บทความอยู่ใน Facebook ของ Doungchampa Spencer-Isenberg
บทความแปล: ทำไมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี พ.ศ. 2540 ถึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับประเทศของเรา
อ้างอิงจากบทความ: Why the 1997 People's Constitution is Important for Our Country?
(หมายเหตุ: บทความแปลฉบับนี้ จะมีคุณค่ามาก ถ้าได้รับการแชร์ออกไปในการประชุมคนเสื้อแดง ในวันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 นี้ เพราะ
เห็นว่า จะมีประชาชนนับแสนคน ที่จะไปรวมตัวในงาน
ทำไมเราถึงไม่ล่าลายเซ็นต์เกี่ยวกับเรื่องนี้กัน?
เพราะการนำเอารัฐธรรมนูญปี 2540 กลับเข้ามาใช้ ในการทำประชามติ
เป็นเรื่องที่ดีมากที่สุด ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบขององค์กรอิสระต่างๆ
ที่ีเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
ด้วยการใช้หลักการตามกฎหมายที่ทั่วโลกยอมรับได้
ใช้เวลาอ่านเนื้อหาและเหตุผลประกอบประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
กรุณาลองนำไปคิดอีกครั้งนะคะ จำนวนคนมากขนาดนี้ เราสามารถทำเรื่องนี้ให้เป็นความจริงได้)
**********************************
อาจารย์เดวิด สเตรคฟัสส์ (David Streckfuss) และ ผม แม็กซ์ เฮดรูม (Max Headroom) ได้
รวบรวมสาระสำคัญร่วมกัน 5 ข้อที่ตอบคำถามว่า
ทำไมจึงควรมีการนำเอารัฐธรรมนูญของประชาชน ปี พ.ศ. 2540 กลับเข้ามาใช้ใหม่
ข้างล่างนี้คือบทสรุปที่ผสมผสานไว้:
1. รัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2540
เป็นบทบัญญัติของประเทศไทยฉบับเดียวที่เคยถูกร่างภายใต้รัฐบาลที่มาจากการ
เลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย สมาชิก 76 ท่านจาก 99
ท่านได้ถูกเลือกเข้ามาเป็นผู้แทนโดยตรงจากทุกภาคทุกจังหวัด
(นอกจากรัฐธรรมนูญของท่านปรีดี พนมยงค์ของปี พ.ศ. 2489
ซึ่งถือว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดสำหรับประเทศได้เคยพบเห็นกันมาก่อน)
ตรงกันข้ามกับผู้ทำการร่างรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2550
ซึ่งทำการแต่งตั้งอย่างเฉพาะเจาะจงโดยกลุ่มผู้ยึดอำนาจของฝ่ายกองทัพ
2. รัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน มอบความสมดุลทางอำนาจอย่างดีกว่า
เพราะสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน
มันแสดงให้เห็นถึงจุดๆ
หนึ่งของเหตุการณ์อันสำคัญสำหรับการบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ
มนุษยชน และสร้างความแข็งแกร่งให้กับหลักการว่าด้วยการถ่วงดุลอำนาจ (Checks
and Balances)
ด้วยการใช้องค์กรอิสระที่เข้ามาพร้อมกับกระบวนการคัดเลือกอันโปร่งใส
ในปัจจุบัน ภายใต้รัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2550 นั้น
สมาชิกวุฒิภาพเกือบครึ่งหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง
ในขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่ง
ชาติ อยู่ภายนอกการควบคุมหรือความรับผิดชอบของประชาชนทั่วไป –
แท้ที่จริงแล้ว
มันเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่ก่อตั้งไว้ตั้งแต่แรก
เริ่ม
3. รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540
บัญญัติไว้ถึงการห้ามให้มีการก่อการรัฐประหารไว้อย่างชัดเจน
ซึ่งทำให้การก่อการรัฐประหารโดยกองทัพเมื่อปี พ.ศ. 2540
เป็นอาชญากรรมอันร้ายแรง บทบัญญัติของปี พ.ศ. 2540
เป็นบทบัญญัติที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย
4. รัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2540 ยังได้ริเริ่มกระบวนการของการลดอำนาจส่วนกลาง
ซึ่งต่อมาภายหลังนั้น เป็นปัจจัยหลักสำหรับการปฎิรูปในอนาคต –
เมื่อปราศจากการลดอำนาจส่วนกลางในประเทศไทยแล้ว มันก็ไม่มีการมอบอำนาจใดๆ
ไว้ให้กับประชาชนเลย
5. ท่านอาจจะถามว่า ทำไมถึงไม่ทำการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาเล่า?
คำตอบง่ายๆ ก็เป็นเพราะว่า
มันไม่มีเวลาอันแท้จริงที่สามารถทำการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใด้
ตราบนานเท่าที่การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ยังอยู่ในภาวะที่หยุดชะงัก
และการเลือกตั้งก็ถูกก่อกวนทำลายล้างหรือไม่ก็ทำให้เป็นโมฆะลงไป
อย่างไรก็ตาม
กระบวนการประชาธิปไตยบังคับให้เราสามารถรวบรวมทางเลือกในเรื่องการทำ
ประชามติเข้าไปได้
รัฐธรรมนูญของประชาชนปี พ.ศ. 2540
เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในมือ --
มันเป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่งที่สามารถทำการแก้ไขและทำการปฎิรูปได้
และมันสามารถเป็นเกราะป้องกันประชาชนเพื่อนร่วมชาติของเราต่อความมีอิสรภาพ ด้วย
ประการฉะนี้ เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลของเราและเพื่อนร่วมชาติของเราทั้งหมด
ทำการสนับสนุนจากเหตุผลที่เรากล่าวไว้นี้ โดยการทำประชามติทั่วประเทศ
ให้นำเอารัฐธรรมนูญของประชาชนปี พ.ศ. 2540 กลับเข้ามาใช้
– ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่พร้อมแล้วในเวลานี้
เพื่อมอบอำนาจการปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้กับประชาชนในยามที่เราต้องการ
มันอย่างมากที่สุด
จบบทความ
**********************************
หลังจากที่บทความได้ถูกนำมาโพสต์แล้ว มีความคิดเห็นดีๆ เข้ามาอย่างมากมาย ก็เลยขอแปลไว้ในที่นี้ค่ะ:
อาจารย์ แม็กซ์ ยังเพิ่มความเห็นไว้ในคอมเม้นท์ดังนีั้คือ:
เงื่อนไขของรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2540
เกี่ยวกับการแต่งตั้งบุคลากรในองค์กรอิสระต่างๆ มีการปฎิบัติที่แตกต่างกัน
หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงตามรัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะมีการแต่งตั้งบุคลากรต่างๆ
ขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะดำรงตำแหน่งเหล่านั้น
ความแตกต่างกันอยู่ที่จำนวนบุคคลและระบบกระบวนการสรรหา
ศาลรัฐธรรมนูญ, คณะกรรมการการเลือกตั้ง และ
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ
จะต้องปฎิบัติการภายใต้โครงสร้างตามกฎหมายที่ทางรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2540
ได้บัญญัติไว้ และไม่สามารถนำเอากฎเกณฑ์ที่อำนวยความสะดวกในรัฐธรรมนูญปี
2550 ที่เขียนขึ้นโดยฝ่ายกองทัพ
เพื่ออนุญาตให้พวกเขาทำการบ่อนทำลายล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
มาใช้กันโดยพลการได้
คณะกรรมการการเลือกตั้งจะเป็นผู้ควบคุมดูแลการเลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรที่มาจากเสียงของประชาชนทั้งหมด
และมีบุคคลที่มาจากการแต่งตั้งสรรหาเป็นจำนวนน้อยมาก
**********************************
มีการให้คอมเม้นท์เสริมกับอาจารย์แม็กซ์ว่า การนำเอารัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2540
กลับเข้ามาใช้นั้น มีเรื่องหนึ่งที่เขาอยากจะเห็นการปรับปรุงเกิดขึ้น
นั่นก็คือ ระบบการอุทธรณ์ในทุกๆ ศาล
ซึ่งรวมไปถึงศาลอุทธรณ์และองค์กรอิสระต่างๆ อย่างเช่น
คณะกรรมการการเลือกตั้ง, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ,
ศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ จนกระทั่งไปถึงศาลฎีกาด้วย ปัญหาในเวลานี้คือว่า
เมื่อปราศจากกระบวนการอุทธรณ์ที่ต้องรับคำตัดสินมีความผูกพัน (Binding
Verdict) จากองค์กรเหล่านี้ ซึ่งมีประวัติอย่าง “สั่นคลอน”
ในเรื่องของความยุติธรรมเกี่ยวกับระบบตุลาการ โดยเฉพาะการตีตราเรื่อง
“สองมาตรฐาน” ที่ความยุติธรรมทั้งหมดในศาลยุติธรรมบางแห่ง
มีอำนาจการตัดสินโดยเฉพาะเรื่องนั้น
กลับกลายเป็นความอคติลำเอียงและแบ่งขั้วให้เห็นอย่างชัดเจน
ซึ่งทำให้เกิดความมลทินขึ้นมากับศาลอีกหลายแห่งที่พยายามยึดถือกฎหมายเป็น
หลัก
**********************************
อาจารย์แม็กซ์กล่าวต่อว่า แท้ที่จริงแล้ว การทำประชามติ (Referendum)
นั้นก็เป็นตัวบทบัญญัติอย่างหนึ่งที่อยู่ในกฎหมายของรัฐธรรมนูญปี 2550 นี้
และทางคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ไม่สามารถปฎิเสธการปฎิบัติการในเรื่องนี้ได้
เพราะตนเองไม่มีอำนาจแต่อย่างใด
ถ้าใครก็ตาม ทำการปฎิเสธการทำประชามติแล้ว ผลก็คือ:
- มันเป็นสัญญาณที่ส่งให้กับทั่วทั้งโลกได้รับรู้ว่า ระบอบประชาธิปไตยได้หยุดการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ในประเทศไทย เนื่องจากว่า หลักการของมันที่ประชาชนคืออธิปไตยของชาติ ซึ่งอยู่ในลำดับแรกของรัฐธรรมนูญทุกๆ ฉบับ และเป็นการแสดงให้เห็นว่า ระบอบประชาธิปไตยได้ถูกทำลายล้างลงไปแล้ว
- มันเป็นคำแถลงว่า เราทั้งหมดพยายามหาทางเลือกสุดท้ายเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกับสงครามการเมืองด้วยการใช้วิธีการอย่างสันติ
- มันยังเป็นการสิ้นสุดของทางเลือกแบบ
ประชาธิปไตยและความสงบสันติขั้นสุดท้ายที่เราสามารถยอมรับกับมันได้
ถ้าเราต้องการที่จะหลีกเลี่ยงระบอบเผด็จการอย่าเต็มรูปแบบ
**********************************
อาจารย์ แม็กซ์ เพิ่มเติมต่อว่า:
ทำไมพวกอำมาตย์ถึงหวาดกลัวกับเรื่องนี้ล่ะ? คำตอบก็คือ ประชาชนคนธรรมดานี้
ได้เริ่มตระหนักรับทราบดีถึงข้อเท็จจริงว่า อำนาจต่างๆ
อยู่ในกำมือของพวกเขาเอง และไม่จำเป็นต้องไปพึ่งกับพรรคเพื่อไทยเลย
ถ้าเพียงแต่พวกเขาได้ลิ้มรสของประชาธิปไตยสักเพียงเล็กน้อย
พวกเขาจะหันหางเสือเรือกลับลำ 180 องศาอย่างรวดเร็วทีเดียว
**********************************
มีคำถามว่า
ดูเหมือนกับคณะกรรมการการเลือกตั้งได้สร้างอำนาจของพวกเขาขึ้นมาเอง
ซึ่งตามมาด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ,
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญ
อาจารย์แม๊กซ์กล่าวตอบว่า เราทราบเป็นอย่างดีในเรื่องนี้
แต่การกระทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรง
ด้วยการปฏิเสธอธิปไตยในสิทธิ์ของการแสดงความคิดเห็น
และละเมิดสิทธิของเราตามที่ระบุไว้ในตัวบทกฎหมายของรัฐธรรมนูญ
รวมไปถึงการล่วงละเมิดปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
สามารถถูกนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานและเพื่ออ้างถึงความสมเหตุสมผลที่จะใช้กอง
กำลังประชาชน
เพื่อลุกขึ้นมาทำการขับไล่ผู้พิพาษาและต่อต้านพวกกลุ่มอำมาตย์พวกนี้อย่าง
ตรงไปตรงมากันได้
**********************************
ความคิดเห็นของผู้แปล:
(เชิญแชร์ หรือ Tag ได้ตามสบาย)
บทความชิ้นนี้ คุณแม็กซ์ เฮดรูม กับ อาจารย์เดวิด เสตรคฟัสส์
ได้ช่วยเขียนกัน เพื่อนำเอาความชอบธรรมและเหตุผลเข้ามาประกอบว่า ทำอย่างไร
สถานการณ์ทุกอย่างจะสามารถหยุดได้
และไม่นำเราเข้าไปสู่ภาวะของสงครามกลางเมืองในทุกๆ นาที
อาจารย์เดวิดได้เขียนบทความเสนอแนะนี้ไว้ ตามลิ้งค์นี้ค่ะ:
(ยังมีบทความเกี่ยวเนื่องของ คุณโทมัส ฟูลเลอร์อยู่ที่นี่เช่นกัน):ดิฉัน คิดว่า มันเป็นทางออกที่ดีที่สุด และสงบที่สุดในเวลานี้ นั่นก็คือ เป็นการยุบองค์กรอิสระที่เป็นตัวปัญหาของประเทศอีกหลายองค์กร ส่วนการอ้างว่า เป็นการล้มล้างการปกครองนั้น ก็คงจะเป็นไปยากเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เคยถูกนำเข้ามาใช้และปฎิบัติเป็นเวลาเกือบ 10 ปี และประการสำคัญที่สุดคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงเป็นผู้ลงพระปรมาภิไธยมาก่อนหน้าแล้วเช่นกัน
มาลองส่งกระแสในเรื่อง การทำประชามติกันดีไหมคะ? รวมไปถึงเรื่อง การทำประชามติเกี่ยวกับ จะเอาปฎิรูปหลังหรือก่อนเลือกตั้งกัน?
**********************************
ถ้าเรื่องนี้สามารถจุดติดได้ สิ่งที่ดิฉันขอร้องอย่างเดียว และทำเป็นกรณีพิเศษ คือ ให้ประชาชนสัญชาติไทยที่อยู่ต่างประเทศ มีสิทธิ์ออกเสียงในการทำประชามติได้ด้วย เพราะ
ตามปกติแล้ว เรื่องนี้ จะไม่ทำกัน เพราะไม่ใช่การเลือกตั้งใหญ่
เราไม่อยากให้เสียคะแนนเสียงไปอีกหลายแสนเสียง และอีกประการหนึ่ง คือ
เรื่องนี้ ไม่ใช่การเลือกตั้ง ดังนั้น บุคคลที่อยู่ในสมณเพศ
ควรจะมีสิทธิ์ไปทำการลงประชามติ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิ์ของประชาชนทุกคน
ไม่จำกัดด้วยว่าอยู่ในสมณเพศหรือไม่ ส่วนบุคคลที่ต้องโทษนั้น
อยู่ที่กฎการปฎิบัติภายในเรือนจำเอง หรือจากคำสั่งของรัฐบาล
เราน่าจะนำเรื่องนี้ไปใช้ ในการประชุมใหญ่
อย่ามาเสียเวลาในเรื่องร้องรำทำเพลงเลย
น่าจะนำเวลาที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์อย่างมากที่สุดในเรื่องนี้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น