แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

"อ.ธรรมศาสตร์" ชี้ "กายฟอว์กส์" แค่เท่ แต่ไร้พลังและบั่นทอนตัวเอง

ที่มา go6tv


ยุกติ มุกดาวิจิตร
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์



กายฟอว์กส์ คือนามของคนอังกฤษที่วางแผนระเบิดรัฐสภาเพื่อลอบสังหารพระเจ้าเจมส์ที่ 1 กษัตริย์อังกฤษในสมัยศตวรรษที่ 16

จาก นั้นก็มีหนังสือที่พูดถึงกายฟอว์กส์ รวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง "วี ฟอร์ เวนเดตต้า" ซึ่งมีเนื้อหาดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของเขา เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนใส่หน้ากากขาวลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ

ปี 2008 แฮ็กเกอร์กลุ่มหนึ่งเรียกตัวเองว่าพวกไม่มีตัวตน (Anonymous) ใช้สัญลักษณ์เป็นหน้ากากกายฟอว์กส์ ต่อต้านลัทธิศาสนาที่เรียกกันว่า Scientology ซึ่งคนมีชื่อเสียงและคนมีฐานะดีนิยมศรัทธากันมาก แต่กลุ่มไม่มีตัวตนเห็นว่าลัทธิดังกล่าวกำลังครอบงำสังคม

ปี 2011 มีกลุ่ม occupy movement ออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนนในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐ ต่อต้านการจับมือกันของกลุ่มทุนและรัฐบาล จากนั้นกลุ่ม occupy movement ก็ค่อยๆ แพร่ขยายไปทั่วโลก เพื่อต่อต้านประเด็นดังกล่าว

แต่ การเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวในประเทศไทยต่างออกไป โดยใส่หน้ากากต่อต้านรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้จะเป็นกลุ่มคนเดิมๆ แต่สิ่งนี้กำลังสะท้อนถึงวิกฤตอัตลักษณ์ของชนชั้นกลางในการแสดงออกทางการ เมือง 

และสะท้อนถึงภาพกลุ่มอนุรักษนิยมที่เริ่มกระจัดกระจาย 

เพราะ กลุ่มหน้ากากขาวปฏิเสธการเป็น กลุ่มก้อนที่ชัดเจนเหมือนกลุ่มเสื้อเหลืองแบบกลุ่มพันธมิตร พวกเขาไม่อยากเป็นแบบกลุ่มเสื้อหลากสี กลุ่มไทยสปริง หรือกลุ่มม็อบสนามหลวง 

ที่ เมื่อเปิดเผยตัวตน มีข้อเรียกร้องชัดเจน ก็จะตามมาด้วยการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก มีภาพลักษณ์ที่เป็นลบ และไม่มีพลังอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร 

ฉะนั้น กลุ่มหน้ากากขาวจึงไม่ยอมรับการเปิดเผยตัวตน เพราะไม่อยากมีภาพเหมือนกลุ่มที่กล่าวมา 

เมื่อ ดูจากข้อเรียกร้องที่กลุ่มนี้ชูป้ายเดินประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ มีข้อความไล่รัฐบาล มากกว่านั้นยังมีข้อความเรียกร้องให้ทหารออกมา 

สะท้อน ว่าการนำหน้ากากกายฟอว์กส์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สากลมาใช้ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าอยากจะบอกว่าตัวเองนั้นเท่ หรือสามารถสื่อสารแบบสากลได้ 

ซึ่งนอกจากจะไม่มีพลังอะไรเลย ยังเป็นสัญญาณให้เห็นว่าอุดมการณ์แบบอนุรักษ นิยมกำลังบั่นทอนตัวเอง

บน ถนนการต่อสู้ทางการเมือง คนกลุ่มนี้เดินมาจนสุดทาง ไม่มีเครื่องมืออะไรที่มีพลังพอแล้ว เพราะเขาปฏิเสธการเลือกตั้ง และเลือกใช้คุณธรรมหรือความดีเป็นเครื่องมือแทน 

แต่พอใส่หน้ากากไม่เปิดเผยตัวตนก็ยิ่งไม่มีพลังอะไรเลย เหลือแต่ความอยากแสดง ออกทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งจะไม่นำไปสู่อะไรเลยเช่นกัน 

และไม่ถึงขั้นจะก่อให้เกิดความรุนแรงใดๆ ด้วย เป็นแค่คนขี้หงุดหงิดธรรมดาๆ

ส่วน หน้ากากแดงนั้นไม่มีอะไรพิเศษ จะใส่หรือไม่ใส่ สังคมก็รู้ว่าพวกเขาคือคนเสื้อแดงซึ่งมีเป้าหมายการต่อสู้ทางการเมืองชัดเจน อยู่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น