แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มองรัฐประหารอียิปต์เทียบกับการเมืองไทย

ที่มา Thai Free News

 โดย Bugbunny



ผู้ ปกครองในสาธารณรัฐอียิปต์หลังยุคสมบูรณาญาสิทธิราช นับตั้งแต่สมัย อับดุล กาเมล นัสเซอร์ อันวาร์ ซาดัต จนถึง ฮอสนี มูบารัก นั้น เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ ทุกคนเป็นอดีตนายทหารนายพลมาก่อนทั้งสิ้น รัฐธรรมนูญของอียิปต์ให้อำนาจประธานาธิบดีมาก เพราะทหารสั่งให้นักกฎหมายสุนัขรับใช้เผด็จการช่วยกันร่างขึ้น ต่อมาคนพวกนี้ได้รับตอบแทนให้เป็นตุลาการในศาลต่าง ๆ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้มีอำนาจสูง แต่ตัดสินคดีตามธงที่ประธานาธิบดีตั้งมาทั้งนั้น แล้วอ้างว่าเป็นการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
 
ไม่ ได้ต่างอะไรกับสิ่งที่เรียกกันว่าศาลรัฐธรรมนูญแถวนี้ หลายคนเป็นนักกฎหมายสุนัขรับใช้พวกรัฐประหาร ผู้เคยถูกใช้ให้ร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเผด็จการ หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับการรับใช้เผด็จการบางเรื่องมาก่อนแทบทั้งสิ้น

ตอน ฮอสนี มูบารัก ตกจากอำนาจด้วยการลุกฮือของประชาชนนั้น เคยมีคนตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า ไม่น่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงนัก เพราะกองทัพยอมรับการเปลี่ยนแปลงแค่ตามน้ำไปกับสถานการณ์สากลเท่านั้น แต่กองทัพและศาลรัฐธรรมนูญสุนัขรับใช้นั้น จริง ๆ ไม่ได้ยอมรับอะไรหรอก ยังคงทำตัวเป็นมาเฟียควบคุมประเทศอยู่ตลอดเวลา

เห็น ได้จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญอียิปต์เคยสั่งไม่ให้สภาจัดการประชุม แต่สภาปฏิเสธ จึงต้องตามมาด้วยการประท้วงของพวกเสรีนิยม ที่กลายเป็นการรัฐประหารสองวันก่อน ทุกเรื่องพิสูจน์ชัดว่ากองทัพและศาลรัฐธรรมนูญอียิปต์ไม่ยอมรับรัฐบาลที่ ประชาชนเลือกตั้ง รวมทั้งอาจอยู่เบื้องหลังการประท้วงรัฐบาลด้วย เพราะทันทีที่พวกนั้นเรียกร้องให้กองทัพโค่นล้มรัฐบาลมอสซี่ กองทัพก็รีบเด้งรับทันที คงวางแผนไว้ร่วมกันมาก่อนแล้ว

นี่ มันคล้ายกับกิจกรรมของพวกพันธมิตรสมัยรัฐบาลนายกทักษิณมาก อย่างเรื่องเรียกร้องรัฐบาลพระราชทาน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงสังคมโลกเขาก็อาจถือได้ว่าเป็นการรัฐประหาร เพราะการขอรัฐบาลพระราชทานมิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2540 เมื่อทำไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นรัฐประหารสิบเก้ากันยา ต่างกันแค่ที่อียิปต์ผู้อยู่เบื้องหลังเป็นกองทัพ แต่ของไทยเป็นพวกอำมาตย์และพวกอนุรักษ์นิยมสุดขั้วที่ใช้บารมีสั่งทหารในกอง ทัพได้ โดยอ้างว่าพวกตนมีอำนาจมากกว่า รมว.กลาโหมและนายกรัฐมนตรี

วันนี้รัฐประหารในอียิปต์กำลังกลายเป็นการสังหารหมู่ประชาชน และกองทัพก็ คงต้องปะทะกับกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ผู้สนับสนุนรัฐบาลมอสซี่รุนแรงและยาวนานขึ้นแน่ อย่าลืมว่ากลุ่มนี้เคยประกาศไว้แล้วว่ากำลังทำสงครามศักดิ์สิทธิ์หรือจิฮัด มาตั้งแต่ตอนปะทะกับกลุ่มเสรีนิยมสองสามสัปดาห์ก่อน กองทัพนั้นมีกำลังการทหารสูงกว่าแน่ แต่ก็จงอย่าลืมอีกเช่นกันว่า อันวาร์ ซาดัต อดีตประธานาธิบดี นั้น ถูกลอบสังหารโดยทหารในกองทัพระหว่างงานสวนสนามของกองทัพเองด้วยซ้ำ เพราะถือว่าทรยศต่อชาติในการร่วมมือกับอิสราเอล 

ใน ประเทศไทยนั้น คนสมองน้อย ปากพล่อยมาก แบบนายอภิสิทธิ ที่ไม่ได้มองสถานการณ์ให้ทั่วถึงเลย รีบออกมาบอกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็อาจถูกโค่นล้มจากประชาชนได้นั้น ควรหยุดปากพล่อยรอดูสถานการณ์ในอียิปต์ให้มันผ่านพ้นไปอีกพักหนึ่งดีกว่า เรายังไม่รู้ว่าใครจะชนะคราวนี้ แต่นายอภิสิทธิควรจะจำ ใส่กะโหลกไว้ให้ลึก ๆ ด้วยว่า แค่สองเดือนหลังการสังหารหมู่ประชาชนปี 53 นั้น ปรากฏการของคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์โดยไม่มีแกนนำนั้น มันทำให้ทั้งนายอภิสิทธิ นายสุเทพ และบรรดามหาอำมาตย์ทั้งหลายต่างหวาดผวากันมากแค่ไหน บอกได้ว่าเรื่องที่อียิปต์นั้นยังไม่จบ รวมทั้งเรื่องในเมืองไทยด้วย 

ผม ไม่เห็นด้วยเป็นส่วนตัวกับการที่ประเทศอียิปต์จะเป็นรัฐอิสลาม เพราะแม้แต่ต้นฉบับอย่างอิหร่านทุกวันนี้ก็ไม่ได้สุดโต่งแล้ว คนเคยไปเที่ยวมาเขายืนยัน แต่ผมไม่ยอมรับการทำรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแน่นอนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น