มติ ป.ป.ช. ชี้ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาฯ-นิคม
ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิฯ จงใจขัดรัฐธรรมนูญกรณีแก้รัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว.
ส่วน 383 ส.ส.-ส.ว. ลงมติ 7 ม.ค. 57
26 ธ.ค.2556 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีคำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหา ส.ส.และ ส.ว. 383 คน ว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง กรณีเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งชุดร่วมเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2556 นั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงรวม 6 ปาก ขอเอกสารหลักฐานจากศาลรัฐธรรมนูญ รัฐสภา และจากผู้ร้องเป็นจำนวนมากแล้ว พิจารณาเห็นว่าพยานหลักฐานตามที่ได้ในขณะนี้เพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีผู้ถูกกล่าวหากระทำการส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายหรือไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 รวม 2 ราย คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา จึงมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา โดยให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 10 ม.ค.2557
ส่วน ส.ส.และ ส.ว.ที่เหลือซึ่งถูกร้องในข้อหาเดียวกันนั้น เนื่องจากมีจำนวนมากและมีรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาแตกต่าง กัน คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงเห็นสมควรให้สรุปสำนวนและลงมติในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 7 ม.ค.2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น