24 มิ.ย. 56 - คณะนักเขียนแสงสำนึก ได้ออกแถลงการณ์ในวาระครบรอบ 81
ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่นำโดยคณะราษฎร
ชี้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องสำคัญในการขับเคลื่อน
ประชาธิปไตย วอนทุกฝ่ายเคารพการแสดงออกของฝ่ายต่างๆ แม้จะไม่เห็นด้วย
ระบุไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกของกลุ่มแดงเชียงใหม่ที่ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่ม
หน้ากากขาว เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา
0000
แถลงการณ์แสงสำนึกฉบับที่ ๓
วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๖
ในโอกาสครบรอบ ๘๑ ปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่นำโดยคณะราษฎร
ที่มุ่งหวังให้ “อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย”
คณะนักเขียนแสงสำนึกต้องการเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมภารกิจการทำงานความคิดขับ
เคลื่อนประชาธิปไตย เพื่อให้เกิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริง
เราเชื่อว่าตราบใดที่คนไทยยังไม่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ตราบนั้นประเทศไทยก็จะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย
แม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องที่ทำลายความเป็นประชาธิปไตย
ไม่ว่าจะเป็นการขอนายกพระราชทาน หรือการเรียกร้องให้กองทัพก่อรัฐประหาร
แม้ว่าเราจะเห็นว่าความคิดที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งโง่เขลาและน่าอดสูเป็นอย่าง
ยิ่ง แต่เรายืนยันว่าคนไทยทุกคนมีสิทธิ
เสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะความคิดเห็นทางการเมือง
ไม่ว่าความเห็นเหล่านั้นจะอัปลักษณ์เพียงใด
เราไม่เห็นด้วยกับการปิดกั้นการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นโดยสันติ
ไม่ว่าจะเป็นการปิดกั้นโดยรัฐหรือประชาชน
เราไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ในการ
ใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่มีความคิดเห็นต่างกันเมื่อวันที่ ๑๔
มิถุนายนที่ผ่านมา
และเราไม่เห็นด้วยกับการขัดขวางปิดกั้นการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น
ที่กระทำโดยสันติ ไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น
เรายืนยันว่าการกระทำที่ใช้ความรุนแรงโดยอ้างนามของประชาชนเพื่อปิดกั้นการ
แสดงออกของประชาชนนั้น เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิ เสรีภาพ
ความเสมอภาคของประชาชนที่ยอมรับไม่ได้
ฝ่ายที่อ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตยต้องมีความเคารพในสิทธิ เสรีภาพ
ความเสมอภาคของประชาชนซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานโดยไม่มีข้ออ้างใด ๆ
การกล่าวอ้างตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยโดยยอมรับกฎหมายอาญามาตรา 112
อย่างไม่เป็นธรรมและบั่นทอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอันเป็นหัวใจสำคัญ
ของระบอบประชาธิปไตย นั้นคือการกระทำที่ปฏิเสธตัวเอง
จำเป็นที่จะต้องตระหนักว่าการฟ้องร้องกล่าวโทษบุคคลใดก็ตามด้วยกฎหมายนี้
คือการกระทำที่หักหลังความเป็นประชาธิปไตย
และเป็นความอัปยศของคนที่กล่าวอ้างหลักประชาธิปไตย
หากเกลียดตัวก็จงอย่ากินไข่ เรียกร้องประชาธิปไตยก็ต้องเคารพในสิทธิ
เสรีภาพ ความเสมอภาคของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝักฝ่ายทางการเมืองใด
เชื้อชาติใด สัญชาติใด หรือศาสนาใด
ในเมื่อเรียกร้องกล่าวอ้างประชาธิปไตยก็ย่อมต้องไม่ส่งเสริมกฎหมายที่ขัดกับ
หลักประชาธิปไตย ไม่มีข้ออ้างใด ๆ
ทั้งสิ้นนอกจากความไม่ละอายแก่ใจสำหรับผู้ที่กล่าวอ้างประชาธิปไตย
หากแต่ยังฟ้องร้องกล่าวโทษบุคคลอื่นด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112
คณะนักเขียนแสงสำนึกหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนทางการได้มาซึ่งสิทธิ
เสรีภาพและความเท่าเทียม รวมไปถึงการเคารพความเห็นต่างของคนไทย
จะเกิดขึ้นแก่สำนึกของ “ราษฎรทั้งหลาย” อย่างแท้จริง
สมดังเจตนารมณ์ของคณะราษฎร
ที่ได้ทวงคืนสิทธิในฐานะพลเมืองที่เท่าเทียมกันแก่ประชาชนชาวไทยตั้งแต่
เมื่อ 81 ปีมาแล้ว
คณะนักเขียนแสงสำนึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น