยากถูกใช้เป็นเครื่องมือในภายหลัง
จาก นั้นก็มีการแพร่กระจายเกี่ยวกับสีกาที่โลกโซเชียล เน็ตเวิร์คพากันกล่าวอ้างว่า เป็นเหตุให้พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ต้องลาสึก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีถ้อยแถลงใดๆจากสีกาที่ตกเป็นข่าวพาดพิงถึง ซึ่งมีข้อมูลเ้บื้องต้นว่าเธอชื่อ"สีกาแอน"อายุ 49 และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในBlueSky TVด้วย และยังไม่มีถ้อยแถลงใดๆจากฝ่ายอดีตพระมิตซูโอะ คเวสโก
แถลงการณ์ที่เป็นทางการจากวัดสุนันทวรารามก่อนหน้านี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น