ชื่อบทความเดิม ...
เสียงจากประชาชนคนหนึ่ง จีน-พุธิตา ชัยอนันต์
นักประชาธิปไตย "เลือดใหม่"
นักประชาธิปไตย "เลือดใหม่"
โดย วจนา วรรลยางกูร
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
เป็นอีกปีที่สถานการณ์การเมืองดุดันและรุนแรง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่บีบคั้น
ก็มีคนหน้าใหม่หลายคนแสดงตัวขึ้นมาท่ามกลางกระแสที่เชี่ยวกราก
เห็นหญิงสาวหน้าจิ้มลิ้มคนนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงจะผ่านตาจากภาพข่าวและรายการโทรทัศน์ต่างๆ เพราะเธอคือหญิงสาวใจกล้าที่ไปชูป้าย "เห็นหัวเราบ้าง" ขณะ
ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังแถลงข่าวที่สโมสรทหารบก
เพื่อแสดงจุดยืนให้ กกต.เคารพสิทธิของประชาชน และยื่นหนังสือเรียกร้องให้
กกต.ลาออก
แม้วันนั้นหนังสือที่นำไปยื่นจะถูก กกต.วางทิ้งไว้บนโต๊ะ
แต่อย่างน้อยสังคมก็ได้เห็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าองค์กรอิสระควรให้
ความสนใจกับเสียงทักท้วงของประชาชนบ้าง
หลังจากนั้นแสงไฟก็จับจ้องมายังหญิงสาวที่บุกไปประชิดตัว กกต. พร้อมคำถามว่าเหตุใดจึงต้องมาเรียกร้องให้ "เห็นหัวเราบ้าง"
เธอคือ "พุธิตา ชัยอนันต์" หรือ "จีน"
หลายคนอยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังความคิดของหญิงสาวที่กล้าทำสิ่งที่หลายคนคิด แต่ไม่กล้าทำ
"วันนั้นเป็นวันที่เราไปในฐานะประชาชน
แสดงเจตนาให้เขาเห็นว่า
เรามองว่าเขาไม่สมควรที่จะอยู่ในตำแหน่งคนที่ทำหน้าที่จัดการการเลือกตั้ง
เพราะเขาแสดงออกมาตลอดว่าเขาไม่ต้องการให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น
และเขามีพฤติกรรมที่ขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งไม่เหมาะสมกับการทำหน้าที่
กกต."
นอกจากจะเป็นสมาชิกเพจเฟซบุ๊ก "มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นว่าคนไทยทั้งประเทศอยากได้ กกต.ชุดใหม่" ที่ไปแสดงออกวันนั้นแล้ว จีนยังเข้าร่วมกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับอีกหลายกลุ่ม
จีน เป็นสาวเชียงใหม่ เกิดเมื่อ 9 ตุลาคม 2530
ปัจจุบันอายุ 26 ปี หลังเรียนจบจากคณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ก็เรียนต่อปริญญาโทสาขาพัฒนาสังคม คณะสังคมศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ขณะนี้เป็นช่วงทำวิทยานิพนธ์จึงสามารถแบ่งเวลามาเคลื่อนไหวทางการเมืองที่
กรุงเทพฯได้
ครอบครัวเปิดร้านอาหารอยู่ที่เชียงใหม่ จีนเป็นพี่สาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 4 คน
"ทุกวันนี้ที่ทำอะไรวันนี้ไม่ได้ห่วงตัวเองเลย ห่วงที่บ้านมากกว่า มีการส่งจดหมายไปข่มขู่ที่ร้านอาหาร จึงเป็นห่วงพ่อแม่พี่น้อง"
หลังเคลื่อนไหวทางการเมืองจนเป็นข่าว
เธอโดนข่มขู่คุกคามหลายรูปแบบ แต่จากการสนทนาพูดคุยกับจีนแล้ว
เชื่อว่าความคิดของเธอหนักแน่นจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงง่ายๆ
ทุกคำถาม หญิงสาวตอบอย่างมั่นใจ จริงจังและหนักแน่น
"พิสูจน์ตัวตนของสาวหน้าใสได้ด้วยบทสนทนาต่อจากนี้"
ตอนนี้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง?
ปกติเป็นสมาชิกกลุ่มวันใหม่ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่
จ.เชียงใหม่ รวมตัวกันวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสังคมทางการเมือง
ตอนนี้เข้าร่วมกับกลุ่มพอกันที ทำกิจกรรมจุดเทียนยุติความรุนแรง
และมีร่วมกับกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มจับตาองค์กรอิสระ
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองว่าแต่ละกลุ่ม แต่ละคน
มีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าเรามองเห็นประเด็นร่วมกัน และมีจุดมุ่งหมาย
มุมมองที่สอดคล้องกันก็จะร่วมกันทำกิจกรรม
ชูป้าย "เห็นหัวเราบ้าง" หมายถึงอะไร?
คำว่า "เห็นหัวเราบ้าง" เป็นคำที่กลุ่มพอกันที
ใช้ในการดำเนินกิจกรรม แล้วเราก็ยืมคำนั้นมาใช้
ต้องการจะสื่อถึงทุกคนที่ไม่ต้องการการเลือกตั้ง ทั้งประชาชน กลุ่ม กปปส.
และผู้มีอำนาจทางการเมือง ผู้อยู่เบื้องหลังทุกฝ่าย
กกต.เป็นหนึ่งในองค์กรอิสระ
แน่นอนว่าไม่ได้มีที่มาจากประชาชน เราไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของเขาได้
จากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา ทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทั้ง
กกต.ไม่ได้แสดงออกถึงการตั้งใจในการที่จะทำหน้าที่ของตัวเอง
แต่ทำตัวเป็นผู้รู้และเสนอทางออก เสนอคนกลางให้สังคม ซึ่งไม่ใช่หน้าที่
มองเห็นว่านี่ไม่ใช่องค์กรอิสระ เป็นกลุ่มที่ฝักใฝ่ทางการเมือง
เป็นเครื่องมือทางอำนาจของชนชั้นนำบางกลุ่มหรือเปล่า
การเลือกตั้งเป็นวิธีการที่ดีที่สุดจริงหรือ?
(ตอบทันที) ใช่ค่ะ
คนในสังคมสามารถจินตนาการถึงระบอบการปกครองแบบไหนก็ได้
แต่ว่าการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย
เป็นหลักประกันที่ทำให้มนุษย์ทุกคนมีตัวตน
การที่เรามีสิทธิเลือกผู้แทนเข้ามาทำหน้าที่ในสภา
เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน นี่คือระบอบการปกครองที่เราใฝ่ฝัน
แม้ว่าทุกวันนี้ระบบรัฐสภา ระบบการเมืองไทยยังมีปัญหาอยู่
ตัวแทนไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนที่แท้จริง ก็ควรที่จะไปแก้ที่มาของ
ส.ส.และ ส.ว. ไม่ใช่การล้มระบอบประชาธิปไตย
มีคนบอกว่าการเลือกตั้งสะท้อนเสียงที่แท้จริงไม่ได้?
การเลือกตั้งเป็นบันไดขั้นแรกของสังคมประชาธิปไตย
ถ้าบอกว่าการเลือกตั้งไม่สามารถสะท้อนเสียงที่แท้จริงได้
แล้วจะมีระบบไหนที่สะท้อนเสียงของประชาชนได้ การแต่งตั้ง...ยิ่งแย่
จะสะท้อนเสียงของประชาชนยังไงในเมื่อไม่มีฉันทามติ
ส่วนเรื่องการซื้อเสียงเป็นมุมมองและความเข้าใจผิดของชน
ชั้นกลาง มีงานวิจัยมาแล้วว่าภาคที่มีการซื้อเสียงเป็นภาคใต้และภาคกลาง
ไม่ใช่ภาคเหนือและภาคอีสาน ดังนั้น
การบอกว่าคนภาคเหนือและภาคอีสานที่เลือกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ที่ถูกจูงใจโดย
การซื้อเสียงนั้น
เป็นวาทกรรมของฝ่ายที่ต้องการลดทอนความชอบธรรมของกระบวนการเลือกตั้ง
ข้อเสนอที่ให้สิทธิลงคะแนนตามวุฒิการศึกษา
ทำให้เห็นว่าคนในสังคมที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้มีการศึกษา หรือชนชั้นกลาง
ยังมองเห็นความเป็นคนไม่เท่ากัน
1 สิทธิ 1 เสียง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการศึกษา
เป็นการบ่งบอกว่าคนเราไม่ว่าจะเกิดมาในชนชั้นไหน อาชีพไหน การศึกษาระดับไหน
เพศอะไร คนมีตัวตนและคุณเป็นคน แต่การที่อีกฝ่ายหนึ่งมาบอกว่า
คุณมีการศึกษาต่ำกว่าแล้วคุณควรจะมีเสียงน้อยกว่า เป็นการดูถูกคน
ลดทอนความเป็นมนุษย์ของคนอีกกลุ่มหนึ่ง
เป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นในสังคมที่บอกว่าเราเป็นสังคมของคนดี
แล้วกับคำที่ว่า "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง"?
เราจะปฏิรูปกันแบบไหนล่ะคะ จะปฏิรูปกันอย่างไร วิธีการไหน
ตัวแทนในการปฏิรูปคือใคร ในเมื่อไม่มีการเลือกตั้ง
ประชาชนทุกคนในประเทศไม่มีส่วนร่วมในการเลือกตัวแทนที่มาปฏิรูป
การปฏิรูปต้องมีรากฐานมาจากประชาชนทุกคน
ไม่ใช่แค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วเรียกตัวเองว่าเป็นมวลมหาประชาชน
หากทำจริง เห็นว่าสังคมหลังการปฏิรูปของ กปปส.
ต้องเกิดสงครามกลางเมืองแน่นอน เพราะว่าประชาชนอีกฝ่ายต้องการการเลือกตั้ง
คนเสื้อแดงรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำและถูกกดขี่มาเป็นระยะเวลานานหลาย
ปีตั้งแต่รัฐประหาร และเหตุการณ์สลายการชุมนุม
ถ้าหากเกิดการปฏิรูปที่มีนายกฯคนกลางที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
ความขัดแย้งครั้งนี้ต้องบานปลายไปสู่เหตุการณ์การนองเลือดอย่างแน่นอน
คนเสื้อแดงชัดเจนตั้งแต่แรกว่าสู้เพื่อประชาธิปไตย
ไม่ได้สู้เพื่อพรรคการเมืองหรือทักษิณ
คำว่าระบอบทักษิณ เป็นเพียงวาทกรรม?
มวลมหาประชาชนหรือผู้ที่ไม่ต้องการการเลือกตั้ง
ไม่ต้องการระบอบทักษิณ เขามองข้ามอะไรไปหรือเปล่า
เขาคิดว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่เป็นการกำจัดระบอบคอร์รัปชั่น ระบอบทักษิณ
โดยที่ไม่เห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ทำให้เกิดความขัดแย้งกับประชาชน
สำหรับมวลชนคนเสื้อแดง เขารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ถูกกระทำ
ทักษิณไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ เขาต่อสู้เพื่อชีวิต เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง
คำว่าประชาธิปไตย มันกินได้ มันคือชีวิตของเขา
คือการเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งมองเห็นว่าเขาเป็นคน
ไม่ใช่คนที่ถูกเข่นฆ่าแล้วตายเปล่ากลางถนน ไม่ใช่คนที่ถูกเรียกว่าเป็นคนโง่
เป็นควายแดง
ระบอบทักษิณ
เป็นวาทกรรมที่ต้องการจะบอกว่าระบอบคอร์รัปชั่นมีเฉพาะนักการเมือง
คำว่าระบอบทักษิณมันมีปัญหาทำให้คนมองว่าคอร์รัปชั่น มีแค่สถาบันของรัฐบาล
เป็นนักการเมือง จริงๆ แล้วการคอร์รัปชั่นมีอยู่ทั่วทุกองค์กร
ยังมีอีกหลายองค์กรที่ตรวจสอบไม่ได้ เช่น องค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ
และอีกหลายสถาบัน
สังคมตอนนี้ สามารถหาคนกลางได้ไหม?
ทุกวันนี้เรายังไม่เห็นใครที่เป็นกลางจริงๆ ในสังคมไทย
ขนาดองค์กรอิสระที่ออกมาเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ก็ยังไม่มีความเป็นกลาง
มองว่าคนกลางไม่มีอยู่จริง และนายกฯคนกลางไม่ว่าจะเป็นใคร
คนนั้นไม่มีความเป็นกลาง
ความเป็นกลางจะเกิดขึ้นมาได้จากเสียงของประชาชนเท่านั้น
เสียงที่มาจากการเลือกตั้ง
การเจรจาไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งที่สะสมมายาวนานได้
แต่อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่นำไปสู่การเลือกตั้ง
หากเจรจาแล้วตกลงกันว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
นำไปสู่ทางออกได้
ที่ผ่านมาพูดไหมว่าตัวเองเป็นเสื้อแดง?
พูด ตอนนี้รู้สึกแย่กับมุมมองของสังคม
ที่มาตัดสินว่าคุณเป็นเสื้อขาวหรือเสื้อแดง การที่คุณออกมาจุดเทียน
ออกมาใส่เสื้อขาว คุณมีเสียงมากกว่าคนเสื้อแดง
เหตุผลของคุณฟังขึ้นมากกว่าที่คุณบอกว่าคุณเป็นคนเสื้อแดง
เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากเลย ไม่ว่าคุณใส่เสื้อสีอะไร
เสียงของคุณควรจะดังเท่ากัน จีนยอมรับว่าจีนเป็นเสื้อแดง
แต่ที่ออกมาจุดเทียนใส่เสื้อขาวนี้
เพราะเห็นว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง
ไม่ต้องการจะเอาชนะทางการเมืองอย่างเดียว
คนเสื้อขาวที่ออกมาจุดเทียนมีจุดประสงค์ 3 อย่างคือ 1.ต้องการการเลือกตั้ง
2.ไม่เอารัฐประหาร 3.ไม่เอาความรุนแรงทุกรูปแบบ
จุดประสงค์นี้ทำให้เราออกมาจุดเทียนและรวมกันเป็นเสื้อขาวเพื่อสร้างพื้นที่
ให้กับคนที่ไม่ได้ฝักใฝ่ทางการเมืองฝ่ายใด
แต่ต้องการพื้นที่แสดงออกทางการเมืองว่าเราไม่ต้องการความรุนแรง
ไม่ได้ชื่นชอบทักษิณ ไม่ได้รักพรรคเพื่อไทย
แต่เริ่มบอกว่าตัวเองเป็นคนเสื้อแดงตั้งแต่หลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อ
ปี 2553 เราเห็นคนตาย แต่ไม่เห็นมีคนออกมารับผิดชอบ
เห็นคนในสังคมสะใจกับการที่เสื้อแดงตาย
เราเห็นคนชนชั้นกลางประณามคนเสื้อแดง
เพราะว่าคนเสื้อแดงเผาห้าง...พูดไม่ออกแล้ว
เคยถ่ายรูปในม็อบ กปปส. แล้วโดนคนในอินเตอร์เน็ตนำรูปไปประจาน?
สังคมตอนนี้แบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน
รับสื่อเฉพาะฝ่ายของตัวเอง ทำให้เราไม่เข้าใจกัน
การเข้าไปที่ชุมนุมของอีกกลุ่มหนึ่ง อาจทำให้เราเข้าใจว่าจริงๆ
แล้วเขาต้องการอะไร การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
คือการที่เราเปิดอกเปิดใจแล้วมองในมุมเขา
ผลที่ออกมาคือพอเขาทราบว่าเราเป็นเสื้อแดงเขาก็เสียบประจาน เขาคงเห็นภาพที่เราเคยร่วมกิจกรรมกับ บ.ก.ลายจุด
ไม่เห็นด้วยกับการล่าแม่มด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนทำ
ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล นำไปสู่ความรู้สึกไม่ปลอดภัย
ทุกวันนี้ก็ยังกล้าแสดงออกอยู่ แต่ว่ามีการข่มขู่คุกคาม
ต่อมามีการข่มขู่ไปถึงครอบครัว มีจดหมายส่งไปที่มหาวิทยาลัย
ทำให้ทุกวันนี้ต้องระวังตัว แต่จะกลัวมากไม่ได้
เพราะว่าสิ่งที่เราทำรู้อยู่แต่แรกแล้วว่าเสี่ยงอันตราย
เราเล่นกับความรู้สึกคนแล้วก็อำนาจที่เรามองไม่เห็น
เริ่มสนใจการเมืองเมื่อไหร่?
เคยมีวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับชาวบ้านกับคนรากหญ้ามาก่อน
เคยสัมผัสชีวิตที่ยากลำบาก เลยเข้าใจคนเสื้อแดงที่โดนดูถูก
ก่อนหน้านี้ที่เคยไปขายเสื้อยืดตัวละ 49 บาท ในตลาดตอนกลางคืน ทุกคืน
เลิกเรียนไปตลาด เก็บของตีสามตีสี่กลับบ้านเป็นอย่างนี้ประมาณ 1 ปี
จึงได้สัมผัสชีวิตแม่ค้า คนกลางคืน ผู้หญิงหาเช้ากินค่ำ
ทำให้เข้าใจวิถีชีวิตความทุกข์ความเดือดร้อน
คุณพ่อคุณแม่คุยกันเรื่องการเมืองตลอดเวลา
และมีโอกาสเข้าร่วมโครงการห้องเรียนประชาธิปไตยที่ร้านบุ๊ค รีพับบลิก
เชียงใหม่
จัดอบรมให้เด็กนักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่สนใจการเมืองมาฝึกทฤษฎีทางวิชาการในการ
เคลื่อนไหว มาฝึกคิดวิพากษ์ประเด็นทางสังคม ประเด็นทางการเมือง
เริ่มติดตามข่าวการรัฐประหารมาตั้งแต่ปี 2549 เริ่มมาเคลื่อนไหวหลังปี 2553
ทำไมเลือกเรียนนิติศาสตร์?
มีความสนใจในกฎหมาย
ตอนแรกคิดว่าเรียนจบปริญญาตรีก็ต้องมาต่อเนติฯ
แต่เรียนแล้วไม่ชอบการท่องกฎหมาย กลับชอบวิชาที่วิพากษ์กฎหมาย
ชอบเรียนสิทธิมนุษยชน เรียนนิติปรัชญา
ตอนต่อปริญญาโทเลยเปลี่ยนมาเรียนเกี่ยวกับสังคม การวิเคราะห์สังคม
มองว่าเราต้องใช้กฎหมายอยู่แล้ว แต่การมีความรู้แค่กฎหมาย
ไม่พอในการปรับใช้ในการแก้ปัญหาสังคม ต้องมีมุมมองด้านอื่นด้วย
ต้องมีความรู้แบบสหวิชาชีพ เรามีความคิดในการทำงานด้านสังคม
เป็นคนอย่างไร?
เป็นคนดื้อ
ตอนอยู่ในบ้านจะเป็นคนเดียวที่กล้าเถียงพ่อเถียงแม่ เพราะพ่อเป็นคนดุมาก
เคยโดนพ่อว่าเป็นคนขวางโลก เราตั้งคำถามกับกรอบจารีตประเพณี ความเชื่อศาสนา
ความเชื่อทางสังคม
มุมหวานก็มี ก่อนหน้านี้เป็นนางแบบ ถ่ายแบบแฟชั่นญี่ปุ่น เป็นเด็กสาวธรรมดา แต่เบื่อแล้ว
จริงๆ เป็นคนอ่อนไหวมาก ถ้าไม่งั้นคงไม่ทำอะไรแบบนี้
เริ่มเคลื่อนไหวเพราะเกิดความสะเทือนใจ แต่ภาพออกมาดูโหด
ก็เพราะสิ่งที่เราทำมันโหด
คนรุ่นใหม่วันนี้มีความหวังไหม?
คนรุ่นใหม่เป็นความหวังของสังคม
เป็นกลุ่มคนที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพร้อมกับวิธีคิดใหม่ๆ
การออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ต้องมีความหวัง ถ้าเราไม่มีความหวังเราไม่ทำ
ส่วนตัวแล้วที่กำลังทำทุกวันนี้ต้องการกระตุกความคิดของคนรุ่นใหม่ให้หันมา
สนใจปัญหาทางสังคมปัญหาทางการมืองมากขึ้น แม้มองไม่เห็นแต่เรามีความหวัง
แล้วก็จะทำ
ทางออกจากความขัดแย้ง
วันนี้มีเพียงทางออกเดียวเท่านั้น
ต้องกลับมาสู่กระบวนการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย
คือตอนนี้เรามองเห็นแต่การสูญเสีย สงครามการเมือง ความหวังต้องมี
ทำให้ดีที่สุดทำเท่าที่เราจะทำได้ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง
การอยู่ร่วมในความขัดแย้ง
ในระดับประชาชนแต่ละฝ่ายต้องถอยออกมา มองอีกฝ่ายหนึ่งให้เห็นเป็นคน
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายมองอีกฝ่ายหนึ่งเป็นศัตรู เป็นสิ่งชั่วร้าย
วิธีลดการขัดแย้งคือทำให้เห็นว่าทุกคนเป็นคนเหมือนกัน มีชีวิตจิตใจ
มีสติปัญญาเหมือนกัน อย่าคิดว่าฝ่ายตัวเองถูกกระทำอย่างเดียว
ต้องมองคนเท่ากัน
ดูเหมือนเป็นวาทกรรมแต่มีความหมายมาก ถ้าเสื้อแดงมอง
กปปส.เป็นซอมบี้ ก็เท่ากับว่าเราฆ่าเขาได้ ถ้า
กปปส.มองเสื้อแดงเป็นขยะสังคม กปปส.ก็ฆ่าเสื้อแดงได้เช่นเดียวกัน
ตอนนี้สังคมมาถึงจุดนี้แล้ว
การที่เราออกมาเคลื่อนไหวเพราะว่าเรามองเห็นภาพนี้
ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกแล้ว
"มันพอแล้วไหมที่คนเหมือนกัน ประชาชนเหมือนกัน จะมาฆ่ากันเอง"
ooo
https://www.youtube.com/watch?v=4w0YKm8huo0
Published on Jan 30, 2014
กกต.เห็นหัวเราบ้าง https://www.facebook.com/media/set/?s...
เราต้องการเพียงเข้าไปยื่นหนังสือให้นายสม
เราต้องการเพียงเข้าไปยื่นหนังสือให้นายสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น