สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เผยเตรียมหารือกับทุกฝ่ายเพื่อหาข้อเสนอแนะ
แจงไม่อาจย้ายสถานที่รับเลือกตั้งได้เพราะขอสถานที่ลำบาก
ด้านเพื่อไทยจี้กกต.เร่งแก้ปัญหาการรับสมัครในภาคใต้
เว็บไซต์มติชนออนไลน์ รายงาน
ว่า เวลา 10.00 น. ที่บริเวณอาคารจอดรถประจำลานโกลเด้นเพลส ศูนย์ราชการ
แจ้งวัฒนะ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง
ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับ 3 แกนนำระดับสูงรัฐบาล เมื่อวันที่ 29
ธันวาคมว่า มีการนัดหมายพูดคุยกันในตอนค่ำวันที่ 29 ธันวาคม
สิ่งที่คุยกันเป็นการประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นว่า
หากเดินหน้าสู่การเลือกตั้งจะมีอะไรเกิดขึ้นทั้งก่อนการเลือกตั้ง
วันเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง
และหากไม่มีการเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พยายามมองสถานการณ์ครอบคลุมรอบด้าน
เบื้องต้นการพูดคุยแนวโน้มเป็นไปแนวทางที่ดี
เพราะหากเดินหน้าต่อไปสถานการณ์จะรุนแรง
จึงค่อนข้างเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ที่เป็นปัญหาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราอยาก
เห็น
จากนั้นพูดคุยกันว่าแล้วจะมีแนวทางข้อเสนออะไรบางอย่างเพื่อให้สถานการณ์ดี
ขึ้น
โดยข้อสรุป
ข้อเสนอแนะน่าจะเป็นคำตอบที่ดีระดับหนึ่งและสามารถทำได้หลายรูปแบบ คือ
1.กกต.ฝ่ายเดียว 2.กกต.ร่วมกับรัฐบาล และ 3.ร่วมกัน 3 ฝ่ายระหว่าง กกต.
รัฐบาล และคู่กรณีขัดแย้ง
นายสมชัยกล่าวว่า ขอไม่เปิดเผยผลสรุปการหารือ
ข้อสรุปที่ได้นำไปสู่การคลี่คลายปัญหาสังคมระดับหนึ่ง รัฐบาลยอมลดราวาศอก
รัฐบาลมีท่าทีทางที่ดี แต่อย่าให้ตนพูด เพราะยังไม่ถึงเวลา
นัดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) วันที่ 31 ธันวาคม ส่วนเวลาใด สถานที่ใด
ไม่ขอบอก คนที่จะมาคุยด้วยเป็นระดับสูงมากใน ปชป.2-3 คน
ส่วนการพูดคุยกับ กปปส. ได้ขอนัดหมายไปแล้ว แต่
กปปส.ยังไม่ตอบรับการพูดคุย ยังไม่เปิดโอกาส และไม่พร้อม
คาดว่าน่าจะไม่สามารถคุยได้ทันก่อนปีใหม่
ถามถึงการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 8 จังหวัดภาคใต้ยังคงมีปัญหาอยู่
นายสมชัยกล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบยังมีปัญหาอยู่ เจ้าหน้าที่ กกต.
ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ แต่ก็ได้ใช้พยายามรับสมัครให้ได้
มีปัญหาเรื่องสถานที่ บุคลากร หลายคนบอกว่าทำไมไม่ย้ายสถานที่
นายสมชายกล่าวว่า การย้ายสถานที่ยากลำบากมาก แม้จะขอใช้สถานที่ราชการ
แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ ขอไปแล้วไม่มีหน่วยราชการใดจะให้เราไปใช้สถานที่
สถานที่ที่เรายังไม่ได้ขอคือ สถานีตำรวจและค่ายทหาร
อาจจะเป็นทางเลือกท้ายๆ
ที่จะดำเนินการคิดว่าค่ายทหารไม่เหมาะสมเพราะเราอยากให้การเลือกตั้งจัดการ
โดยพลเรือน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงเรียกร้องจากฝ่ายรัฐบาลให้ กกต.ลาออก
นายสมชัยกล่าวทีเล่นทีจริงว่า ถ้าด่ามากๆ อาจจะลาออกได้ แต่ถ้า
กกต.ออกไปจะเกิดอะไรขึ้น อยากให้ฝ่ายการเมืองคิดให้ดีก่อน
โดยเฉพาะสิ่งรัฐบาลรักษาการไม่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญมาตา 181 เช่น
การขออนุมัติงบกลาง งบสำรองจ่าย
การทำสัญญาที่จะมีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ
การใช้ทรัพยากรของรัฐที่ถูกมองว่าเป็นหาเสียง
และการตรึงราคาน้ำมันดีเซลโดยขยายเวลาอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล
หากไม่มี กกต. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 น้ำมันดีเซลขึ้นแน่นอน
จะคิดอะไรขอให้รอบคอบสักนิด ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น
ต่อคำถามว่า ที่การเลือกตั้งอาจได้ ส.ส.ไม่ครบ 95%
จนไม่สามารถเปิกประชุมสภานัดแรกได้ นายสมชัยกล่าวว่า
กกต.คงพูดคุยกันว่าจะมีทางออกอย่างไร การยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
กกต.คงไม่สามารถดำเนินการโดยตรงได้ เพราะเป็นอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน
พรรคเพื่อไทย จี้ กกต. เร่งแก้ปัญหาไม่สามารถเปิดรับสมัครเลือกตั้ง 7 เขตในภาคใต้ได้
วันเดียวกัน เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ
รายงานว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ชุมนุมไปปิดล้อมสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ระบบ
เขตเลือกตั้งใน 7 จังหวัดภาคใต้เป็นวันที่ 3 ว่า
วันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลาง โดยเฉพาะยายสมชัย ศรีสุทธิยากร
กกต.ผู้มีหน้าที่โดยตรง ไม่ยอมลงพื้นที่ไปแก้ปัญหา เหมือนกับที่ประธาน
กกต.จ.ภูเก็ตบอกว่าเหมือนถูกลอยแพ
เพราะไม่มีแม้ผู้ใหญ่ในกกต.คนใดลงไปดูในพื้นที่
ปล่อยให้การแก้ปัญหาเป็นไปตามยถากรรม ทำให้กกต.เขต
กกต.จังหวัดลาออกหลายพื้นที่ โดยอ้างว่าถูกกดดัน
เหมือนน่าจะเล็งเห็นผลให้การสมัครในภาคใต้เกิดขึ้นไม่ได้
ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
(กปปส.)
สำหรับกกต.ที่ลาออกเพราะคิดว่าจะหนีปัญหาได้นั้น
ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยและฝ่ายกฎหมายของพรรคจะไปแจ้งความเอาผิด
เพราะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้
น่าจะส่อไปในทางละเมิดสิทธิไม่คุ้มครองสิทธิของผู้สมัครรับเลือกตั้งอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้กกต.กลางรีบลงพื้นที่ที่มีปัญหา
ย้ายสถานที่รับสมัคร และตั้งกกต.ใหม่แทนคนเดิมที่ลาออกไปโดยเร็ว
เพราะขณะนี้เหลือเวลารับสมัครอีกเพียงแค่ 2 วันแล้ว
"ที่ผ่านมาการแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม
การย้ายสถานที่รับสมัคร กกต.กลางไม่ยอมดำเนินการ ทั้งๆ
ที่หลายภาคส่วนพร้อมให้ความร่วมมือ และขณะนี้เหลือเวลารับสมัครอีกแค่ 2
วันกกต.กลางก็ยังไม่ยอมลงพื้นที่
ขณะที่กกต.จังหวัดและกกต.เขตก็ต้องสำนึกในหน้าที่
สำนึกในจริยธรรมและบทบาทของตัวเอง ใครรักใครชอบใครก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่การทำหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญ การลาออกมีแต่จะยิ่งซ้ำเติมปัญหา
ขอให้เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่ใช่ตัดช่องน้อยแต่พอตัว"
อย่างไรก็ตาม ได้ลงพื้นที่ใน 7
จังหวัดภาคใต้ที่มีปัญหาเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลการคัดค้านและปิดล้อมสถานที่
รับสมัครพบว่า ส่วนใหญ่ผู้ชุมนุมเป็นผู้สนับสนุน หัวคะแนน เครือญาติ
และคนใกล้ชิดอดีตส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ดังนั้น ขอท้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่อ้างว่าจะไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง
ส่งสัญญาณผ่านอดีตส.ส.ในพื้นที่ไปบอกกับผู้ชุมนุมว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความ
จริงใจที่จะไม่ขัดขวางการเลือกตั้งโดยการแถลงข่าว
และประณามผู้ที่คัดค้านและปิดล้อมสถานที่รับสมัครด้วย
หากนายอภิสิทธิ์กล้าทำตนจะเอาดอกไม้ไปกราบถึงพรรคเพื่อขอบคุณ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อ กกต.ภาคใต้ ลาออก เหตุรัฐเดินหน้าเลือกตั้ง
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
การที่หลายจังหวัดภาคใต้ ยังไม่สามารถเปิดรับสมัครเลือกตั้งได้
และมีผู้อำนวยการเขต ลาออกนั้น
เกิดจากความดื้อรั้นของรัฐบาลที่จะให้มีการเลือกตั้ง
จนนำพาบ้านเมืองไปสู่ทางตัน โดยวันนี้ การเจรจาพูดคุยเป็นทางออกอย่างหนึ่ง
ที่ กกต. พยายามประสานเจรจากับทางฝั่งรัฐบาล และผู้ชุมนุม
แต่รัฐบาลก็ควรแสดงความจริงใจในการเจรจา ด้วยการปลดเงื่อนไขวันเลือกตั้ง 2
กุมภาพันธ์ 2557 ออกไปก่อน ไม่เช่นนั้น การเจรจาก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
ส่วนการตั้งสภาปฏิรูปประเทศไทย ที่เสนอโดยรัฐบาล เห็นว่า
ยังไม่มีความคืบหน้าถึงการตั้งคณะกรรมการสรรหา
สะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจของรัฐบาล
เป็นเพียงการสร้างเงื่อนไขเพื่อยื้อเวลาไปสู่วันเลือกตั้ง
ต่อเวลาให้กับรัฐบาลเท่านั้น ทั้งนี้ ในวันที่ 2 และ 3 มกราคม
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินสายพบปะองค์กรธุรกิจและนักวิชาการ
เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ตามแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนเปิดโรดแมป
ภายใต้แนวคิด "ขจัดคอร์รัปชั่น มุ่งมั่นปฏิรูป" ในวันที่ 7 มกราคมนี้
ที่มา: เว็บไซต์มติชนออนไลน์, เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น