นายกรัฐมนตรี
แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำมันรั่ว จ.ระยอง สั่งกองทัพเรือ มหาดไทย
พลังงาน สาธารณสุข เร่งแก้ปัญหา
และให้ความช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่โดยด่วน
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ ณ
สาธารณรัฐโมซัมบิกเกี่ยวกับกรณีท่อรับ-ส่งน้ำมัน ของบริษัท พีทีที โกลบอล
เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วบริเวณชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุด จ. ระยอง
และคราบน้ำมันไหลเข้าสู่บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ว่า
ได้สั่งการด่วนให้กระทรวงพลังงาน
กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เร่งลงพื้นที่แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน
และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
สั่งให้กองทัพเรือเข้าพื้นที่เพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือ โดยบริษัท PTT
จำกัด (มหาชน) ต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ยอมรับว่าอาจจะต้องมีการประสานขออุปกรณ์
หากจำเป็นก็ต้องหยิบยืมจากประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวว่า
ได้รับรายงานก่อนออกเดินทาง
แต่อาจเป็นเพราะสภาพอากาศเป็นอุปสรรคในการจัดการปัญหา ขณะนี้
ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ดูแลความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างเร่งด่วน
ระหว่างนี้ นายธีรัตถ์ รัตนเสวี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานบทสัมภาษณ์นายปลอดประสพ สุรัสวดี
รองนายกรัฐมนตรี ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวกรณีน้ำมันรั่วว่า
ต้องเน้นรักษาสภาพแวดล้อม การท่องเที่ยว การประมง
เมื่อเกิดเหตุแล้วต้องมีการตรวจสอบ ตั้งชุดเผชิญเหตุ
และหันมาดูกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้
ต้องยอมรับว่าอุปกรณ์ดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นของไทยมีไม่พอ
ควรจะมีการตั้งคณะกรรมการถาวรขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดย
ย้ำว่าต้องป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันไหลขึ้นฝั่ง ต้องใช้ทุ่นน้ำมันกันไว้
ถ้าไม่พอ ก็ควรขอยืมจากเพื่อนบ้านเช่นสิงคโปร์ซึ่งมีอุปกรณ์มาก
อย่างไรก็ตาม
เหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้กองทัพเรือควรเป็นศูนย์กลางเพราะมีอุปกรณ์ครบ
ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ โดย ปตท.ต้องออกเงินทุกบาท
ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งทำจากนี้ คือการเก็บคราบน้ำมันให้เร็วที่สุด
โดยมีอาสาสมัครเข้ามาช่วย ป้องกันสัตว์ไม่ให้โดนคราบน้ำมัน
Source : www.thaigov.go.th
by
Wasinee
30 กรกฎาคม 2556 เวลา 14:35 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น