https://www.youtube.com/watch?v=v6lP14akqSI
Published on Mar 31, 2014
(ภาษาอังกฤษ) สัมมนา: โฟกัสที่ประเทศไทย (ประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางของกลุ่มประเทศอา เซียน)
หัวข้อ: สถาบันกษัตริย์ และอนาคตของประชาธิปไตยในประเทศไทย
โดย ร.ศ. ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
หัวข้อ: วิกฤตทางการเมืองในประเทศไทย และผลกระทบต่ออาเซียน
โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557,ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา
หัวข้อ: สถาบันกษัตริย์ และอนาคตของประชาธิปไตยในประเทศไทย
โดย ร.ศ. ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
หัวข้อ: วิกฤตทางการเมืองในประเทศไทย และผลกระทบต่ออาเซียน
โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557,ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2544 ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้ร่วมกันให้การบรรยาย ณ Chicago Public Library ต่อผู้เข้าฟังที่มีทั้งคนไทยในนครชิคาโก้ และชาวต่างชาติ โดยหัวข้อการบรรยายคือ “Thailand: Political Crisis and the Monarchy” มีผู้เข้าร่วมการบรรยายทั้งสิ้นประมาณ 60 คน การบรรยายเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13:30 น. และสิ้นสุดเมื่อเวลา 16:00 น.
ศ.ดร.ชาญ วิทย์ ได้กล่าวเปิดการบรรยายในหัวข้อ Two Twilights in Modern Thailand/Siam ย้ำว่า เราจะไม่สามารถเข้าใจการเมืองและสังคมไทยในปัจจุบันได้ หากมิได้ศึกษาควบคู่กับ บทบาทของพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน แต่เราจะเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น หากศึกษาโดยเปรียบเทียบระหว่าง 2 รัชสมัยอันยาวนานของระบอบ "สมบูรณาญาสิทธิราชย์" ในรัชกาลที่ 5 ที่ยาวนานกว่า 40 ปี กับระบอบ "พระราชอำนาจนำ" ในรัชกาลที่ 9 เกือบ 70 ปี
นอก จากนี้ อาจารย์ชาญวิทย์ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เนื่องจากได้เกิดปัญหาขึ้นมากมายที่นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองครั้ง ใหญ่ในสยาม และเหตุการณ์นี้เอง อาจสามารถนำมาใช้พิจารณา วิเคราะห์และคาดการณ์ปรากฏการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายรัชสมัยปัจจุบัน รวมทั้งสถานะและบทบาทของพระมหากษัตริย์ในรัชสมัยต่อไป ข้อความสำคัญที่อาจารย์ชาญวิทย์ได้ทิ้งท้ายไว้นั้นคือ หากสถาบันกษัตริย์จะมั่นคงและอยู่คู่กับสถาบันประชาธิปไตยต่อไป เงื่อนไขสำคัญคือการต้องปฏิรูปสถาบันเอง โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ทางด้าน รศ.ดร.ปวิน ได้กล่าวในหัวข้อ “Thailand’s Political Crisis and the Future of the Throne” โดยได้กล่าวเสริมต่อสิ่งที่อาจารย์ชาญวิทย์ได้ทิ้งท้ายไว้ โดยพิจารณาถึงบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์และการแทรกแซงทางการเมืองในยุค ปัจจุบัน และท้าวความถึงการทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ พตท.ทักษิณ ชินวัตร จนมาถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งคือการเข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมืองโดยตรงของพระบรมวงศานุวงศ์ บางองค์ ทำให้การอ้างถึงการอยู่เหนือการเมืองนั้นไม่สามารถทำต่อไปได้ และสถาบันกษัตริย์ก็มิได้เป็นกลางอย่างที่หลายคนเข้าใจ
อาจารย์ปวินก ล่าวต่อว่า ในการปกป้องพระราชอำนาจต่อภัยทางการเมืองที่มาในรูปของ “ระบอบทักษิณ” นั้น ฝ่ายรอยัลลิสต์ได้ใช้เครื่องมือหลายประการในการต่อสู้กับศัตรูทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหาร ตุลาการภิวัฒน์ การใช้อุดมการณ์ราชานิยมสุดโต่ง และการใช้กฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างฟุ่มเฟือย
ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ได้ส่งผลดีต่อสถาบันกษัตริย์แม้แต่น้อย การเข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมืองของสถาบันกษัตริย์นั้น จะกลายมาเป็นประเด็นหลักของรัชสมัยต่อไปที่จะเริ่มต้นด้วยการขาด “ทุนทรัพย์ทางด้านอำนาจและบารมี” นอกเสียจากว่ารัชสมัยต่อไปนั้นจะให้ความสำคัญต่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ อย่างแท้จริง อนาคตของสถาบันอาจจะประสบปัญหามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการยอมรับจากภาคประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น