งามไส้แฉเอกสารลับไฟต์บังคับหมอเข้าชื่อไล่รัฐบาล

ที่มา Thai E-News

 

แฉเบื้องหลังหมอหัวหมอ-เอกสารที่หมอใหญ่กระทรวงสาธารณสุข ส่ง ถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศแกมบังคับให้ลงชื่อไล่นายกฯลาออก โดยกำหนดว่าหากเจ้าหน้าที่คนใดไม่เห็นด้วยให้มาลบชื่อออก หากไม่ลบชื่อออกแสดงว่าเห็นด้วย ทำให้มองกันว่าเท่ากับบีบบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องยอมตามน้ำ เนื่องจากเมื่อเซ็นชื่อ(หรือลบชื่อออก)แล้วต้องส่งเอกสารฉบับจริงให้ผู้ บังคับบัญชาตรวจสอบเป็นหลักฐานด้วย และทำให้ผู้ก่อการนำไปอ้างในการแถลงข่าวว่ามีแพทย์ทั่วประเทศจำนวนมากเห็น ด้วยกับการกระทำของตน

โดย คมมีดสีแดง

ในความพยายามล้มรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ และสถาปนาอำนาจรัฐพิเศษ ในรูปแบบทีีไม่เป็นไปตามหลักการการปกครองตามระบอบประชาธิปไต ย ภายใต้ วาทกรรมที่หลากหลายของ" คนดี" เช่น "ปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง" "ขับไล่รัฐบาลโกง" "โค่นล้มระบอบทักษิณ"และต่างๆ ในความพยายามเหล่านี้ กลุ่มวิชาชีพแพทย์ ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มวิชาชีพเดียว ที่ออกมาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะออกมาเคลื่อนไหวในนามสถาบัน และองค์กรแห่งวิชาชีพ เช่น แพทยสภา คณบดีแพทย์9สถาบัน ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ ชมรมแพทย์ชนบท 

ไม่นับรวม กลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์อื่นๆ ที่ตอนนี้ทั้งหมด เปิดหน้าออกมาเคลื่อนไหว ขับไล่รัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์กันแบบชนิด ไม่ห่วงประเด็น ความเหมาะสม หรือ จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ หรือความถูกผิดกันเลย

ล่าสุด ในช่วงสัปดาห์นี้ มีความเคลื่อนไหว ในกลุ่มวิชาชีพแพทย์กันอีก และกำหนดวาระงานกันเป็นแผนการ ชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้เขียนเห็นว่า สมควรที่ผู้รักประชาธิปไตย จะต้องรู้เท่าทันและติดตามการเคลื่อนไหว และที่สุด คือมีมาตรการตอบโต้ด้วย 

พวกหมอๆเขาทำอะไรกัน?

แพทย์โรงเรียนแพทย์

24 กุมภา ที่ผ่านมา ได้จัดแถลงข่าว ในนามองค์กรวิชาชีพและ สถาบันต่างๆ ประกอบด้วย 9 คณบดีคณะแพทยศาสตร์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และนายกสภาวิชาชีพ 7 วิชาชีพ   มี แพทยสภา ทันตแพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม สภาเทคนิคการแพทย์ สภากายภาพบำบัด สัตวแพทยสภา รวมทั้งประชาคมสาธารณสุข และข้าราชการบำนาญ พร้อมใจกันร่วมออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยได้แต่งชุดสีดำเพื่อไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว

 

  
                              

ซึ่งถ้าสาระมีแค่นี้ ก็คงพอรับได้ แม้จะดูภาพที่บรรดาอาจารย์แพทย์ทำดราม่าโศกเศร้าเสียใจมาก กับความตายของเด็กผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งไม่ว่าเป็นใครก็ต้องเสียใจ 

แต่ ที่อยากถามอาจารย์แพทย์ ที่ "แต่งดำทำเศร้า" ยืนเอามือแนบอก ก็คือว่า แล้วความตายของเด็กชายอีชา เมื่อ เดือน พ.ค. ปี53 ที่ศาลมีคำวินิจฉัยชัดเจนแล้วว่า ตายจากอาวุธปืนของทหาร ความตายของด.ช.กำพร้า ชื่ออีชา ไม่กระเทือนจิตใจอาจารย์แพทย์ทั้งหลายเลยหรือ ไม่นับอีกเกือบร้อยศพและบาดเจ็บ2000 เศษ

แต่สาระของการแถลงข่าวในวันนั้น อยู่ที่บทสรุปของ น.พ.ณรงค์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ว่า "เราขอประณามความรุนแรงและรัฐบาลต้องรับผิดชอบ จากนี้ไปเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขคงจะออกมาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ.................ส่วนกิจกรรมในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ขอให้รอวันดังกล่าว"

 คิดง่ายๆคือว่า พวกหัวหมอๆ เหล่านี้ กำลังใช้ความตายและความสูญเสียของผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็ก มาเป็นเครื่องมือ เป็นสะพาน เป็นเหตุ ในการสนับสนุนให้เกิดความชอบธรรม ในการออกมาไล่รัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ใช่หรือไม่

แพทย์กระทรวงสาธารณสุข

  1 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หมอใหญ่กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ชื่อ ชมรมผู้อำนวยการร.พ.ศูนย์และร.พ.ทั่วไป ได้ส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการรพ.ทั่วประเทศ เรื่องให้ร่วมล่ารายชื่อแพทย์และบุคลากรในร.พ. เพื่อสนับสนุนจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้นายกยิ่งลักษณ์ลาออก ตามเอกสารที่แนบ

 


 

 2 ขณะเดียวกัน ในกลุ่ม โรงพยาบาลอำเภอและโรงพยาบาลประจำตำบล รวมทั้งสถานีอนามัย ทั่วประเทศ ก็ได้มีการสั่งการผ่านไปทาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในทุกๆจังหวีดให้ดำเนินการล่ารายชื่อแบบเดียวกัน

 3 หากดูที่จดหมาย ก็เป็นที่ประหลาดใจแล้ว ว่า ราชการไทย ใช้ทรัพยากรของรัฐ ในกระบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองอ ย่างโจ่งแจ้ง ไม่สนใจเลยว่า ทรัพยากรทั้งกำลังคนและเวลา ที่ รพ.ทั่วประเทศใช้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ความคิดเห็นทางการเมืองทั้งสิ้น ไม่มีส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับงานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเลย

4     แต่ยังไม่พอ เมื่อพิจารณา เอกสารแนบ ฉบับที่ 2 ซึ่งแนบส่งพร้อมๆกับ จดหมายข้างต้น  เพื่อ อธิบายขั้นตอน การร่วมลงชื่อ ก็จะพบกับความจริงที่แยบยลของหมอที่คิดวางแผนงานนี้ เพื่อเป้าหมายของการให้ได้ชื่อบุคลากรทั้งหมดให้มากที่สุด  คนหัวหมอพวกนี้ ก็ได้สั่งการให้ทุกๆโรงพยาบาล.พิมพ์ชื่อแพทย์และบุคลากรทุกคนทั้งร.พ.ไว้ ในรายชื่อทั้งหมดเลย และแจ้งให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วย ผู้ที่ไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวไล่นายกยิ่งลักษณ์ ให้มาแสดงตนและลบชื่อออกไป และเหมารวมว่า ชื่อทั้งหมดที่เหลือก็คือรายชื่อผู้ร่วมสนับสนุนไล่นายกยิ่งลักษณ์ ซึ่งในความเป็นจริงก็คือ

 4.1 ข้าราชการส่วนใหญ่เป็นพวกไม่อยากยุ่ง ไทยเฉย จริงหรือไม่

 4.2 การที่ข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยแต่การที่จะไปแสดงตน ต่อผู้บังคับบัญชา และแจ้งขอให้ลบชื่อออก ท่านคิดว่า จะเกิดขึ้นได้ง่ายหรือไม่

 4.3 การแจ้งให้ผู้ไม่เห็นด้วยไปแสดงตนและให้ลบชื่อตนออก เท่ากับการทำให้เกิดการแบ่งแยกข้าราชการ ในที่ทำงานเดียวกัน ออกเป็นสองพวก สองข้างอย่างชัดเจน การทำแบบนี้ เกิดผลดีต่อการทำงานหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น จากความคิดอันแยบยลของคนหัวหมอครั้งนี้ คือจะมี จะได้ รายชื่อแพทย์และบุคลาการของร.พ.ที่ทางหมอจะไปอ้างถึงจำนวนนับ ข้าราชการที่เห็นด้วยกับการไล่นายกยิ่งลักษณ์ มากกว่าความเป็นจริง

5 และกระทรวงสาธารณสุข โดยการสั่งการของปลัดกระทรวง ได้กำหนดการที่จะ

  สั่งการให้ทุก โรงพยาบาล ขึ้นป้ายขับไล่รัฐบาล ด้วยข้อโจมตีเรื่องคอรัปชั่น

  วันพุธที่ 26 กุมภานี้ เวลา 12.00 นัดหมายรวมตัวกันที่ร.พ.ของตน แต่งชุดดำคัดค้านรัฐบาลคอรัปชั่น 

  วันพฤหัส ที่ 27 กุมภา นัดรวมตัวกันไปยื่นรายชื่อให้กับสมาชิกวุฒิสภา ที่รัฐสภา เวลา 10.00น.

กล่าวโดยสรุปก็คือ กลุ่มหมอๆทั้งหลาย ยังคงไม่ยอมหยุด ที่จะใช้ความเป็นแพทย์ ความเป็นสถาบันวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข ออกมาอ้างในการเคลื่อนไหวขับไล่นายกยิ่งลักษณ์ ด้วยวิธีการอันแยบยล เพื่อให้ได้รายชื่อมากที่สุด 

แล้วประชาชนผู้รักประชาธิปไตย...ควรทำอย่างไรดี

 ต้องร่วมมือกัน ส่งเสียง แสดงความเห็นออกไป ให้ถึง โรงพยาบาลในชุมชนที่ท่านอยู่ ตัวอย่างเช่น หากร.พ.จังหวัดหรืออำเภอของท่าน มีการแต่งชุดดำจริง มีการขึ้นป้ายประท้วง ขับไล่รัฐบาลจริง ขอเสนอให้ประชาชนรวมตัวกัน เพื่อไปขอพบผู้อำนวยการร.พ. ขอคำอธิบายและเรียกร้องให้ร.พ.ปลดป้ายออกทันที ( ตัวอย่างคือที่ร.พ.อุบลนัตน์ จ.ขอนแก่น )

และ สำคัญมากอีกประการหนึ่งคือ รวมตัวกัน ไปพบผู้อำนวยการ โรงพยาบาลในพื้นที่ ทุกแห่ง ด้วยคำของ่ายๆ เพียงคำขอข้อเดียวเหมือนๆกันว่า

 " ขอทราบชื่อ หมอที่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ในการรวบรวมรายชื่อไล่นายกยิ่งลักษณ์หน่อยครับ"

ส่วนต่อจากนี้ เชื่อมั่นว่า พลังประชาชนผู้ตื่นแล้ว จะรู้กันเอง ท่านควรจะร่วมกันเคลื่อนไหวอย่

างไรต่อไป กับคน"หัวหมอๆ"เหล่านี้
.........

เรื่องเกี่ยวเนื่อง:แพทย์มีสีได้แต่อย่าเว่อร์