สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อประชาธิปไตย
และสังคม ตำหนิการวางตัวของกลุ่มตุลาการผู้รักแผ่นดิน
ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง และ สภาทนายความ ก่อนหน้านี้
โดยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และทำให้สังคมไม่ไว้ใจ
ในฐานะผู้พิจารณาตัดสินคดี
ทนายความในนาม
สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อประชาธิปไตยและสังคม หรือ สปส.
แสดงความเห็นกรณีที่กลุ่มผู้พิพากษา 63 คนรวมตัวในนาม
"ตุลาการผู้รักแผ่นดิน" และนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ
ออกมาแสดงความเห็นกรณีคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ว่า
เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ในส่วนของสภาทนายความ เห็นว่า
ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสภาทนาย และเป็นการนำสภาทนายความ
ซึ่งเป็นองค์กรทางกฏหมายมีสมาชิกกว่า 70,000 คน
เข้าไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองโดยไม่ระมัดระวัง และมีเจตนาแอบแฝง
อีกทั้งยังไม่ใช่ความเห็นของสภาทนายความ ที่เป็นสมาชิกทุกคน
ขณะที่ผู้พิพากษา ต้องมีภาพความเป็นกลาง
และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการ
ในการชี้ขาดอรรถคดีความ กลับมีแสดงความเห็นในประเด็นทางการเมือง
ซึ่งอาจเป็นการชี้นำ
สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อประชาธิปไตยและสังคม
แสดงความเห็นอีกว่า ในช่วงการยึดอำนาจรัฐประหาร สถาบันตุลาการ หรือ
ผู้พิพากษา ไม่เคยออกมาแสดงคัดค้าน แต่กลับตอบรับกฎหมาย ประกาศ
หรือคำสั่งของคณะบุคคล ผู้ยึดอำนาจ มาเป็นกฎหมายในคำพิพากษา
ซึ่งการกระทำของตุลาการครั้งนี้นอกจากจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ
ยังทำให้ตุลาการอีกจำนวนมากได้รับผลกระทบ
หลังจากนี้
จะมีการทำหนังสือเปิดผนึกแสดงความกังวล
เกี่ยวกับการแสดงทางการเมืองของกลุ่มผู้พิพากษา 63 คนรวมตัวในนาม
"ตุลาการผู้รักแผ่นดิน" ถึงประธานศาลฏีกา และกรรมการตุลาการ
เพื่อให้นำไปสู่การพิจารณาจริยธรรม
ขณะที่ นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ
หนึ่งในกลุ่มตุลาการผู้รักษาแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่นายชัยเกษม นิติสิริ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท้าดีเบต กับกลุ่มตุลาการผู้รักษาแผ่นดิน
กรณีที่คัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมว่า ผู้พิพากษาในกลุ่มตุลาการฯ
ไม่ได้มีการหารือกันในเรื่องนี้
เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการแสดงจุดยืนในฐานะนักกฎหมายเท่านั้นไม่ได้มีวัตถุ
ประสงค์ทางการเมืองหรือจุดมุ่งหมายอื่นใด
by
Veeraporn
8 พฤศจิกายน 2556 เวลา 17:52 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น