แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คดีกบฎ-ก่อการร้าย ต้องทำให้...สะเด็ดน้ำ!!!

ที่มา vattavan


วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
        มื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมไปดูหนังเรื่อง Olympus Has Fallen ที่ค่ายหนังตั้งชื่อเรื่องเป็นภาษาไทย
เรียกแขกได้ดี คือ
        “ฝ่าวิกฤติวินาศกรรมทำเนียบขาว”          เนื้อหาของหนังเรื่องนี้ ไม่มีอะไรใหม่ แต่เป็นเรื่องพื้นๆ แบบ American Hero ที่มีผู้ก่อการร้ายเกาหลีเหนือ ยึดทำเนียบขาวสำเร็จ ฆ่าเจ้าหน้าที่ตายเป็นเบือ ทำลายทำเนียบขาวจนป่นปี้

content/picdata/437/data/photo_00992.jpg
        พระเอก ในเรื่อง ซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของประธานาธิบดี พบว่าตัวเองเป็นคนสุดท้าย ที่ยังมีชีวิตอยู่ในอาคารศูนย์กลางอำนาจโลก ที่ถูกยึดหลังนี้
        เขาได้ใช้ทักษะในการรบ และความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับที่อาคารทำเนียบขาว ชิงความได้เปรียบ จนในที่สุดสามารถช่วยชีวิตประธานาธิบดี และทำลายล้างผู้ก่อการร้ายชาวเกาหลีเหนือราบคาบไป
        มีถ้อยคำของประธานาธิบดีในหนัง ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิต ที่น่าจะเรียกความสนใจจากคนดูได้ คือ
        ท่านได้ยืนยันว่า
        แม้ทำเนียบขาว จะพังทลายไป เพราะฝีมือผู้ก่อการร้าย แต่อเมริกันชนไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด และจะมุ่งมั่นพาชาติเดินก้าวหน้าต่อไป
        ไม่ประหวั่นพรั่นพรึง ต่ออุปสรรคใดๆทั้งสิ้น!

        ผู้ เขียนฟังประธานาธิบดีในหนังพูดแล้ว รู้สึกดีมากทีเดียว ทำให้คิดถึงประเทศของเรา ที่แม้ไอ้พวกทหารอัปรีย์ยึดอำนาจประชาชน ตั้งแต่ 19 ก.ย.2549 เอาไปใส่มือ ไอ้พวกระยำอย่างนายพลเขายายเที่ยง และพรรคประชาธิเปรต ทำให้บ้านเมืองของเราเสียหายหนัก แต่…        พวกเราคนไทยที่รักชาติ ใช้สิทธิอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย ช่วยกันยึดกลับคืนมาได้ทุกครั้ง!!        หนังเรื่องนี้ลงโรง ในช่วงเวลาเดียวกับที่บ้านเรา มีข่าวอัยการแผ่นดิน ได้ฟ้องร้องผู้ต้องหา คดี “ก่อการร้าย” ที่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มเติมอีกชุดใหญ่ หลังจากที่เดิมได้ฟ้องร้องจำเลย คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกไปแล้วรวมสองชุด แต่ด้วย “ผู้ก่อการร้าย” แก๊งนี้ มีจำนวนมาก ไม่สามารถไปศาลครั้งพร้อมกันทั้งหมดในคราวเดียว พนักงานอัยการจึงจำเป็นต้องทะยอยฟ้องเรื่อยมาเป็นชุดๆ จนครบจำนวนตามฟ้อง
        เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 ศาลนัดจำเลยทั้งหมดมาที่ศาล เพื่อสอบคำให้การจำเลยทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กระบวนการในศาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เป็นเครื่องยืนยันว่า
        ระบบกฏหมายของเรา ยังพอเดินไปได้!

        ถ้าเรา ย้อนไปดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก่อนที่ฝ่ายพันธมาร จะเคลื่อนพลเข้ายึดสนามบิน ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด พวกเขาได้ยึดและทำลายทำเนียบ “ไทยคู่ฟ้า” ของประเทศไทย ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
        แม้ความเสียหายภายนอกทำเนียบ จะดูไม่มากมายนัก แต่ความร้ายแรงอยู่ตรงที่กลุ่มพันธมาร โจรกรรมเอา “ฮาร์ดดิสก์”  ที่บรรจุความลับของชาติ จากคอมพิวเตอร์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติไป
        ตรงนี้...กลับไปมีใครพูดถึงเลย!

        เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล และนายกฯยิ่งลักษณ์เป็นผู้นำ ผมจึงได้เขียนบทความ เร่งเร้าให้รัฐบาลปัจจุบัน เปิดฉากการสอบสวนเรื่องการโจรกรรมเอา “ฮาร์ดดิสก์” ดังกล่าวอย่างจริงจัง แต่ยังไม่มีมีความก้าวหน้าในเรื่องนี้ แต่อย่างใดเลย
        (ดูบทความ เอา ‘คลังความลับ’ ของชาติไทยคืนมา!!!    http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=241)
        จึงฝากให้รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ เร่งรัดฝ่ายตำรวจช่วยดูแล  และดำเนินคดีป็นเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โปรดอย่าปล่อยให้หายไปเป็นอันขาด เพราะเป็นการบ่อนทำลายบ้านเมืองของเราอย่างร้ายแรง และไม่รู้ว่า ข้อมูลดังกล่าวจะตกไปอยู่ในมือใคร
        ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ยาก คงไม่เกินความสามารถของ...ตำรวจไทย!        การที่พนักงานอัยการฟ้อง พล.ต.จำลอง กับพวกในข้อหา “ก่อการร้าย” เพราะกระทำผิดด้วยการยึดสนามบินในกรุงเทพ คือ สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง นั้น สร้างความพอใจให้กับผู้คนจำนวนมาก
        รวมทั้งผมด้วย!         หลังจากพรรคดักดาน ซึ่งเป็นพรรคเสียงข้างน้อย ได้รับความช่วยเหลือจากทหาร ให้เข้ามาครองอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้ เรื่องการยึดสนามบิน ซึ่งเป็นความผิดฐาน “ก่อการร้าย” อันเป็นสากล ดูเหมือนจะเลือนหายไป การดำเนินคดีกับพล.ต.จำลอง กับพวก ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชาติอย่างร้ายแรง แทบไม่มีใครสนใจออกมาพูดเรื่องนี้ หรือปรากฏเป็นข่าวเลย แต่...
        เหตุการณ์ยึดสนามบินกรุงเทพ นั้น “วาทตะวัน” ได้เขียนบทความลง www.vattavan.com และยังตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ประชาททรรศน์รายวัน ชื่อคอลัมน์ "ประชาธิปัตย์จงฟัง อย่าให้คนเขาลือกันว่าเป็น...พรรคก่อการร้าย!!!" (
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=82)
        ผมได้ระบุชัด ว่า การยึดสนามบินของพันธมาร เป็นการกระทำความผิดฐาน...

        “ก่อการร้าย”
        ตอนนั้นไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน ว่าการยึดสนามบินนั้น เป็นความผิดฐานก่อการร้าย เพราะประมวลกฏหมายอาญา เพิ่งมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไป โดยอนุวรรตตามหลักสากล จึงไม่มีใครนึกถึง
        ผมเขียนเอาไว้ อย่างนี้ครับ...

        ...เรื่องอย่างนี้ ฝรั่งต่างด้าวท้าวต่างแดนถือว่า "เป็นเรื่องใหญ่นัก ยอมกันไม่ได้!" เพราะการใช้กำลัง เข้ายึด "สนามบิน-นานาชาติ" นั้น สังคมระหว่างประเทศเขาถือว่า เป็นการ        "ก่อการร้าย!"         หรือพูดให้เต็มยศหน่อย คือ "การก่อการร้ายสากล!!"        เดิมประเทศของเรานั้น ไม่ได้มีบทบัญญัติในเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่ปัจจุบันนี้ ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1  บัญญัติให้การกระทำลักษณะนี้ เป็นการ  "ก่อการร้าย" เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ...
        หลังจากบทความดังกล่าวออกไป สร้างความปั่นป่วนเหมือนสำนวนฝรั่งที่ When the shit hits the fan หรือภาษาไทย “เมื่ออุจจาระ ปะทะพัดลม” อย่าง ที่ผมเคยพูดถึง และอธิบายความไปในคอลัมน์ก่อน ซึ่งผู้คนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เพราะคาดไม่ถึงว่าการยึดสนามบินของ พล.ต.จำลอง กับกลุ่มพันธมารนั้น เป็นความผิดร้ายแรงอันเป็นสากล คือ
        การก่อการร้าย!!

        มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา และการคาดเดาไปต่างๆนานา ทั้งฝ่ายที่โกรธเคืองคนที่ยึดสนามบิน ซึ่งทำให้ประเทศชาติของเราได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ในสายตาของสังคมระหว่างประเทศ
        ฝ่ายพวกยึดสนามบินได้อ้างว่า พวกตนไม่ผิด ไม่ได้ก่อการร้าย แต่ “ก่อการดี” ต่างหาก
        เป็นอย่างนั้นไป

        ย่าง ไรก็ตาม การสอบสวนดำเนินคดีเรื่องการยึดสนามบินใน กทม. ของ พล.ต.จำลองฯกับพวก เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ มีความเห็น “สั่งฟ้อง” พล.ต.จำลองฯกับพวกหลายสิบคน ในข้อหาร่วมกัน “ก่อการร้าย” ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา
        หลังจากการพิจารณายืดเยื้อ ยาวนาน มีการเลื่อนการสั่งคดีมาหลายครั้งหลายหน จนผู้คนเอือมระอาคิดว่าจะไปฟ้องกัน “ชาติหน้า” แต่แล้วในที่สุดพนักงานอัยการได้พิจารณาแล้วเสร็จ   มีความเห็น “สั่งฟ้อง” พล.ต.จำลองฯกับผู้ต้องหาจำนวนมาก ที่ร่วมกันกระทำความผิดฐานก่อการร้าย ตามความเห็นพนักงานสอบสวน

        คดีไปถึงศาลเรียบร้อยแล้ว คงจะเปิดการพิจารณาได้ในเร็วๆนี้ แต่ผมยังไม่ได้ยินข่าวความก้าวหน้า ในการสอบสวน เรื่อง การยึดสนามบินปักษ์ใต้ ที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันเลย
ทั้งๆที่มีการสอบสวนในเรื่องนี้แล้วด้วย
        จึงต้องถามผ่านคอลัมน์นี้ ไปยังผู้รับผิดชอบ คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า
        สอบสวนไปถึงไหน และจะแล้วเสร็จสิ้นกันเมื่อใด?

        ที่ผมต้องเขียนทวงถาม เรื่องการก่อการร้ายด้วยการยึดสนามบินภาคใต้ เพราะมีข่าวแพลมออกมา ว่า...
        ในยุครัฐบาลประชาธิเปรตเรืองอำนาจ มีความพยายามหยุดยั้งสำนวนการสอบสวนในเรื่องนี้ ไม่ให้ดำเนินการต่อไป เพราะมีนักการเมืองท้องถิ่น “วงศา-คณาญาติ” ของนักการเมืองระดับชาติ เป็นผู้นำการยึดสนามบินด้วยตนเอง...
        จึงต้องตกอยู่ในข่าย เป็น “ผู้ต้องหา” ด้วย!

        ต้องขอส่งต่อปัญหา การดำเนินคดีกับผู้ก่อการร้าย ที่ยึดสนามบินภาคใต้ ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
        ทำให้มัน “สะเด็ดน้ำ” เสียทีเถอะครับ!!!
*********
ท้ายบท นอกจากการยึดสนามบิน ทำให้ พล.ต.จำลองฯ กับพวก ซึ่งถูกฟ้องในข้อหา “ก่อการร้าย” แล้ว นั้น
        เขากับพวกยังมีข้อหา “กบฎ” ปักติดหลังอีกหนึ่งดอก!

        ขอเรียนกับท่านผู้อ่านว่า ตั้งแต่เริ่มมีเหตุการณ์ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน สร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมือง ผมได้เขียนวิพากษ์วิจารณ์ การกระทำของคนพวกนี้ แบบ “กัดติด” มาโดยตลอด ด้วยความเชื่อมั่น ว่า
        วันหนึ่ง เมื่อมีแสงแห่งความเป็นธรรม สามารถสาดส่องลอดผ่านความกาลี (ที่แผ่ “รังสีอัปรีย์” ปกคลุมบ้านเมืองของเรา มานานร่วมทศวรรษ) เข้ามาสู่สังคมไทยได้แล้ว พล.ต.จำลองฯ กับพวกเขา ที่ร่วมกันสร้างความบอบช้ำ ให้กับบ้านเมืองของเรา จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน
        วันที่ผมรอคอย มาถึงแล้ว!
        ผมเชื่อมั่นว่า ในอนาคตบทความของ “วาทตะวัน” จะต้องถูกอ้างอิง ในฐานะส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่มืดดำของบ้านนี้เมืองนี้
        ยังมีบทความที่เกี่ยวข้องอีก ดังต่อไปนี้…

        1. จำลอง ศรีเมือง กบฏและผู้นำการก่อการร้าย....ต้องโดนนนนน?!?   http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=112
        2. คดียึดสนามบิน ต้องเก็บ ‘สแปร์’ ให้เกลี้ยง!!!  http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=354
        อยากให้แฟนๆ ได้อ่านกันทุกคน จะได้มีความเข้าใจเรื่องราวของบ้านเมือง ได้ทะลุปรุโปร่ง และสามารถถ่ายทอดข้อมูลไปให้ลูกหลานของเรา ได้รู้ทั่วกันด้วย 
        นึ่ง ความเห็นของแฟน ที่โพสต์ท้ายคอลัมน์สัปดาห์ก่อน มีดังต่อไปนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 1   
สัตว์ โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่มีใครหนีพ้น คนอื่นไม่รู้ แต่ตัวเองรู้อยู่ตลอดเวลา ผลกรรมที่ทำไปจะตามหลอกหลอนในจิตตลอดเวลา เป็นไปตามพุทธภาษิตที่ว่า ไม่มีที่ลับในการทำความชั่ว
โดยคุณ
nsandee11@gmail.com  125.24.172.XXX 
ความคิดเห็นที่ 2   
อาจารย์ วาท ฯ ครับอาจารย์พูดถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ของเยอรมันที่มีต่อชาวยิวแล้ว ทำให้ผมคิดถึงความผิดปกติของจิตใจ นายมาร์ค ที่สามารถสั่งฆ่าคนไทยด้วยกันกลางกรุงได้อย่างโหดเหี้ยมและไม่สะทกสะท้านต่อ การกระทำของตนเองแต่อย่างใด ยังคงทำเหมือนกับไม่มีอะไรและพยายามยั่วยุญาติ พี่นองของผู้เสียชีวิตแล้ว อดคิดไม่ได้ว่าเขาผู้นี้ต้องมีจิตที่ผิดปกติแน่นอน ผมจำคำพูดของอาจารย์ธิดา ถาวรเศรษ ว่านายอภิสิทธิ์นั้น ถ้าได้พูดคุยและฟังเขาดี ๆ แล้ว จะเห็นความผิดปกคิดของเขา แต่ความผิดปกติที่อาจารย์ธิดา พูดถึง มีชื่อว่าอะไร และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.สุทิน คลังแสง ก็เคยพูดที่ช่อง Asia update ว่ากำลังศึกษาว่าอาการของโรคนี้มันชื่อว่าอะไร ฮิตเลอร์เองเขาก็มีความผิดปกติเช่นเดียวกันแน่นอน ฉะนั้นในโอกาสที่ DSI จะส่ง พณ อภิสิทธิ์ ให้อัยการเพื่อพิจารณาส่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลนั้น ก็ขออวยพรให้ พณ ท่านถูกศาลพิจารณาและตัดสินโดยเร็ว เพื่อจะได้นำร่างของไปแขวนที่ต้นมะขามกลางสนามหลวงให้ประชาชนได้สาบแช่งหรือ ชื่นชม และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผ้นำคนอื่นต่อไปในอนาคต เหมือนกับ ไอชร์มันน์ของเยอรมัน ในอดีตต่อไป
โดยคุณ วาดฝัน ตะวันต้องล้างแค้น  101.51.231.XXX 

ความคิดเห็นที่ 3   
สิ่งศักดิ์สิทธ์มีจริง...คนผิดต้องใช้กรรม
โดยคุณ วาดฝัน ตะวันรอเวลา  58.9.128.XXX 

ความคิดเห็นที่ 4   
ผม เห็นการปฏิวัติรัฐประหารมาหลายครั้งแล้ว ทหารก็ไม่เคยถูกลงโทษเพระอภัยโทษให้ตัวเองกับพรรคพวกมาโดยตลอด ปีนี้แม้ หน และ รอง หก ปชป จะโดนดำเนินคดี แต่เชื่อเถอะว่า รอดยกแผง เพราะศาลบ้านเราไม่เคยเข้าข้างพลเมืองตาดำ ๆ อย่างคนไทยรากหญ้า และ คน กทม ก็ไม่เคยเห็นหัวคนต่างจังหวัด เสียดายชีวิตที่ผ่านมาตัดสินใจผิดมาอยู่ กท จนแก่แล้ว ไปไหนไม่รอดแล้ว จะกลับบ้านเชียงใหม่ก็ไม่มีที่จะอยู่เสียแล้ว ก็คงได้แต่ปลงไปวัน ๆ สวดมนต์นั่งสมาธิไปจนกว่าลมหายใจจะหมด เหลืออย่างเดียวที่อยากทำก่อนตายก็คือ นั่งรถไฟความเร็วสูงไปเที่ยวแล้วกลับเชียงใหม่สักครั้ง แต่เห็นจะไม่มีวันได้นั่งแล้ว เพราะเหตุการณ์บ้านเมืองมัวแต่ขัดขาขัดขวางไม่ให้เจริญเหมือนชาติที่ ศิวิไลซ์แล้วทั้งโลก เชื่อว่าอีกไม่นาน ลาวและขมรหรือแม้แต่พม่าก็จะก้าวล่วงหน้าประเทศไทยเเราแน่นอน ผมคิดว่าผมคงตายเสียก่อนที่จะเห็นวันเช่นนั้นนะ เจ้าประคู้ณ
โดยคุณ
คนชราจากล้านนา/kokpor@hotmail.com  14.207.47.XXX    
ความคิดเห็นที่ 5   
ยัง หวั่นใจว่ากฎหมายจะเอื้อมไปไม่ถึงผู้สั่งการทั้งสอง และถ้าทำตรงไปตรงมาจริง ๆ อาจมีผู้เกี่ยวข้องที่ใหญ่โตจริง ๆ อีกหลายคน คนทำคงเจอตอแน่ ๆ และใครจะเป็นผู้กล้าที่แท้จริงที่จะทำคดีเพื่อลากคอคนเหล่านั้นให้มารับโทษ มองแล้วเห็นแตความมืดมิด ยังมองไม่ออกเลยว่าจะทำกันอย่างไร ยิ่งมองเห็นตัวกลั่นสองตัวยังหน้าระรื่นอยู่ ยิ่งมีความหวังน้อยลง ฤาเมืองไทยยังไม่ถึงเวลาที่จะขจัดคนชั่วให้หมดไปจากแผ่นดินได้ในห้วงเวลานี้
โดยคุณ ไม่แน่ใจ  115.87.99.XXX 

        (***คอลัมน์ ประจำสัปดาห์ คดีกบฎ-ก่อการร้าย ต้องทำให้...สะเด็ดน้ำ!!! ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 29 มิถุนายน 2556)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น