เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.ค.56) สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย จัดเสวนาเปิดครั้งที่1 “ทิศทางนักเรียนไทยในอนาคต” มีผู้เข้าร่วมจากกลุ่มต่างๆ กว่า 30 คน อาทิ สมาพันธ์ฯ เครือข่ายผู้ปกครอง กลุ่มแอนตี้โซตัส มีการอภิปรายกันถึงปัญหาในวงการศึกษา ทั้งการจัดการเรียนการสอน เช่น วิชาประวัติศาสตร์ ที่เน้นท่องจำ และมีแนวทางชาตินิยม ระเบียบเรื่องเครื่องแบบและทรงผมที่เคร่งครัดมากเกินไป
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เลขาธิการสมาพันธ์ฯ กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดให้คนภายนอกรู้จักสมาพันธ์ฯ มากขึ้น เพราะที่ผ่านมา มีคนสงสัย เรื่องการรณรงค์ยกเลิกความเป็นไทย เรื่องทรงผม จึงต้องชี้แจง พูดคุยให้รู้ว่าข้อเรียกร้องของแต่ละคนไม่ได้มุ่งสนองความต้องการส่วนบุคคล แต่ต้องการให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงการศึกษา เพื่อส่งต่อให้รุ่นลูกหลานมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยที่ผ่านมาได้จัดเสวนาภายในมา 8-9 ครั้งแล้วทุกเดือน นี่เป็นครั้งแรกที่เปิดให้คนรู้จักตัวตนสมาพันธ์ฯ มากขึ้น ส่วนเรื่องทรงผมนั้นมีแผนว่าจะรณรงค์อย่างต่อเนื่องต่อไป รวมถึงจะมีการรณรงค์เรื่องรัฐสวัสดิการ เพื่อการเรียนฟรีด้วย
บุญญาภิวัฒน์ สมบูรณ์ทรัพย์ สมาชิกสมาพันธ์นักเรียนฯ กล่าวว่า หลักสูตรการศึกษาของไทยเป็นแบบปิด และใส่อุดมการณ์ความเป็นไทยมากเกินไป ซึ่งอาจจะดีสำหรับประเทศกำลังพัฒนา แต่พอนานไปก็พบว่ากฎต่างๆ นั้นรุงรังมากเกินไป ไม่ว่าเรื่องทรงผม เสื้อผ้า พร้อมเปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่นว่า แม้จะต้องใส่เครื่องแบบนักเรียนเหมือนกัน แต่ก็มีกฎที่ยืดหยุ่นและเปิดพื้นที่ให้เด็กได้แสดงออกมากกว่า
เจตน์ ศรีมุษิกโพธิ์ สมาชิกสมาพันธ์นักเรียนฯ กล่าวว่า มีข้ออ้างจากฝั่งครูว่าระเบียบเรื่องทรงผมนั้นมีเพื่อให้เด็กปฏิบัติตาม เพื่อต่อไปจะปฏิบัติตามกฎในสังคมที่ใหญ่ขึ้นได้ ขณะเดียวกัน เขามองว่าการมีระเบียบเหล่านี้ก็เป็นการควบคุมเด็กให้ต้องว่านอนสอนง่ายและ ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง พร้อมชี้ว่าปัญหาที่เป็นอยู่คือ ผู้ใหญ่ซึ่งเป็นคนนอกนั้นเป็นคนออกกฎ แต่เด็กซึ่งอยู่ในระบบ เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่มีสิทธิแสดงความเห็นหรือออกกฎเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น