ปตท.ยันคราบน้ำมันอยู่ในวงจำกัด-พร้อมชดเชยค่าเสียหาย และเร่งฟื้นฟูหาดโดยเร็ว ด้าน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง เผยถ้ากำจัด"น้ำมันดิบ"ไม่ทันสุดสัปดาห์นี้ การท่องเที่ยวอ่วมแน่
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
PTT กล่าวถึงความคืบหน้าการขจัดคราบน้ำมันที่ อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ว่า
จะใช้เวลาไม่กี่วันในการขจัดคราบน้ำมัน
ซึ่งขณะนี้คราบน้ำมันอยู่ในวงจำกัดเพียง 50 เมตรจากฝั่ง
โดยวันนี้จะสามารถนำเครื่องจักรกลหนัก
และอุปกรณ์เข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่ได้ โดยจะมีกำลังคนประมาณ 500 คน
เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ ยอมรับว่า
อุปสรรคหลักอยู่ที่เส้นทางภายในเกาะเสม็ดที่ยังเป็นทางดินขรุขระ
ทำให้การนำเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถดูด Vacuum Truck ทำได้ลำบาก
ขณะที่อ่าวพร้าวมีคลื่นลมแรง จึงไม่สามารถนำเรือลำเลียงเข้ามาได้
อย่างไรก็ตาม
หลังจากเก็บกู้คราบน้ำมันได้หมดแล้ว PTTGC
จะเร่งฟื้นฟูชายหาดให้กลับมาสู่สภาพเดิม
ส่วนคราบน้ำมันตามโขดหินจะใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเพื่อชำระล้าง
ส่วนทรายที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันจะจัดเก็บไปบำบัดเช่นกัน
นายไพรินทร์ กล่าวว่า
หลังจากฟื้นฟูเสร็จสิ้น PTTGC จะเฝ้าระวังต่อไป
โดยย้ำว่าจะดูแลอย่างดีที่สุด เนื่องจากปตท.มีการลงทุนในพื้นที่นี้
เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันมาก่อน
จึงจะนำเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นมาอีก
สำหรับผลกระทบที่มีต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ เชื่อว่าไม่มากนัก
เพราะคราบน้ำมันลอยอยู่ที่ผิวน้ำ
ส่วนน้ำมันที่เหลืออีกเล็กน้อยเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่สามารถย่อยสลาย
เองได้โดยแสงแดด รวมทั้งจุลชีพในน้ำสามารถบริโภคได้ นอกจากนี้ PTTGC
จะเฝ้าติดตามต่อเนื่องไปหลายเดือน
และจะดูแลเรื่องของการชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบ
ด้าน นายชูชาติ อ่อนเจริญ
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ระยอง-จันทบุรี)
กล่าวถึงสถานการณ์คราบน้ำมันเข้าเต็มอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด
ว่าหลังจากจังหวัดระยองได้ประกาศให้พื้นที่อ่าวพร้าวเป็นพื้นที่ประสบภัย
พิบัติ ททท.ระยองได้ประสานไปยังนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในรีสอร์ต 3
แห่งบนอ่าวพร้าว เพื่อให้ย้ายไปเข้าพักยังหาดอื่นๆ
ที่ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันดิบ ไม่ว่าจะเป็นหาดวงเดือน
หาดทรายแก้ว หาดปะการัง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ
และถือเป็นชายหาดยอดนิยม
ขณะเดียวกันได้ให้ข้อมูลกับกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ
เกี่ยวกับจุดที่มีการทะลักของคราบน้ำมันว่า
ยังคงเป็นการทะลักเข้าไปเฉพาะชายหาดด้านฝั่งตะวันตกของเกาะคืออ่าวพร้าว
ที่มีรีสอร์ตเพียง 3 แห่ง และมีห้องพักรวม 109 ห้องเท่านั้น
โดยยืนยันว่าจุดที่เป็นชายหาดยอดนิยมยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว
แต่อย่างใด
นายชูชาติกล่าวว่า เท่า
ที่ได้รับรายงานก็คือเริ่มมีกรุ๊ปทัวร์ทั้งชาวไทยและยุโรปยกเลิกการเดินทาง
มายังเกาะเสม็ดแล้ว ซึ่ง ททท.ก็กำลังรวบรวมรายชื่อทัวร์ที่ยกเลิกอยู่
อย่างไรก็ตาม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
ก็เร่งเก็บคราบน้ำมันเพื่อให้หมดก่อนช่วงสุดสัปดาห์
นายชูชาติกล่าวว่า
ขณะนี้ผลกระทบในรูปของเม็ดเงินทางการท่องเที่ยวยังมีไม่มากนัก
เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างสุดสัปดาห์ที่แล้ว
จนถึงวันธรรมดาของสัปดาห์นี้ การเข้าพักของนักท่องเที่ยวยังมีไม่มากนัก
แต่อย่างไรก็ตาม
หากพีทีทีฯไม่สามารถขจัดคราบน้ำมันให้หมดก่อนสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ก็คาดว่า
การท่องเที่ยวของระยองจะเสียหายเป็นอย่างมาก
Source : News Center / Matichon / bangkokbiznews / VocieTV ( Image)
by
Boonyisa
30 กรกฎาคม 2556 เวลา 15:29 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น