ศาลยกฟ้อง "สมคิด บุญถนอม" พร้อมพวก ไม่ผิดคดีอุ้มฆ่า "อัลลูไวลี่" นักธุรกิจซาอุดิอาระเบีย ชี้พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
ศาลอาญา รัชดา พิพากษายกฟ้อง
ในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ1 และนางวักดะห์ ซาเล็ม ฮาเหม็ด
อัลลูไวรี่ มารดานายมูฮัมหมัด อัลลูไวรี่ ร่วมกันเป็นโจทก์
ฟ้องพลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ,พันตำรวจเอกสรรักษ์
จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน , พันตำรวจเอกประภาส ปิยะมงคล
ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี , พันตำรวจโทสุรเดช อุดมดี
และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง รวม 5 คน
ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็น/เหตุให้ผู้นั้นถึงแก่
ความตาย,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน
และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา
สืบเนื่องจากกรณีที่นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย หายตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2533
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า
คำให้การของพันตำรวจโทสุวิชชัย แก้วผลึก พยานโจทก์ เป็นเพียงบันทึกคำให้การ
มีข้อพิรุธหลายประการ โดยเฉพาะที่พันตำรวจโทสุวิชชัย
อ้างว่าได้แหวนจากก้นถังน้ำมันที่อ้างว่าเป็นแหวนของนายโมฮัมหมัด
อัลลูไวรี่ มา แต่ไม่แจ้งผู้บังคับบัญชา ผิดวิสัยของพยานที่เป็นตำรวจ
ทั้งกลับนำแหวนไปซ่อมพร้อมทำพิธีทางศาสนา ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
ก็เป็นข้อพิรุธ จึงเสมือนว่ามีการสร้างพยานหลักฐานใหม่ขึ้นมา
และทางญาติของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่
ก็ไม่ได้นำสืบว่าเป็นแหวนของนายโมฮัมหมัด หรือไม่
ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอุฉกรรจ์ มีโทษถึงประหารชีวิต การที่โจทก์
ไม่ได้นำตัวพันตำรวจโทสุวิชชัย มาเบิกความก็เท่ากับไม่มีประจักษ์พยาน
เป็นเพียงพยานบอกเล่า รวมทั้ง พลตำรวจโทสมคิด กับพวกจำเลย
ก็ฝห้การปฎิเสธมาโดยตลอด ไม่มีน้ำหนักรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า
พลตำรวจโทสมคิด กับพวกทั้ง 5 คน กระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
ภายหลังนายอาตีก ฆอนิม อัลลูไวรี่
น้องชายของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ บอกกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ
ว่ารู้สึกผิดหวังกับคำพิพากษามาก
และเตรียมแถลงท่าทีที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัร เวลา 13.00 น. วันนี้
ขณะที่พลตำรวจโทสมคิด
ระบุด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ว่าไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดหรือความรู้สึกที่เกี่ยวข้องในคดีได้
เนื่องจากยังติดเงื่อนไขของศาลในการประกันตัว
และหากมีโอกาสก็พร้อมจะเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
และยังไม่โล่งใจเพราะคดีนี้มีรายละเอียดมาก
สำหรับคดีดังกล่าวมีการสืบสวนมานานกว่า 24
ปี และถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์
และมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และซาอุดิอาระเบีย
โดยนายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจ
มีศักดิ์เป็นพระญาติของกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุดิอาระเบีย
มาเปิดบริษัททำธุรกิจจัดส่งแรงงานภายในประเทศไทย
ไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลาง
แต่หลังเกิดคดีฆาตกรรมนักการทูตซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี 2533 นายอัลรูไวลี่
ก็หายตัวไป และจากการสืบสวนขณะนั้นพบว่า พลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม พร้อมพวก
ได้นำตัวนายอัลลูไวลี่ไปสอบเค้นข้อมูล
ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนักการฑูตซาอุฯหรือไม่
จนกระทั่งนายโมฮัมหมัด อัลลูไวรี่หายตัวไป
กระทั่ง ปี 2552 กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ได้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ โดยนำแหวนทองที่หัวแหวนมีรูปพระจันทร์เสี้ยว
ซึ่งเป็นแหวนประจำตระกูลของนายอัลลูไวลี่ ที่ พันตำรวจโทสุวิชชัย แก้วผลึก 1
ในทีมพลตำรวจโทสมคิด เก็บไว้ มามอบให้พนักงานสอบสวน
และยื่นฟ้องคดีต่อศาลก่อนที่คดีจะหมดอายุความเพียง 1 เดือน
ภาพ : http://www.chaibadancrime.com/
by
Veeraporn
31 มีนาคม 2557 เวลา 10:32 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น