แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

'ยิ่งลักษณ์' หารือนายกเครือรัฐออสเตรเลีย ตอบรับเยือนไทย

ที่มา Voice TV

 'ยิ่งลักษณ์' หารือนายกเครือรัฐออสเตรเลีย ตอบรับเยือนไทย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกฯ หานายกเครือรัฐออสเตรเลีย ระหว่างประชุมเอเปค โดยนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ตอบรับคำเชิญเพื่อจะเยือนประเทศไทยอย่างแน่นอน 
 
 
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีการหารือทวิภาคีกับนายโทนี่ แอ๊บบอตต์ นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย ระหว่างร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 21 เพื่อหารือความร่วมมือทวิภาคี และความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย ภายหลังการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้แกนนำของนายแอ๊บบอตต์ 
 
 
วันนี้ (7 ตุลาคม 2556) เวลา 12.15 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหารือกับนายโทนี่ แอ๊บบอตต์ (The Honourable Tony Abbott) นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลียระหว่างร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 21 ณ โรงแรม Sofitel สรุปสาระสำคัญดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีกับนายแอ๊บบอตต์ ที่ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย โดยครั้งนี้เป็นการพบกันครั้งแรก ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยนายกรัฐมนตรีและฯเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของนายแอ๊บบอตต์ เครือรัฐออสเตรเลียจะประสบความสำเร็จและมีส่วนร่วมในการพัฒนา ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยรอคอยที่จะทำงานร่วมกับออสเตรเลีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และระดับโลก
 
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลียเดินทางเยือนไทยอย่าง เป็นทางการในโอกาสที่เหมาะสมเพราะครั้งสุดท้ายที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เยือนไทยคือปี 2541 ซึ่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ตอบรับคำเชิญของนายกรัฐมนตรีโดยจะหาเวลาที่เหมาะสมมาเยือนไทยอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันในปีหน้าไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูง ไทย-ออสเตรเลีย (Senior Official Talks-SOT) และการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ออสเตรเลีย (JC) เพื่อรักษาความสมดุลของความร่วมมือที่มีพลวัตรของทั้งสองประเทศ โดยทางออสเตรเลียยินดีจะส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาร่วมอย่างแน่นอน
 
 
ไทยมองออสเตรเลียเป็นพันธมิตรที่ยาวนานและ มีความสำคัญอย่างมากในภูมิภาค ความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยทั่วไปอยู่ในระดับที่ดี มีความใกล้ชิด และครอบคลุมในหลายด้านรวมทั้งมีการหารือและแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูง อย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีที่ออสเตรเลียมีนโยบายที่จะเข้ามามีส่วนร่วม กับเอเชียมากยิ่งขึ้น และตระหนักถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจและโอกาสของเอเชีย 
 
 
ทั้งนี้หลังจากที่มีการบังคับใช้ความตกลง เขตการค้าเสรีกับออสเตรเลีย (Thailand-Australia Free Trade Agreement: TAFTA) ทำให้ปริมาณการค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้น 3 เท่า 
 
 
ด้านการศึกษา 
ที่ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือทวิภาคีหลัก ระหว่างไทยและออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียยังคงเป็นประเทศที่นักศึกษาไทยนิยมไปศึกษาต่อ ซึ่งนายกรัฐมนตรีรู้สึกขอบคุณที่ออสเตรเลียให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดรวมถึงแผน Columbo ฉบับใหม่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้นักศึกษาจากทั้งสองประเทศมาแลกเปลี่ยนและศึกษาในแต่ละ ประเทศมากขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีหวังว่าจะมีนักศึกษาออสเตรเลียเข้ามาศึกษาในไทย รวมถึงมีความร่วมมือเกี่ยวกับการฝึกอบรมในด้านต่างๆ ทั้งภาษาอังกฤษ และอาชีวศึกษามากขึ้น
 
 
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม 
นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญออสเตรเลียร่วมส่ง เสริมความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยหวังที่จะมีการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและนักวิชาการร่วมกัน เพื่อดำเนินการวิจัยในหัวข้อที่ทั้งสองประเทศมีความสนใจร่วมกัน เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์และใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในท้ายที่สุดจะส่งผลให้เกิดการเจริญเติบโตและพัฒนา ขณะเดียวกันออสเตรเลียกำลังร่วมมือกับหลายประเทศในการป้องกันไข้มาลาเรียใน ภูมิภาค ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
 
 
การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนสู่ประชาชน 
ทั้งสองยินดีที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาว ออสเตรเลียเดินทางไปท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น โดยไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวออสเตรเลีย เป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคนต่อทั้งนี้ไทยขอบคุณออสเตรเลียที่ให้การสนับสนุนการลงสมัครรับเลือก ตั้งในตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติของไทย ในวาระปี 2017-2018 รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการหาเสียงของไทย นอกจากนี้ไทยยังขอการสนับสนุนจากออสเตรเลียใน การลงสมัครเป็นสมาชิก HRC วาระปี 2015 – 2017 ซึ่งไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์
7 ตุลาคม 2556 เวลา 13:40 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น