ที่มา Hedlomnews
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 ที่คลินิคโรคทางสมองและประสาท ห้อง 4
ชั้น 4 โรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ หรือ หมอเบิร์ด ประสาทและศัลยแพทย์
โรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม อายุ 39 ปี เปิดเผยว่า
จากการรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบมาเป็นเวลานานพบว่า
โรคนี้เป็นโรคที่ติดอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิต โดยปี 2557
เส้นเลือดในสมองตีบทำให้คนเสียชีวิตเป็นอันดับ 2
และก่อให้เกิดความพิการเป็นอันดับ 1
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูงมาก
ทั้งการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันเฉลี่ยครั้ง 15,000 บาทต่อครั้ง
และการใส่สายสวนเพื่อขยายหลอดเลือดแดงเฉลี่ย 200,000 บาทต่อครั้ง
“สาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบมี 3 ประการ ด้วยกันคือ
1.หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือลิ้นหัวใจมีปัญหา
2.เส้นเลือดที่บริเวณลำคอตีบทำให้ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ และ
3.สมองตันจากไขมันหรือหินปูนเกาะ ซึ่งคนทั่วไปที่หากมีอายุ 50 ปีขึ้นไป
มีโอกาสที่จะเส้นเลือดในสมองตีบได้ โดยเปรียบเทียบจากท่อน้ำที่มีอายุ
มองภายนอกอาจไม่ทราบเพราะน้ำยังไหลอยู่ ไม่มีอาการ
แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ตีบหรือตัน
ภายในย่อมเกิดสนิมเกาะและในที่สุดก็จะอุดตันได้ หรือคนที่มีโรคความดัน
ไขมัน เบาหวาน และสูบบุหรี่ มีโอกาสที่เส้นเลือดจะขรุขระหรืออุดตันได้ง่าย
และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ รักษาทันก็ดีไป
แต่หากไม่ทันมีโอกาสพิการ เรียกว่า ครึ่งต่อครึ่งพิการหากเป็น
หรือเป็นอัมพาตได้ จึงคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้”
นพ.ประชา กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม
มีคนไข้ในความดูแลหลายรายที่มารักษาด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ
ซึ่งเรามีนวัตกรรมใหม่ในการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด
แต่ใช้ใส่สายสวนลงไปที่เส้นเลือดแดงผ่านไปยังเส้นเลือดแดงใหญ่ที่หน้าอก คอ
สมอง ขยายหลอดเลือดแดงที่สมอง แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ได้มีคนไข้รายหนึ่งเป็นชายมีอาการหลอดเลือดที่คอตีบเข้ามารับการรักษาเลือด
ไม่สามารถส่งผ่านไปเลี้ยงสมองทำให้เกล็ดเลือดอุดเป็นก้อน
มีอาการอ่อนแรงและอัมพาตชั่วคราว ทางเราใช้ยารักษาและป้องกันจนอาการดีขึ้น
แต่ต่อมาเกิดอาการซ้ำ มีการใช้ยาเพิ่ม 2 ตัว
แต่เอาไม่อยู่ต้องผ่าตัดเพื่อทำบอลลูนขยายเส้นเลือด
“คน
ไข้รายนี้กลัวการผ่าตัดมาก จึงตัดสินไม่ผ่าตัด และขอไปรักษากินยาสมุนไพร
ซึ่งหมอเตือนไปว่าอาจเกิดอาการอุดตันซ้ำ
ขอให้กินยาแผนปัจจุบันที่หมอให้ควบคู่ไปด้วย 6
เดือนผ่านไปปรากฎว่าว่ามีเรื่องน่าสนใจและไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น
หลังจากหมอเอกซ์เรย์และฉีดสีดูเส้นเลือดที่ตีบเส้นเดิมนั้น
เส้นเลือดที่เคยตีบ หรือขรุขระ กลับเรียบสวย ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว
เป็นเรื่องที่หมอไม่เชื่อแต่น่าสนใจจึงสอบถามว่าไปทำอย่างไรมา
คนไข้อธิบายได้ความว่าได้นำขิง พุทราจีนแห้ง และเห็ดหูหนูดำ มาตุ๋นรวมกัน
ดื่มเช้า-เย็น กินแทนน้ำ ปัจจุบันหยุดยาแผนปัจจุบันไปเลย”
นพ.ประชา กล่าวว่า รายที่ 2 มีอาการหนักมาก
เพราะเส้นเลือดในสมองตีบ และเลือดออกในกระเพาะ อายุ 70 ปี
ต้องให้ยารักษาประคองอาการ เพราะจะให้ยาละลายลิ่มเลือดในสมองไม่ได้
เพราะต้องรอแผลในกระเพาะหายก่อน
จึงลองเล่าให้ลูกสาวฟังถึงอาการของคนไข้รายแรกว่าหายได้ด้วยสมุนไพร 3
อย่างที่กล่าวมา ซึ่งแพทย์เองก็ไม่ได้เชื่อ แต่ไม่อันตรายเลยอยากให้ลองดู
เพราะยาแผนปัจจุบันใช้ไม่ได้ ปรากฎว่า 2
เดือนกลับมาตรวจใหม่เส้นเลือดเรียบดีขึ้น
และได้ลองบอกคนไข้รายต่อไปที่สนิทกันว่าให้ลองนำสมุนไพรมาตุ๋นดื่ม
อาจมีประโยชน์จริง ปรากฎว่าดีขึ้นทุกราย
เพราะเส้นเลือดที่เคยขรุขระเรียบสวยขึ้น
“ผม
ก็เกรงว่าจะเป็นดาบสองคม จึงบอกเฉพาะคนไข้ที่สนิทกัน แต่ทั้ง 16 ราย
ดีขึ้นหมด เพราะเหมือนเราล้างท่อทุกวัน จึงไม่มีทางตัน คนไข้รายที่ 2
กินแทนน้ำไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย ที่สำคัญไตยังทำงานได้ดีขึ้น
เพราะพุทราจีนบำรุงไต ส่วนผสมที่เหมาะสมคือ น้ำ 1 ลิตร พุทราจีนแห้ง 20-30
ผล เห็ดหูหนูดำ 10 ช่อใหญ่ หรือ 20 ช่อเล็ก ขิง 1 ขีดใหญ่ ตุ๋นประมาณ 2-4
ชั่วโมง ได้น้ำ 50-60% กินแต่น้ำ”
นพ.ประชา กล่าวเพิ่มเติมว่า
อยากให้มีการพัฒนาต่อยอดในโรงพยาบาลของรัฐบาล
เพราะเราไม่มีปริมาณคนไข้มากพอที่จะทำงานวิจัย แต่เมื่อรู้ว่าดีก็บอกต่อ
ขณะนี้ยังไม่ได้ทำการพัฒนาและวิจัยว่าจริงหรือไม่จริง 100%
แต่เห็นว่าเป็นประโยชน์ และยืนยันว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อน
หากโรงพยาบาลรัฐจะทำการวิจัยโดยคนไข้จำนวนมากเพื่อดูผลก่อนและหลังว่าได้ผล
กี่เปอร์เซนต์น่าจะดีและมีประโยชน์ในอนาคตในการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือด
สมองตีบ
แต่ในแง่ของการรักษาเบื้องต้นสามารถมารับการรักษาและรับคำแนะนำได้ที่คลินิ
คโรคหลอดเลือดทางสมองและประสาท โรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม
ซึ่งทางโรงพยาบาลมีระบบช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
ตีบหรือแตก
อาการ
คือ อ่อนแรง หรือชาแขนขาซีกใดซีกหนึ่งทันทีทันใดพูดไม่ชัด ไม่เป็นคำ
หรือพูดไม่ได้ทันทีทันใด ปากเบี้ยว
ตามืดมองไม่เห็นทันทีทันใดข้างใดข้างหนึ่ง
หากมีอาการดังกล่าวให้รีบไปโรงพยาบาลทันที หากช้ากว่า 4
ชั่วโมงครึ่งอาจรักษาไม่ทันและทำให้เกิดความพิการตามมา
“ปัจจุบันหมอก็กินน้ำตุ๋นจากสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด
เพราะเชื่อว่าแก้เส้นเลือดอุดตันทั่วร่างกาย ลดไขมัน ทุกคนในครอบครัวกินหมด
โดยเฉพาะพี่ชายหมอ ซึ่งก็เป็นหมอเช่นกัน หลังลองกินแล้วไปเล่นกีฬาหนักๆ
ไม่มีอาการปวดขาจากกล้ามเนื้อขาดเลือดอย่างที่เคยเป็นเลย
ซึ่งหมอดีใจเพราะไม่อยากรักษาคนในครอบครัวที่เป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบเช่น
กัน ส่วนตัวไม่อยากให้คนไทยเป็นโรคนี้เพราะเป็นแล้วจะพิการ
โดยเฉพาะหัวหน้าครอบครัวที่เป็นแล้วทำให้ครอบครัวล่มสลาย
จึงมีความหวังดีมาบอกต่อ โดยไม่หวังผลด้านธุรกิจ”
สำนักข่าวเห็ดลม รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น