สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ ฉบับที่3 เรียกร้องให้
กกต.ต้องกระทำอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการ
เลือกตั้ง เนื่องจากกกต.
เป็นองค์กรที่รัฐธรรมนูญมอบหมายหน้าที่ให้จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดย
เที่ยงธรรม
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ ฉบับที่3 เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งและคณะรัฐมนตรีรักษาการในการจัดการการเลือกตั้ง โดยระบุว่า กก
ต.
เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายมอบหมายหน้าที่ให้จัดการ
เลือกตั้งให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม
เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้น
กกต.จึงต้องกระทำอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชนใน
การเลือกตั้ง พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้คณะ
รัฐมนตรีรักษาการต้องยืนยันที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่จนกว่าจะมี
คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เกิดจากการเลือกตั้งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยเนื้อหาทั้งหมดมีดังนี้
แถลงการณ์สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) ฉบับที่ ๓
เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
และคณะรัฐมนตรีรักษาการในการจัดการการเลือกตั้ง
...
ตามที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)
ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๖
เสนอให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ออกไป
จนกว่าจะหาข้อยุติระหว่างคู่ขัดแย้งร่วมกันได้นั้น
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยเห็นว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กกต.
ไม่ได้แสดงออกถึงความเลื่อมใสที่มีต่อการเลือกตั้ง
ในฐานะที่เป็นกระบวนการแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย
ดังจะเห็นได้ว่า
กกต.ไม่เคยพยายามชี้แจงยืนยันให้สังคมและคู่ขัดแย้งทางการเมืองยอมรับความ
สำคัญและความชอบธรรมของการเลือกตั้ง
และสิทธิอันเท่าเทียมกันของประชาชนทุกหมู่เหล่าเลย
ยิ่งไปกว่านั้น
กกต.บางท่านยังแสดงพฤติกรรมให้สาธารณชนเห็นว่าขาดเจตจำนงที่จะดำเนินการให้
เกิดการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
ทั้งนี้เนื่องจากนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร
กกต.บางท่านได้พยายามเสนอว่าอาจเลื่อนการเลือกตั้งได้
และแถลงเรียกร้องให้รัฐบาลไปเจรจากับฝ่ายผู้ชุมนุม
ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.
เมื่อเกิดเหตุการณ์วุ่นวายจากการที่ผู้ชุมนุมพยายามขัดขวางการสมัครรับเลือก
ตั้ง กกต.ก็ไม่ได้พยายามแสวงหาช่องทางอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เช่น
การเปลี่ยนสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง การรับสมัครเลือกตั้งออนไลน์
หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
แต่กลับยังยืนยันใช้สถานที่ที่กำหนดไว้เดิมและวิธีการในการสมัครรับเลือก
ตั้งแบบเดิม
สภาวการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพฤติกรรมของ กกต.
ทำให้เกิดความกังวลขึ้นทั่วไปในหมู่ของประชาชนผู้ทรงสิทธิเลือกตั้งว่าจะ
เกิดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นได้หรือไม่
เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นได้จริง
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ในฐานะส่วนหนึ่งของผู้ทรงสิทธิเลือกตั้ง
จึงขอเรียกร้องให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมและกฎหมายดังนี้
๑. เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ
เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่
ประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนย่อมมีความชอบธรรมในการที่จะแสดงออก
ซึ่งความเป็นเจ้าของอำนาจรัฐผ่านการแสดงเจตนาออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ดังนั้น
การเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ย่อมเป็นการล่วงละเมิดสิทธิของประชาชน
ประชาชนผู้ทรงสิทธิเลือกตั้งย่อมสามารถดำเนินการด้วยวิถีทางใดๆ
ตามกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิเลือกตั้งอันชอบธรรมของตนได้
๒. เมื่อพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ.๒๕๕๖
กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการทั่วไปในวันที่ ๒
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ กกต.จึงมีหน้าที่จัดการการเลือกตั้งในวันดังกล่าวให้จงได้
ไม่มีทางเลือกอื่น
หากมีเหตุที่ไม่สามารถจัดการการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดได้ในวันเลือกตั้ง
กกต.ย่อมต้องใช้ดุลพินิจเลื่อนการเลือกตั้งเฉพาะเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาออก
ไป
และดำเนินการจัดการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งดังกล่าวในภายหลังเพื่อให้ได้มา
ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจนครบจำนวน ด้วยเหตุผลข้างต้น กกต.
จึงต้องดำเนินการรับสมัครรับเลือกตั้งต่อไปตามกำหนดเวลาที่ประกาศไว้
ในกรณีที่กกต.ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการของกฎหมายโดยถือ
เอาเหตุผลที่ปรากฏในแถลงการณ์ฯ เป็นข้ออ้าง รวมทั้งจะดำเนินการใดๆ
ในฐานะกรรมการการเลือกตั้งเป็นรายบุคคล
อันส่งผลให้การรับสมัครรับเลือกตั้งไม่เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ ย่อมถือว่า
กกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗
ประชาชนผู้ทรงสิทธิเลือกตั้งทุกคนซึ่งเป็นผู้เสียหายมีสิทธิแจ้งความดำเนิน
คดีอาญากับ กกต.ที่กระทำการดังกล่าวนี้ได้
Ads not by this site
๓.
หากคณะรัฐมนตรีรักษาการยอมรับข้อเสนอของกกต.
และดำเนินการให้มีเลื่อนการเลือกตั้งออกไป
ทั้งๆที่ไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญรองรับการดำเนินการดังกล่าว
ย่อมเท่ากับว่า
คณะรัฐมนตรีรักษาการจงใจใช้อำนาจหน้าที่กระทำการอันขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติบังคับให้ต้องมีการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลา
ไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันยุบสภาผู้แทนราษฎร
และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
การเลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปออกไปจนเกินกว่าหกสิบวันนับแต่วันยุบสภาผู้แทน
ราษฎร
อาจถือได้ว่าคณะรัฐมนตรีรักษาการเป็นผู้กระทำความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิ
ชอบตามมาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งประชาชนผู้ทรงสิทธิเลือกตั้งสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรีคณะ
นี้ได้เช่นกัน
๔.
เพื่อให้การดำเนินการสมัครรับเลือกตั้งดำเนินการต่อไปด้วยความเรียบร้อย
ขอให้รัฐบาลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ของ กกต.
และผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง และขอให้ กกต.ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
ในกรณีจำเป็นรัฐบาลอาจต้องสั่งการให้กองทัพเข้ามาหนุนเสริมการปฏิบัติ
หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร่งด่วน ทั้งนี้
การปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมให้ยึดถือตามบทกฎหมาย เป็นไปตามหลักสากล
และระมัดระวังไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตกับทุกฝ่าย
๕.
วิกฤติที่กำลังดำเนินอยู่นี้เป็นวิกฤติของการฝ่าฝืนกฎหมาย ฉีกรัฐธรรมนูญ
และทำลายระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้ ฉะนั้น ทั้ง
กกต.และรัฐบาลจะต้องไม่ร่วมมือหรือโอนอ่อนผ่อนตามให้กับการกระทำดังกล่าว
ประการสำคัญ กกต.และรัฐบาลไม่มีสิทธิหรืออำนาจที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย
ด้วยการล้มเลิกการเลือกตั้ง
สุดท้าย สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยขอย้ำว่า
กกต.
เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายมอบหมายหน้าที่ให้จัดการ
เลือกตั้งให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม
เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
กกต.จึงต้องกระทำอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชนใน
การเลือกตั้ง
ยิ่งไปกว่านั้นคณะรัฐมนตรีรักษาการจะต้องยืนยันที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
อย่างเต็มที่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เกิดจากการเลือกตั้งเข้ามา
ปฏิบัติหน้าที่ การพยายามทำให้การเลือกตั้งสะดุดหยุดลงจะ
ไม่เป็นผลดีต่อสังคมเพราะอาจเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงระลอก
ใหม่ได้ ซึ่งหากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น กกต. ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ประการสำคัญ
การเลือกตั้งคือการยืนยันต่อกลุ่มการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบ
ประชาธิปไตยว่า
พวกเขาต้องยอมรับอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองของประชาชนทั้งประเทศ
สิทธิของประชาชนไทยล้วนเท่าเทียมกัน
การปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของกกต. เท่านั้น
ที่จะช่วยให้สังคมไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย
๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๖
by
Wasinee
27 ธันวาคม 2556 เวลา 06:24 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น