ที่มา ข่าวสด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ส.ค.
ที่หอประชุมอำเภอชะอวด
นครศรีธรรมราช นางเพ็ญศรี ทองบุญชู ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอ.ชะอวด
นครศรีธรรมราช
ได้เรียกประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เพื่อร่วมกันแสดงพลังและจุดยืนใน
การเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดเส้นทางรถไฟบ้านตูล
โดยขอให้ไปปิดเพียงถนนเอเชีย 41
เพียงจุดเดียวสาเหตุที่มีการขอให้เปิดเส้นทางรถไฟเนื่องจากเป็นเส้นทางสาย
หลักของชาว อ.ชะอวด
และใกล้เคียงในการใช้สัญจรไปมาไม่ว่าจะเป็นนักเรียน,และผู้ป่วยและประชาชน
ทั่วไป
โดยทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านได้หารือกันเพื่อที่จะลงมติกันว่าจะมีการยกขบวน
ผู้ใหญ่กำนันในพื้นที่ชะอวดเข้าไปของร้องกลุ่มผู้ชุมนุมในการขอให้เปิดเส้น
ทางรถไฟ
โดยคาดว่าจะเดินทางเข้าไปในช่วงบ่ายวันนี้
นางเพ็ญศรี กล่าวอีกว่า
การชุมนุมในครั้งนี้ตนอยากจะเรียกร้องให้ผู้ใหญ่กำนันในทุกพื้นที่ไปขอร้อง
ชาวบ้านในพื้นที่ของตนเองเพื่อให้ออกมาจากการชุมนุมเพื่อที่จะดูว่าคนที่
ชุมนุมอยู่นั้นเป็นชาวชะอวดทั้งหมดหรือเปล่าเพราะวันนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้น
แก่ชาวชะอวดค่อนข้างที่จะรุนแรง
และเรายังคงยืนยันว่ามีชาวชะอวดเพียงส่วนน้อยที่ยังคงชุมนุมอยู่แต่ส่วนใหญ่
เป็นผู้ที่มาจากจังหวัดอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นพัทลุง หรืออื่นๆ
ตนอยากจะเรียกร้องให้ไปใช้สถานที่บ้านของท่านเองในการชุมนุมอย่ามาใช้
พื้นที่ชะอวดในการชุมนุม
นายอำเภอชะอวด
ระบุ การปิดถนนของผู้ชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
โดยเฉพาะการปิดถนนสายบ้านตูล ชะอวดที่เชื่อมต่อทางออกได้หลายเส้นทาง
นายศักดิ์ชัย ชัยเชื้อ
นายอำเภอชะอวด กล่าวถึงการกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนสายบ้านตูล-ชะอวด และปิดเส้นทางรถไฟว่า
ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน กลุ่มแรกเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก
ส่งต่อไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชไม่ได้ ต้องส่งไปที่โรงพยาบาลพัทลุง
ที่มีความพร้อมน้อยกว่า ทำให้ผู้ป่วยเกิดความเสี่ยง
และกลุ่มต่อมาคือนักเรียนชาวชะอวดที่ต้องเดินทางไปโรงเรียนในเขตอำเภอเมือง เกิดความไม่สะดวก
เกิดความล่าช้า โดยเฉพาะช่วงนี้มีการสอบเก็บคะแนน
ส่วนประชาชนในพื้นที่สามารถใช้เส้นทางอื่นแทนเส้นทางที่ถูกปิด ไปมาได้ ถนนสายบ้านตูล-ชะอวด
เชื่อมต่อไปแยกบ่อล้อ อ.เชียรใหญ่ สามารถเดินทางต่อเข้า อ.เมือง ถือเป็นเส้นทางสายท้องถิ่นที่ประชาชน
ใช้สัญจรเป็นอย่างมาก เมื่อถูกปิด ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โรงพยาบาลอำเภอชะอวด
ได้รับความเดือดร้อน ส่งต่อผูป่วยหนักไปโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชไม่ได้
นพ.ลือชา เพ็ชรรัตน์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอชะอวด พร้อมคณะเภสัชกรเข้าพบ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่บ้านพักนายอำเภอชะอวดร้องขอความช่วยเหลือให้ช่วยประสานงานกับกลุ่มผู้ชุมนุม
เพื่อให้ผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอชะอวดและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเดินทางมาโรงพยาบาลได้สะดวก
และส่งต่อผู้ป่วยที่มีการอาการหนัก หรือผู้ป่วยที่แพทย์นัดไปโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
และเปิดให้บริษัทเข้ามาส่งเครื่องมือ อุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ที่โรงพยาบาลชะอวดได้
เนื่องจากหลังจากมีการปิดถนน กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ปิดถนนสายบ้านตูล-ชะอวด ไม่ยินยอมให้เดินทางผ่าน
แม้ว่าจะขอร้องแล้วก็ตาม
ทางด้านเภสัชกรหญิงวาสนา ศรีรุ่ง กล่าวว่า การจัดส่งยาเร่งด่วน เช่น
ยาเรื้อรัง บริษัทเข้ามาส่งยาไม่ได้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางคนไม่คุ้นเส้นทาง
ต้องขาดงาน
นายประพันธ์โชติ เสนาชู หัวหน้าฝายประกันสุขภาพ รพ.ชะอวด กล่าวว่า
ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินหนัก เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เกิดอันตราย ต้องส่งต่อไปที่
รพ.พัทลุง ไม่สามารถเดินทางไป รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชที่มีแพทย์เชี่ยวชาญมากกว่าได้
ขอผู้ชุมนุมช่วยเปิดส้นทางให้ผู้ป่วยผ่านไป
นางสาววาริน ชิณวงศ์
ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง
การแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง “วิกฤตราคาผลผลิตยาง และปาล์มตกต่ำ” โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า
หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช แสดงความกังวลใจต่อสถานการณ์ การแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง
“วิกฤตราคาผลผลิตยาง และปาล์มตกต่ำ”
ซึ่งมีการขยายวงและพัฒนาการชุมนุมของเกษตรกรตลอดจนบุคคลผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว
กำลังก่อให้เกิดความขัดแย้ง
อันอาจทำให้เกิดความรุนแรงทั้งฝ่ายปกครองและประชาชนในที่สุด
หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช
มีความห่วงใย และต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และรวดเร็ว รับฟังความเดือดร้อนของประชาชน
เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราชแถลงข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังต่อไปนี้ 1.
ให้รัฐบาลแต่งตั้งผู้มีอำนาจเต็มในการเจรจา กับผู้แทนชาวสวนยางและปาล์ม ลงมาแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน
2. ให้รัฐบาลแก้ไขสถานการณ์โดยไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันความสูญเสีย หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
จะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดีและยังประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
ที่โรงแรมทวินโลตัสนครศรีธรรมราช
เครือข่ายชมรมเสียงสตรีจังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดยนางสุมนา กลิ่นภักดี
ประธานชมรมเสียงสตรีจังหวัดนครศรีธรรมราช และสมาชิก ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับ
เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของเกษตรกรชาวสวนยางและชาวสวนปาล์ม จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้
ว่าการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ ทำการปิดถนนสายบ้านตูล-ชะอวด ตำบลชะอวด และถนนเอเชียสาย 41
บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ตำบลควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อน
เป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะนักเรียนซึ่งเป็นลูกหลานของชาวนครศรีธรรมราชที่ได้รับผลกระทบทำให้เดินทางไปโรงเรียนด้วยความยากลำบาก
ทั้งนี้อยากขอร้องให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม เพราะรัฐบาลได้มีความจริงใจในการแก้ปัญหาแล้ว
นอกจากนี้สมาชิกชมรมเสียงสตรีทั้งหมดต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า
กลุ่มชมรมเสียงสตรีจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอส่งกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มีความเข้มแข็ง ในการแก้ปัญหาเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของเกษตรกรชาวสวนยางและชาวสวนปาล์ม
จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ ให้ยุติลงด้วยดีอย่างสันติวิธี
และฝากกำลังใจดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครองขอให้ทำหน้าที่
และสามารถยุติการชุมนุมโดยปราศจากความขัดแย้ง.
ว่าที่ ร.ต.เสรี ถนัดสอนสาร
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า
การชุมนุมปิดถนนของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดในภาคใต้
ที่ปักชุมนุมปิดถนนทั้งขาขึ้นและขาล่อง ถนนสายเอเซีย41 บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
มาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2556 และลุกลามไปปิดทางรถไฟบริเวณแยกควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด
จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2556ว่า
ผลกระทบที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นด้านการขนส่งสินค้าและคมนาคม
ในส่วนของด้านการท่องเที่ยวไม่ได้มีผลกระทบโดยตรง
เพราะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางมายังนครศรีธรรมราชส่วนใหญ่จะใช้เส้นทางสงขลา-นครศรีธรรมราช
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์
ภาพลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ต่อไปคนภายนอกอาจจะมองว่านครศรีธรรมราชเป็นเมืองที่ตกลงกันไม่ได้
สองปีที่ผ่านมาจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ทำเรื่องนครศรีดี๊ดี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในการเป็นเมืองพุทธ
เมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้ความพยามยามให้มากยิ่งขึ้นอีก
โดยเฉพาะในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาบุคลากร
เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี
2558
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า
การแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้องต่าง ๆ นั้น อยากให้มีการพูดคุยกันในด้านนโยบายมากกว่า
หาวิธีการทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มีการปิดถนน
เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบ.
นายยุทธกิจ มานะจิตต์
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า
จากเหตุการณ์ผู้ชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางและชาวสวนปาล์มหลายจังหวัดในภาคใต้ได้ปักชุมนุมประท้วงปิดถนนทั้งขาขึ้นและขาล่องถนนสายเอเซีย
41 บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2556
และลุกลามไปปิดทางรถไฟบริเวณแยกควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลา 5
วันแล้วว่า ได้สร้างความเสียหายและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมใน จ.นครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะการขนส่งในปัจจุบันต้องอาศัยการขนส่งทางรถยนต์เป็นหลัก ทำให้มีผลกระทบเป็นอย่างมาก
แม้จะใช้เส้นทางเลี่ยงสายรองก็ตามแต่ก็ยังมีผลกระทบเป็นอย่างมากทุกภาคส่วน
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไม้ยางพาราที่จะขนส่งเข้ากรุงเทพฯและท่าเรือขนส่งที่ จ.สงขลา
ต้องหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง มูลค่าความเสียหายจากภาคอุตสาหกรรมใน จ.นครศรีธรรมราช
ประเมินเบื้องต้นแล้วน่าจะเกือบ 100 ล้านบาททีเดียว
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช
กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวสวนยางให้รวดเร็ว
เหมือนกับการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่ผ่านมา
และรัฐบาลน่าจะส่งตัวแทนของรัฐบาลที่มีอำนาจตัดสินใจจริงๆอย่าง รมว.เกษตรฯหรือ รมว.พาณิชย์
ลงมาเจรจาพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมให้เสร็จโดยเร็ว หากทำได้ปัญหาก็จะจบลงด้วยดี
ความเสียหายก็จะไม่มากกว่านี้
ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 จุดที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์
ตควนหนองหงส์ อ.ชะอวด และที่แยกบ้านควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด ซึ่งมีการนำรถบรรทุกมาปิดทางรถไฟอยู่ด้วย
โดยทั้งสองจุดในช่วงเข้ามีกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มากนัก แต่จะเดินทางมารวมตัวมากขึ้นในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตามตอนนี้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบจรจาจลได้ทำการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น