29 มิถุนายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/thaksinofficial โดยมีเนื้อหาดังนี้
หาย ไปนานครับ เดินทางมากไปหน่อย วันนี้ทราบข่าวท่านประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดล่า (Nelson Mandela) ประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาใต้ ผู้เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อายุ 94 ปี เกิดอาการป่วยหนักรักษาตัวอยู่ในไอซียู ผมก็เลยขออนุญาตเขียนถึงท่านหน่อยครับเพื่อแสดงความนับถือและยกย่องบุคคลที่ เป็นรัฐบุรุษของโลกไม่ใช่เพียงแอฟริกาใต้เท่านั้น
ท่าน ถูกจับติดคุกหลายปีในขณะต่อสู้กับการปกครองของคนผิวขาวเพื่อเรียกร้องสิทธิ ให้กับคนผิวดำซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจนต้องถูกจับเข้าคุกไปเป็นสิบๆปี แต่ก็ไม่เคยลดละความพยายามที่จะต่อสู้
ใน ขณะที่ท่านติดคุก ก็มีภริยาของท่านคือ Winnie Mandela ภรรยาแรกที่มีบุตรด้วยกันหลายคนเป็นผู้นำการต่อสู้อยู่ข้างนอก จนท่านเนลสัน แมนเดลาพ้นคุก และลงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยชนะได้เป็นประธานาธิบดีด้วยเสียงท่วมท้น แล้วท่านก็มาเริ่มขบวนการสร้างความปรองดองในชาติโดยใช้กีฬาคือรักบี้ฟุตบอล เป็นสื่อกลางให้คนขาวและคนดำมารวมกัน ซึ่งก็ได้ผลมากจนเกิดความปรองดองในชาติได้
ผม บังเอิญรู้จักภรรยาของท่านคือ Winnie Mandela ซึ่งเป็น ส.ส.อยู่ในสภา ขณะนั้นท่านก็อายุ 80 กว่าแล้ว(ภายหลังเลิกกันและภรรยาคนปัจจุบันของท่านคืออดีตภรรยาของอดีต ประธานาธิบดีโมซัมบิก ซึ่งถึงแก่กรรมไปก่อนนานแล้ว) มาดาม Winnie ได้ชวนผมไปเยี่ยมที่บ้านที่อยู่ปัจจุบัน เป็นบ้านที่ท่านเนลสัน แมนเดลาได้มาอยู่ด้วยหลังจากออกจากคุก และก็ได้ให้ลูกสาวท่านพาผมไปเยี่ยมคารวะท่านประธานาธิบดี เมื่อ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ตอนนั้นท่านยังสมอง sharp มาก แต่ก็ไม่ค่อยดี ท่านยืนไม่ค่อยได้นาน ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านถูกล่ามโซ่ ทำให้ขามีปัญหา และท่านก็ถามถึงเหตุการณ์บ้านเราในขณะนั้น ท่านอยากเห็นความปรองดองในประเทศไทย ก็แลกเปลี่ยนความเห็นกันอยู่พักนึง
พอ วันนี้ผมก็เลยเขียนเพื่อแสดงความเคารพและหัวใจนักสู้ที่มีความเมตตาคิดถึง ส่วนรวมมากกว่าตัวเอง และก็ได้แต่อยากเห็นประเทศไทยซึ่งเคยเป็นเมืองศิวิไลซ์แต่วันนี้กลับมีความ แตกแยกได้กลับมาเป็นประเทศที่น่าอยู่เป็นที่ชื่นชมและน่าเคารพในสายตาคนอื่น เขาบ้าง แต่ก็ไม่ง่าย ถ้าเรายังอยู่กันด้วยการปล่อยข่าวลือโกหกทุกเรื่องเพียงเพื่อหวังทำลายฝ่าย ตรงข้ามเพื่อให้ตัวเองได้มีอำนาจโดยไม่เคารพกติกาของประชาธิปไตย แถมคนรักษากติกาก็ไม่มีใจเป็นธรรม
วันนี้ คนแอฟริกาใต้ไม่ว่าจะเป็นคนผิวขาวหรือคนผิวดำ เขาก็มีความรักชาติเขาและเคารพกติกาที่มีอยู่ทั้งๆที่คนผิวขาวแทบจะไม่มี บทบาททางการเมืองมากนัก เขาก็เต็มใจที่จะอยู่ในกติกาของเขา
บังเอิญ กัปตันเครื่องบินส่วนตัวผมทั้งสองคนก็เป็นคนแอฟริกาใต้ผิวขาวทั้งคู่ เลยได้คุยกันถึงการต่อสู้ของท่านแมนเดลาและการอยู่ร่วมกันของคนทั้งผิวขาว และผิวดำอย่างสันติครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น