12ภาพแห่งปี-2013 The year in pictures

ที่มา Thai E-News

มกราคม-งานกิจกรรม 29 มกรา หมื่่นปลดปล่อย กลุ่มคนเสื้อแดงอิสระ นำโดยดร.สุดา รังกุพันธุ์ เคลื่อนไำหวเรียกร้องให้รัฐบาลปลดปล่อยนักโทษคดีการเมือง ซึ่งในเวลาต่อมา ฝ่ายรัฐบาลได้ขานรับ ด้วยการออกพรบ.นิรโทษกรรม แต่ได้แปลงร่างไปเป็นพรบ.ฉบับสุดซอยในช่วงปลายปี และนำไปสู่การเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลโดยฝ่ายต่อต้าน (ข่าว:"29 มกราฯ 10,000 ปลดปล่อย")


กุมภาพันธ์-ประธานนปช. ธิดา โตจิราการ ได้เรียกร้องให้คนเสื้อแดงสนับสนุนยุทธศาสตร์การเมืิองแบบ"2ขา"คือพรรคเพื่อ ไทยทำงานบริหารและนิติบัญญัติในสภา นปช.เป็นมวลชนเกื้อหนุน ขณะที่นักวิชาการอิสระจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่า นปช.ต้องเป็นอิสระ และต้องพร้อมวิจารณ์รัฐบาล รวมทั้งกดดันให้ปลดปล่อยนักโทษคดีการเมือง เกิดกระแสวิพากษ์กันไปมาอย่างหนักหน่วง (ข่าว:สหายปูนปราบลัทธิแก้?)



มีนาคม-ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร มีชัยชนะในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ได้คะแนน1.2ล้านเสียง มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่คนแพ้จากเพื่อไทยคือพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ก็ได้มากเกือบ1.1ล้านเสียง พบว่า2พรรคกวาดคะแนนไป90% ขณะที่ผู้สมัครอิสระได้ต่ำกว่าเป้า แนวโน้มทางบวกคืออตนาคตการเมืองระบบ2พรรค แต่อนาคตทางลบคือปชป.ผู้ชนะได้ปลุกผีปีศาจทักษิณได้ผลอีกครั้งหนึ่ง (ข่าว:บทวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. 2556: ชัยชนะของสองพรรคการเมืองใหญ่)
เมษายน-นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ต่อการประชุมประชาคมประชาธิปไตย อูลัน บาตอ, มองโกเลีย ความสำคัญว่า "ประชาชน คนไทยไม่ท้อถอยและยืนยันที่จะเดินไปข้างหน้า จนในที่สุดรัฐบาลในขณะนั้นต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งก็มีฝ่ายปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยที่เชื่อว่าจะบริหารจัดการและบิด เบือนเจตนารมณ์ประชาธิปไตยได้ต่อ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของประชาชนได้ ดิฉันได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ขอประเทศ แต่เรื่องราวนั้นยังไม่จบ

มีความชัดเจนว่าผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยยังคงอยู่รัฐธรรมนูญที่ ร่างขึ้นในรัฐบาลภายใต้คณะรัฐประหารได้ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็น ประชาธิปไตย

ตัวอย่างหนึ่งที่ดีในประเด็นนี้จะเห็นได้จากที่จำนวนครึ่งหนึ่งของวุฒิสภา ไทยมาจากการเลือกตั้ง แต่อีกครึ่งหนึ่งกลับได้รับการแต่งตั้งโดยกลุ่มคนเล็กๆกลุ่มหนึ่งยิ่งกว่า นั้น กลไกที่เรียกว่าองค์กรอิสระได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตแทนประชาชนเจ้าของอำนาจที่ แท้จริงเป็นการดำเนินการเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหนึ่งมากกว่าเพื่อคนส่วน ใหญ่ของสังคม" (ข่าว:ปาฐกถาร้อนปูแฉฝ่ายปฏิกริยาต้านปชต.ในเวทีโลก)

ปาฐกถาของยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีอะไรใหม่ มันเป็นความจริงตามนั้น และยังดำรงอยู่ เพียงแต่ผ่านปากของเธอในเวทีสากลเป็นหนแรกเท่านั้น

พฤษภาคม -ครบรอบ 3 ปีเหตุการณ์19พฤษภาคม 2553 คดีงวดเข้ามาทุกขณะ เมื่อศาลตัดสินชี้ขาดครั้งแล้วหนเล่าว่าคนเสื้อแดงที่ถูกสังหารนั้นเกิดจาก เจ้าหน้าที่ทหาร ภายใต้การบงการของรัฐบาลอภิสิทธิ์-สุเทพ ทำให้ทั้งสองถูกแจ้งข้อหาบงการสังหารหมู่ แต่ความพยายามขับไล่รัฐบาลของฝ่ายต่อต้านถูกจุดขึ้นรอบใหม่ โดยกลุ่มหน้ากากขาว แม้ไม่ทรงพลังมากนักถึงขั้นจะสั่นคลอนรัฐบาลได้ก็ตาม (ข่าว:เมื่อหน้ากากกบฎเจ้ากลายเป็นหน้ากากคลั่งเจ้า)

มิถุนายน-ผล การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขตดอนเมือง แทนเก่ง-การุณ ปรากฎว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดยอี้-แทนคุณ มีชัยชนะเ้หนือแซม-ยุรนันท์ โดยปชป.ว่างเว้นส.ส.ในพื้นที่นี้มานานเต็มที นักสังเกตการณ์ให้วิเคราะห์ว่าเพราะเพื่อไทย"ไม่เห็นหัว"ผู้สนับสนุน ให้แซมลาออกจากส.ส.เพื่อมาลงส.ส. นึกแต่ว่าผู้สนับสนุนเป็น"ของตาย" ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า คิดผิด (ข่าว:บทเรียนดอนเมือง บทเรียนเพื่อไทย บทเรียนกากขาว)
กรกฎาคม-หลัง จากกลุ่มหน้ากากขาวปั่นกระแสไล่รัฐบาลไม่ขึ้น สมาชิกกลุ่มพันธมิตรฯเดิม ผสมโรงด้วยสนธิญาณ หนูแก้ว ก็เข้าเทกโอเวอร์ขบวนขับไล่รัฐบาล ขณะที่สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำพันธมิตรยืนกรานว่าจะไม่นำพันธมิตรเคลื่อนไหว เพราะโกรธที่ปชป.เคยได้ประโยชน์จากพันธมิตร แต่กลับหักหลังดำเนิ้นคดี สถานการณ์ดังกล่าวดูจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลโล่งใจขึ้น (ข่าว:ม็อบงานกร่อยพันธมิตรไม่ออก สนธิญาณเดี้ยง)
สิงหาคม-การ เมืองในสภาดุเดือดขึ้น เมื่อพรรคฝ่ายค้านประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าฝ่ายรัฐบาลปิดกั้นการรับรู้ของ ประชาชน ไม่ยอมให้ถ่ายทอดสดในเรื่องต่างๆ และกล่าวหาว่าเป็นสภาทาสทักษิณ (ข่าว:ภาพชุดปชป.ก่อวีรกรรมชกตำรวจสภา-ชะนีโหยหวน)

กันยายน-การ เมือง2ขั้วยังดำเนินต่อไป แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ประชันขันแข่งเรื่องนโยบาย ขณะที่รัฐบาลเพื่อไทยเข็นโครงการเงินกู้2.2ล้านล้านสร้างรถไฟความเร็วสูง แต่ปชป.ฝ่ายค้านยังโจมตีเรื่องว่าประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลมีคุณภาพและ วิจารณญาณที่ยังไม่ดีพอ จึงได้เลือก"อีโง่"มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งปชป.และบรรดาผู้สนับสนุนทนเรื่องนี้ไม่ได้เลย (ข่าว:ความอับจนของลัทธิมาร์ค:ด่ายิ่งลักษณ์อีโง่)
ตุลาคม-หลัง จากเร้นกายหายตัวไปนาน ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตผู้นำการเคลื่อนไหว14ตุลาคม 2516 ได้มากล่าวปาฐกถาในโิอกาส40ปี14ตุลาฯ โดยรับเชิญทั้งงานที่เสื้อแดง และเสื้อเหลืองเป็นเจ้าภาพ เขากล่าวถึงจุดยืนที่สำคัญตอนหนึ่งว่า

เหตุการณ์นอง เลือดในปี 2553 ก็มาจากความคิดเห็นที่ไม่อาจไกล่เกลี่ยประนีประนอม เพราะมวลชนที่ต่อต้านรัฐบาลในช่วงนั้นเห็นว่ารัฐบาลมีที่มาไม่ชอบธรรม  อีกทั้งพวกเขายังรู้สึกว่าตัวเองถูกชนชั้นที่เหนือกว่าข่มเหงรังแกตาม อำเภอใจ ทั้ง หลายทั้งปวงนี้ ผมเห็นว่ามีรากฐานมาจากความเหลื่อมล้ำอย่างสุดขั้วทั้งสิ้น ความเหลื่อมล้ำสุดขั้วคือที่มาของความขัดแย้งรุนแรงในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยสงครามประชาชนในชนบท  มาจนถึงกรณีกระชับพื้นที่ด้วยกระสุนจริงที่ราชประสงค์.. วันนี้ ผมขออนุญาตเป็นปากเสียงให้กับพี่น้องเหล่านั้น เพราะผมคิดว่าพวกเขามีโอกาสน้อยเกินไปในการพูดถึงความเสียเปรียบของตน

พฤศจิกายน-รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้แปลงร่างพรบ.นิรโทษกรรมที่มี เจตนารมณ์แต่ต้นในการปลดปล่อยนักโืทษคดีการเมือง มวลชนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย-ทักษิณที่ติดคุกมานาน3ปีแล้ว ไปเป็นพรบ.สุดซอยที่เอื้่อประโยชน์ให้ทักษิณ และไม่เอาผิดผู้บงการสังหารประชาชน ทำให้คนเสื้อแดงอิสระจำนวนมาก และบรรดาผู้สนับสนุนประชาธิปไตย ออกมาต่อต้าน และบก.ลายจุดได้จัดกิจกรรม10,000upคัดค้านขึ้น

แต่ที่หนักหน่วงคือ พรรคประชาธิปัตย์ได้ตัดสินใจออกมา่เคลื่อนไหงบนท้องถนนอย่างจริงจัง จนรัฐบาลต้องถอยร่นแบบสุดซอย และโดนรุกไล่อย่างต่อเนื่อง (อ่านข่าว:ช็อตเด็ดวันนี้:เพื่อไทยบิ๊กคลีนนิ่ง)

ธันวาคม-รัฐบาล เพื่อไทยตัดสินใจยุบสภาเลือกตั้งใหม่ 2 ก.พ.2557 ขณะ่ัีที่ปชป.ลาออกจากส.ส.และบอยคอตการเลือกตั้ง ผู้นำพรรคปชป.ในเสื้อคลุมใหม่กปปส.สุเทพ เทือกสุบรรณ กดดันให้ยิ่งลักษณ์ลาออก และมีเป้าหมายขับไล่ตระกูลชินวัตรพ้นประเทศ โดยประกาศจะปิดกรุงเทพฯเพื่อการนี้

กระแสเสียงชนชั้นกลางชาวกรุงที่ เคยแห่เข้าร่วมสนับสนุนกปปส.ชักเริ่มตีกลับ อาทิดารานักร้อง ฝันดี-ฝันเด่น ที่เคยเข้าร่วมม็อบนกหวีด ก็หันมาต่อต้านการชุมนุมที่สร้างความแตกแยกขัดแย้งในสังคม และเกิดการเข่นฆ่้าสูญเสียขึ้น จนมีการเดินรณรงค์กรุงทพฯ-หัวหินเพื่อกระตุกเตือนสติสังคม (อ่่านข่าว:ฝันเด่นหยุดม็อบคลั่งด้วย2เท้า7วันกรุงเทพฯ-หัีวหิน)