"ชูวิทย์" โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยัน เสียงปืนไม่ได้มาจากฝั่งตำรวจ
ในวันที่มีเหตุปะทะกันระหว่างม็อบคปท.และตำรวจที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
วานนี้ (28ธ.ค.56)นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 เกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่26ธ.ค.ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ ชุมนุมกลุ่มคปท. ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยมีเนื้อหาดังนี้
วานนี้ (28ธ.ค.56)นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 เกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่26ธ.ค.ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ ชุมนุมกลุ่มคปท. ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยมีเนื้อหาดังนี้
มวลมหาตำรวจ
วันนี้
พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้โทรหาผม
และสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ ซึ่งผมได้เล่าเอาไว้ว่า ผมได้พรางตัวใน
"วันสมัครรับเลือกตั้งเลือด" ช่วงเช้าวันพฤหัสที่ผ่านมา
ที่มีทั้งผู้บาดเจ็บ และล้มตาย
ผมได้เล่า
เหตุการณ์ให้ พล.ต.ท.อนุชัย ฟังว่า ผมยืนอยู่ที่ร้านโจ๊ก
ฝั่งตรงข้ามประตูกระทรวงแรงงานที่มีเหล่าแนวหน้าของม็อบยืนอยู่
เสียงปืนหลายนัดดังมาจากด้านซ้ายมือของผม
ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของกระทรวงแรงงาน ไม่ได้มาจากฝั่งตำรวจแต่อย่างใด
นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ผมประสบมา
ส่วนความโกรธ
แค้นของตำรวจที่อยู่ในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น
ที่เห็นตำรวจด้วยกันบาดเจ็บล้มตาย ย่อมต้องเคืองแค้นเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติหน้าที่ภาคสนาม
เพราะในขณะที่เจ้าหน้าที่ปั๊มหัวใจตำรวจที่ถูกยิงอยู่นั้น
ยังมีการยิงเข้ามาไม่หยุดยั้ง
จนตำรวจด้วยกันถึงกับต้องร้องตะโกนให้เอาโล่ห์มาบัง
โดยปกติผมไม่
ค่อยได้เข้าข้างตำรวจเสียเท่าไหร่ บางคนถึงขนาดเรียกผมว่าเป็น
"ศัตรูคู่อาฆาตกับตำรวจ" แต่เหตุการณ์อย่างนี้ ผมเห็นอย่างไร
รู้สึกอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น
วันนี้ที่
ตำรวจโห่ไล่ ส.ว. ที่เข้าไปตรวจสถานที่ที่สนามกีฬาเวสน์ 2
ย่อมเป็นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกร่วมที่เพื่อนตำรวจถูกกระทำจนเสียชีวิต
ทั้งๆที่ยังมีเมีย และลูกเล็กๆ ส่วนใครบางคนไปประชดประชันเสียดสีว่า
เมียเขาร้องให้เพราะ "ดราม่า"
ทั้งๆที่เมียเขาเสียใจเพราะหัวหน้าครอบครัวเขาตาย ขอให้ลองคิดเอาแล้วกันว่า
ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวตัวเองบ้าง จะรู้สึกอย่างไร?
เหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ไม่ว่าผู้สูญเสียจะเป็นตำรวจ หรือผู้ชุมนุม ย่อมเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจทั้งนั้น
ขณะนี้ผมทราบ
มาว่า บรรดาตำรวจชั้นผู้น้อยส่ง Line ถึงกัน แชร์ความรู้สึกที่อึดอัด
เนื่องจากถูกผู้บังคับบัญชาสั่งห้ามใช้ความรุนแรง และห้ามพกพาอาวุธ
แต่ในขณะนี้อารมณ์ของตำรวจชั้นผู้น้อยเริ่มพุ่งพล่าน
และมีแนวโน้มสูงว่าจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ในกรณีที่ปะทะกับม็อบ
ตอนนี้
"มวลมหาตำรวจ" เขาเริ่มรวมตัวกัน ความรุนแรงกำลังขยายตัวเกิดขึ้น
หากม็อบที่เอาแต่บอกว่า "ชุมนุมโดยสันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ
ไม่ใช้ความรุนแรง" ปะทะกับตำรวจ โศกนาฏกรรมความรุนแรงจะเกิดขึ้นแน่นอน
แบบนี้คงเข้าทางผู้ที่ประสงค์จะสร้างความรุนแรง และนำไปเป็นเงื่อนไขในการใช้ช่องทางพิเศษเพื่อให้ตัวเองได้มีอำนาจ
เดี๋ยวคงได้เห็นว่าใครเป็นใคร หลังจากฝุ่นเริ่มจาง และกลับมาใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
by Wasinee
28 ธันวาคม 2556 เวลา 09:07 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น