แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไม่ต้องไปไว้หน้า “พวกแม่งงง” แล้ว!!!

ที่มา vattavan


วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
        มื่อสองเดือนก่อน คือวันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม 2556 ผมได้เขียนบทความเรื่อง
        ต้องถอนประกัน ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ กบฏ-ผู้ก่อการร้าย!!!
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=429
        แต่...
        เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองผู้รับผิดชอบ ยังไม่ได้ดำเนินการตามคำแนะนำของผมแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจท้องที่ซึ่งสนามหลวงตั้งอยู่ คือ สน.ชนะสงคราม ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ตำรวจสันติบาล ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ยังไม่ได้เคลื่อนไหว เพื่อทำตามหน้าที่แต่อย่างใด

        ดังนั้น ผมจะระบุซ้ำอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งผมเอ่ยถึงข้างต้น ตระหนักในการทำหน้าที่แห่งตน ว่า
        นาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้นี้ เป็นจำเลยของศาลอาญากรุงเทพ โดยมีคดีที่พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องว่า บุคคลผู้นี้ ได้กระทำความผิดฐานก่อการร้าย 
        ใช่แต่ แค่นั้นนะ!        จำเลย คนนี้ ยังต้องคดีกบฏในราชอาณาจักร อันสืบเนื่องมาจากการยึดสถานที่ราชการ คือ “ทำเนียบรัฐบาล” นานนับเดือน สร้างความเสียหายมากมาย ซึ่งพนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งคดีแล้ว แต่เจ้าตัวหาได้สำนึก ทั้งๆที่อยู่ระหว่างประกันตัวจากศาลในคดีก่อการร้ายด้วย

        นาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ไม่ได้ตระหนักในการกระทำของตน ว่าเป็นการทำร้ายบ้านเมือง ยังบังอาจปลุกระดมมวลชนอย่างต่อเนื่อง และได้เข้ายึดสนามหลวง ก่อนพิธีเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธี จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
        ยิ่งไปกว่านั้น         จำเลยในคดีก่อการร้าย ซึ่งเป็น ส.ส.สอบตกผู้นี้ ได้บังอาจประกาศว่า สนามหลวงเป็นเขตปลอดอำนาจรัฐ โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและสื่ออื่น ได้ลงเผยแพร่คำประกาศนี้ อย่างชัดเจน โดยแสดงท่าทีไม่ใส่ใจขื่อแปของบ้านเมือง
        การที่นาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ จำเลยของศาลคนนี้ ยังคงอวดศักดาได้ เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง ละเลยไม่กระทำตามหน้าที่ ทำให้ไอ้หมอนี่ เหิมเกริม ถึงขั้นยกขบวนม็อบกาลีจากสนามหลวง ไปแสดงบทบาทในที่ต่างๆอย่างต่อเนื่อง เช่น การถวายฎีกาทางการเมือง เป็นต้น 
        ล่าสุดนาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้ยกพวกมวลชนจัดตั้งของตนออกจากสนามหลวง ปิดทางเข้าออกกระทรวงกลาโหม
เมื่อ 11 ก.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่นายกฯปู เดินทางเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
        แต่...
        เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงกำลังอย่างชัดเจน จนฝ่ายผู้ชุมนุมหวาดผวา ไม่อาจก่อความรุนแรงได้ เพราะเกรงว่า
        จะเจ็บตัวซ้ำรอย เหมือนครั้งม็อบ ไอ้เสธเอี้ย กับ ไอ้รักษ์ รักษ์พงษ์ เดียรถีย์จังไร แห่งสำนักสันติกระโปก นั่นเอง!

        ารยกพวกไปปิดล้อมกระทรวงกลาโหมนั้น ทำให้ศาลท่านทนไม่ไหว ได้ออกหมายเรียก "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์" ไต่สวนเพื่อพิจารณาถอนประกัน เหตุพาม็อบปิดล้อมกลาโหม 
content/picdata/440/data/photo_00997.jpg
        ทั้งนี้ เมื่อ 12 ก.ค. พ.ศ. 2556 นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้กล่าวถึงกรณีที่นาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มเครือข่าย นำกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 300 คน ชุมนุมบริเวณด้านหน้ากระทรวงกลาโหม เพื่อปิดล้อม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ให้เข้าไปภายในกระทรวงกลาโหมเพื่อเข้ารับตำแหน่ง
        ท่านอธิบดีศาล ได้พูดชัดเจนว่า         ได้ทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนทราบว่า นายไชยวัฒน์จำเลยสาลในคดีก่อการร้าย ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุม ไปปิดล้อมที่บริเวณกระทรวงกลาโหมทุกด้าน เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นเข้าออกได้ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเกินเลยที่ควรจะเป็น
        หมิ่นเหม่และอาจจะผิดเงื่อนไข การประกันตัวของศาล!

        ทั้งนี้ นายไชยวัฒน์ มีสถานะเป็นจำเลยในคดีที่กลุ่มพันธมิตรปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เมื่อปี 2551 ซึ่งศาลได้กำชับเงื่อนไขว่า ไม่ให้ปลุกระดมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งท่านอธิบดีได้ปรึกษากับองค์คณะแล้ว ศาลอาญาจึงได้ออกหมายเรียก ให้นายไชยวัฒน์ มาไต่สวนต่อหน้าศาลว่า        ได้กระทำการดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งหากนายไชยวัฒน์ กระทำการดังกล่าวจริง ก็อาจจะเข้าข่าย        ผิดเงื่อนไขประกันได้!
        ผู้เขียนรู้สึกได้ใจ ที่ท่านอธิบดีศาล ได้ออกมาแสดงบทบาทอย่างเข้มแข็ง เพื่อช่วยรักษาความสงบในบ้านเมืองของเรา เพราะจะทำให้พวกจำเลยในคดีก่อการร้าย อย่างนายไชยวัฒน์ กับพวก บังเกิดความยำเกรง ไม่กล้ากระทำตนเป็นภยันตราย ต่อความสงบสุขของบ้านเมือง ได้อีกต่อไป
        อย่างไรก็ตาม ผมขอให้ท่านอธิบดี เรียกพยานซึ่งเป็นผู้รักษากฏหมายเพิ่มเติม คือ

        1.ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
        2.ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม

        ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสองนายจะสามารถเบิกความ ให้ศาลเข้าใจถึงความเคลื่อนไหวของนายไชยวัฒน์ กับพวก และผู้สนับสนุนของเขา อย่างเจ้าลัทธิกาลี “สันติกระโปก” คือ ไอ้เถนจังไร นายรักษ์ รักษ์พงษ์ ที่ ตะบี้ตะบัน แหกปากปลุกปั่นชาวบ้าน ให้ก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองของเรา ผ่านทางสื่อของพวกมัน ทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ อยู่ทุกวี่ทุกวัน
        คำให้การของเจ้าหน้าที่ทั้งสองนาย จะเป็นหลักฐานสำคัญ ในการที่ศาลจะนำไป ประกอบการพิจารณา “ถอนประกัน” ตัวป่วนบ้านป่วนเมือง อย่างไอ้ไชยวัฒน์ด้วย

        นอกจากปัญหาที่ล่าวมาข้างต้นแล้ว ผมยังมีข้อเสนอบางประการ สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ง. สำนักงานอัยการสูงสุด รับไปพิจารณาดำเนินการ หากเห็นสมควร ดังต่อไปนี้
        ะหว่าง คดี “ก่อการร้าย” ด้วยการยึดสนามบินแห่งชาติ ยังอยู่ในการพิจารณาของศาลอาญา เห็นควรให้พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ แล้วแต่กรณี พิจารณาดำเนินการดังต่อไปนี้
        1. เสนอให้ ป.ป.ง. พิจารณาอายัดทรัพย์ของจำเลย ผู้ถูกฟ้องคดีในความผิดฐานก่อการร้าย เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินเพราะหากศาลตัดสินว่าจำเลยกระทำผิด จริง กฏหมายให้ยึดทรัพย์จำเลยด้วย
        จึงมีความจำเป็น ต้องอายัดทรัพย์จำเลยทั้งหมด ระหว่างการดำเนินคดี

        2. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแจ้ง “องค์กรตำรวจสากล” ถึง รายชื่อจำเลยทั้งหมด ที่ถูกฟ้องร้องต่อศาลไทย ในข้อหาก่อการร้าย อันเป็นความผิดร้ายแรงซึ่งเป็นสากล ตามแบบธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติระหว่างกัน ในการแลกเปลี่ยนข่าวสารอันเกี่ยวเนื่องกับอาชญากรผู้กระทำผิด
        3. ทำหนังสือแจ้งเตือน สายการบินทุกสายว่า มีบุคคลใดบ้าง ที่ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานก่อการร้าย ในประเทศไทย เพื่อให้สายการบินเหล่านั้น พิจารณาในเรื่องการรักษาความปลอดภัยตามควรแก่กรณี
        4. ส่งรายชื่อจำเลยในคดีก่อการร้าย ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ให้สถานเอกอัครราชทูต สถานทูต สถานกงสุล เพื่อทราบ เพื่อประกอบการพิจารณา หากมีจำเลยคนใด ยื่นขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศนั้นๆ
        5.ให้กองตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาห้ามบุคคลที่ตกเป็นจำเลยศาลไทยในความผิดฐานก่อการร้าย เดินทางออกนอกประเทศ ระหว่างการพิจารณาของศาล จนกว่าการพิจารณาเสร็จสิ้น เพราะมิให้เป็นที่ครหา ในสังคมอารยะประเทศว่า          จำเลยในคดี “ก่อการร้าย” ของประเทศไทย ยังมีสิทธิเดินทางไปปรากฏกายในประเทศอื่น เช่นเดียวกับผู้ก่อการดี หรือประชาชนคนธรรมดา ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ทำให้กระบวนการพิจารณาหรือการปฏิบัติต่อผู้ก่อการร้าย ของประเทศไทย ถูกดูแคลนได้
        6. ให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลพิจารณาวางข้อกำหนด พิจารณาห้ามบุคคลที่ตกเป็นจำเลยศาลไทย ในความผิดฐานก่อการร้าย เดินทางออกนอกประเทศ ระหว่างการพิจารณาของศาล จนกว่าการพิจารณาเสร็จสิ้น ตามนัย ข้อ 5 และ         ห้ามมิให้จำเลยทั้งหมด เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง จนกว่าคดีเสร็จสิ้น!
        ผู้เขียนมีความเห็นว่า ไหนๆก็มีการฟ้องร้องต่อ คดีก่อการร้ายต่อศาลอาญา ในประเทศแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ การพิจารณาคดีถูกจับจ้องโดยนานาชาติ
        ดังนั้น จึงควรใช้มาตรฐานเข้มข้น แตกต่างจากคดีปกติ เพราะ “คดีก่อการร้าย” ด้วย การยึดสนามบินเป็นเรื่องใหญ่และเป็นคดีสำคัญ สังคมระหว่างประเทศถือว่า เป็นอันตรายต่อพลเมืองนานาชาติ อย่างร้ายแรง และระหว่างการยึดสนามบินของพวกจำเลยนั้น ถึงขั้นมีข่าว ว่า
        สหรัฐ อเมริกาจะส่งกำลัง บุกเข้าโจมตีสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อช่วยเหลือพลเมืองของเขา ที่ตกอยู่ในอันตราย เพราะการคุกคามของนายพลจำลองฯกับพวก!

        ชาว ต่างประเทศที่ไปสนามบิน ในวันที่ผู้ก่อการร้าย บุกเข้ายึดสนามบินนานาชาตินั้น ได้รับความทุกข์ทรมานและความเดือดร้อนทั่วหน้า และสาปแช่งด่าประเทศไทยเสียๆหายๆ อย่างที่ได้เห็นกันในข่าวแล้ว
        จึงควรดำเนินการ ตามมาตรฐานอันเป็นสากล เพื่อมิให้ถูกตำหนิจากชาติอื่นๆว่า ผู้รักษากฏหมายบ้านเรา ไม่มีความเป็นมืออาชีพในการทำคดีร้ายแรง ที่นานาชาติต่างถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต และ...
        ที่สำคัญ คือ...
        บัดนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่รัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ต้องขยับตัว กุมด้ามตะบองกระชับอำนาจรัฐ ที่ถืออยู่ในมือให้มั่นคง ทอดสายตาจับจ้องมองความเคลื่อนไหว ของ “ไอ้พวกกาลีบ้าน กาลีเมือง” ให้จงดี
        เราจะปล่อยให้พวกมัน ยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ไม่ได้อีกแล้ว!
        หากจำเป็น ต้องกรายกราดตะบองอำนาจในมือให้เต็มเหนี่ยว เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และขื่อแปของบ้านเมืองของเราไว้ ให้จงได้!!
        ไม่ต้องไปไว้หน้า “พวกแม่งงง” แล้ว!!!
.............
ท้ายบท ขอบอกข่าวไปถึงคนไทยที่รักชาติ รักบ้านรักเมืองทุกคนว่า
        จากนี้ต่อไป “วาทตะวัน” จะกัดติดพฤติกรรมเสนียดแผ่นดินของไอ้เถนอัปรีย์กับพวก อย่างไม่ลดละ   
        แล้วคอยดูกัน! 

        นึ่ง สำหรับความเห็นของแฟน ที่โพสต์ท้ายคอลัมน์สัปดาห์ก่อน “สื่อ”...อย่า “ตอแหล” กับประชาชน!!! http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=439
มีดังต่อไปนี้
ความคิดเห็นที่ 1   
ตอแหล ตอหลดตดใต้น้ำ จงครั้นคร้ามความจริงต้องปรากฎ สื่อคิดชั่วเมามัวไม่ละลด ทุรยศจรรยาอาชีพตน ฟุ้งกระจายขายข่าวเข้าใจผิด คนน้อยนิดลุ่มหลงพะวงหา ด้วยมืดบอดขัดสนจนปัญญา มินำพาดีร้ายป้ายสีคน หูคนเรานั้นมีถึงสองข้าง เปิดใจกว้างฟังดูอย่าสับสน ความข้างเดียวฟังไปไร้ตัวตน เปิดกมลฟังดูจึงรู้ความ ตั้งใจสื่อให้คนเข้าใจผิด อำมหิตคิดชั่วมั่วตัญหา เมื่อวันที่สื่อชั่วต้องโรยรา วันนั้นหนาเวรกรรมจะตามทัน... ขอใช้สำนวนของท่านวาทฯ “ตอแหลตอหลดตดใต้น้ำ”มาเป็นคำต้นร้อยกรองบทนี้หน่อยนะครับ (ด้วยความเคารพเป็นที่ยิ่ง)
โดยคุณ วาดฝัน ตะวันตอผุด  101.108.68.XXX 

ความคิดเห็นที่ 2   
ฟัง อยู่เหมือนกัน ยัยสองคนนี่ เวลาพูดถึงคุณปู ชอบทำเสียงสูงๆต่ำๆ ทำนองเย้ยหยันนายกฯ บางครั้งสำเสียงดูถูก น่าขยะแขยงมาก ใครฟังก็รู้
โดยคุณ กระแจะจันทร์  101.108.3.XXX 

ความคิดเห็นที่ 3   
ฟัง อยู่เหมือนกัน ยัยสองคนนี่ เวลาพูดถึงคุณปู ชอบทำเสียงสูงๆต่ำๆ ทำนองเย้ยหยันนายกฯ บางครั้งสำเสียงดูถูก น่าขยะแขยงมาก ใครฟังก็รู้
โดยคุณ กระแจะจันทร์  101.108.3.XXX 

ความคิดเห็นที่ 4   
ผม มีความเห็นตามอาจารย์มาตลอด แต่วันนี้ผมขอแย้งมั่งใเรื่องสรยุทธว่าเขาไม่ได้ดีอย่างที่เห็น มันเป็นการสร้างภาพเพื่อช่อง 3 คน ๆ นี้ไม่ต่างจสกนายกนก และพวกเนชั่ว(ตามที่ อ.เรียก เพราะเกิกมาจากที่เดียวกน ก่อนจะแยกกันเพื่อโจมตี รบ ไทยรักไทย มาจนถึงเพื่อไทย)ผมเองในตอนแรกเริ่มก็ไม่ได้ชื่นชอบเขานักหรอก ทั้ง ๆ ที่เป็น นร.มงฟอร์ตมาด้วยกน และพาอเรารู้จักกนดีด้วย แต่เขาได้ทำให้ผมเปลี่ยนใจด้วยการทุ่มเทให้คนชั้นล่าง (แม้ว่า อาจจะหวังผลทางใดก็ทางหนึ่งก็ตามที่ลึก ๆ เราไม่รู้แน่)แต่ก็ยังดีกว่าพรรค ปชป หลายเท่าตัว ปทท วังเวงมานานและยังจะล้าหลังจนลาวอาจแซงหน้าได้ในเร็ว ๆ นี้แล้วครับท่าน เพราะเราไม่รักกันเอง ก็สมน้ำหน้าดีจุงเบย
โดยคุณ คนชราล้านนา  14.207.58.XXX 

ความคิดเห็นที่ 5   
ได้ ติดตามบทความของท่านมานาน ราวสิบกว่าปีที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่เวปผู้จัดการ เมื่ออ่านบทความของท่านแล้วได้นำสิ่งที่เป็นความรู้ และที่เป็นเรื่องราวที่ขำขำหลายๆอย่าง ไปใช้เสริมในการประกอบการบรรยายให้ผู้ฟังได้ตาสว่างและรู้เพ่ิมในสิ่งที่ไม่ เคยรู้มาก่อน เช่นดอกไม้ประจำจังหวัดต่างๆ หรือคำว่า แห่กันแดก(ไอศครีม)หรือคำว่า คาราบาว(ควาย ในภาษาฟิลิปปินส์) เป็นต้น ทำให้ผู้ฟังได้ขำๆกันและได้ความรู้ด้วย และบทความของท่านยังบันทึกเป็นหลักฐานไว้ให้อ้างอิงได้ชัดเจนอีกด้วย ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
โดยคุณ รินทร์  58.8.224.XXX 

ความคิดเห็นที่ 6   
ไอ้ เช็ค อีกตัวครับอาจารย์ ออกมาตอแหลว่า ข้าวถุงตราฉัตร ปนเปื้อนสารพิษ ถึงขนาดหนูกินตายใน 5 นาที รัฐพยายามช่วยชาวนา แต่มันดันเหยียบย่ำชาวนา ที่แท้มันทำเพื่อให้ข้าวถุงของมันขายได้นี่เอง ใครกันแน่ที่ขายชาติครับอาจารย์โดยคุณ narongsubsangar  125.26.110.XXX

ความคิดเห็นที่ 7    อยาก ให้คุณวาทตะวัน สุพรรณเภษัช ช่วยลองฟังรายการ 6โมงเช้าของคลื่น 99 อสมท. มีผู้ดำเนินรายการหญิงคนนึง กับนายแพทย์ ปํญญา ไข่มุกด์ ผู้ดำเนินรายการคนนึ้ ทุกวันออกมาให้ข่าวโจมตีทุกเรื่องเกี่ยวกับ กระทรวงสธ. กรณีคอมฉาวที่ปปช.ไม่มีหลักฐานจนต้องเลิกไป กรณีแพทย์ชนบทที่มาหาเรื่อง รมว.สธ. ทุกวันเข้าใจว่าหล่อนมีเอี่ยวกับ สสส. แพทย์ชนบทและพวกที่ต้องการล้มรัฐบาล อยากให้ฟังและเขียนถึงผู้ดำเนินรายการ ทำตังเอียงกะเท่เร่ แล้วให้ข่าวผิดๆ กับผู้ฟัง ขอบคุณมากคะ่
โดยคุณ
wari2497@gmail.com  27.130.111.XXX
ความคิดเห็นที่ 8   
อยาก ให้พูดถึงกรณีเต้าข่าวว่าข้าวมียาฆ่าแมลง ของพิธีกร กบ.......คนนี้ โดนโรงสีฟ้องกันถ้วนหน้า ปล่อยข่าวออกมาจนการค้าข้าวของคนอื่นเสียหาย แต่ตนเองก้อเสือกขายข้าวด้วย อย่านึกว่าประชาชนคนอื่นโง่
โดยคุณ  125.27.4.XXX

ความคิดเห็นที่ 9   
สื่อไม่เคารพต่อจรรยาบรรณ ไม่ใช่สื่อหรอก เขาเรียก...........
โดยคุณ mama  182.52.27.XXX   

        (****คอลัมน์ประจำสัปดาห์  ไม่ต้องไปไว้หน้า “พวกแม่งงง” แล้ว!!! วันเสาร์ ที่ 20 กรกฎาคม 2556)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น