บทที่ ๒๔."อตัมมยตา" เป็นเครื่องผลักดันให้ขึ้นอยู่เหนือโลก
นี่เราอยู่กันในโลกจมอยู่ในโลก
ไม่รู้จักว่าอะไรอย่างไร
เหมือนกับปลาไม่รู้จักบก
ไม่มีอะไรจะดุนดันปลา ให้ขึ้นมาบนบก
เพราะปลามัน ไม่มีอตัมมยตา
มันก็เลยอยู่ในน้ำ
ถ้ามันมีอตัมมยตาเกิดขึ้นในใจ
มันก็กระหายที่จะขึ้นจากน้ำ
ดุนดันให้ขึ้นเหนือน้ำจนเป็นสัตว์บก
นี่ก็เหมือนกันน้ำ ก็คือโลก โลกก็คือน้ำ
โลกมีความหมายอย่างเดียวกับน้ำคือ ตกแล้วจมๆ
มีพระพุทธภาษิตว่า
มหาสมุทรที่ลึกที่สุดนั้นคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ตกบ่อของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนี้
มันจมยิ่งกว่ามหาสมุทร
เดี๋ยวนี้มันมีอตัมมยตา
มันขึ้นมาได้จากมหาสมุทรอันลึก.
นี่เราอยู่กันในโลกจมอยู่ในโลก
ไม่รู้จักว่าอะไรอย่างไร
เหมือนกับปลาไม่รู้จักบก
ไม่มีอะไรจะดุนดันปลา ให้ขึ้นมาบนบก
เพราะปลามัน ไม่มีอตัมมยตา
มันก็เลยอยู่ในน้ำ
ถ้ามันมีอตัมมยตาเกิดขึ้นในใจ
มันก็กระหายที่จะขึ้นจากน้ำ
ดุนดันให้ขึ้นเหนือน้ำจนเป็นสัตว์บก
นี่ก็เหมือนกันน้ำ ก็คือโลก โลกก็คือน้ำ
โลกมีความหมายอย่างเดียวกับน้ำคือ ตกแล้วจมๆ
มีพระพุทธภาษิตว่า
มหาสมุทรที่ลึกที่สุดนั้นคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ตกบ่อของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนี้
มันจมยิ่งกว่ามหาสมุทร
เดี๋ยวนี้มันมีอตัมมยตา
มันขึ้นมาได้จากมหาสมุทรอันลึก.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น