แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มารู้จัก 'โอบาม่าแคร์' อีกสักนิด

ที่มา Thai E-News


: ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโครงการจะต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล 

สิ่งที่ท่านได้ฟัง : โอบาม่าแคร์เป็นการสถาปนาฐานันดรแบบใหม่ ในขณะที่ตอนนี้เราไม่มีเงินพอสนับสนุนสำหรับเพิ่มฐานันดรขึ้นได้
ตรวจสอบความจริง : นี่เป็นข้อโต้แย้งหลักเลยทีเดียวของพรรครีพับลิกันที่จะไม่ยอมมอบงบประมาณดำเนินการแก่โอบาม่าแคร์ ว่าถ้าหากสถาปนาฐานันดรขึ้นมาใหม่แล้วละก็ไม่มีทางที่จะปิดมันลงไปได้ การให้ทุนเกื้อหนุนโอบาม่าแคร์นั้นต่างกับการจัดงบประมาณดำเนินการอย่างเต็มพิกัดให้แก่โครงการเพื่อสังคมเช่น ระบบประกันสังคม (Social Security) และระบบประกันสุขภาพ เมดิแคร์’ (Medicare) แต่ข้อเท็จจริงก็มีอยู่ว่า ใช่ละ มันมีรายจ่ายอีกมากมายต่อๆ ไปตราบเท่าที่โอบาม่าแคร์ยังคงอยู่
ในทางเท็คนิคแล้ว เงินเกื้อหนุนโอบาม่าแคร์เปรียบได้กับเครดิตลดหย่อนภาษี (Tax credit) และ เครดิตยกเว้นภาษีรายได้ค่าแรง มันจะได้กับผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น ต่างกับการประกันสังคม และเมดิแคร์ตรงที่ประโยชน์ที่อำนวยให้นั้นไม่ได้ไปสู่ผู้รับโดยตรง แต่เป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่บริษัทที่ดำเนินการประกันสุขภาพเพื่อสามารถ ไปให้บริการแก่ลูกค้าประชาชนอย่างถ้วนหน้าได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโครงการจะต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล ตามตัวเลขของสำนักงบประมาณสภาคองเกรส จะต้องใช้งบประมาณราว ๑.๑ ล้านล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา ๑๐ ปีข้างหน้า ครั้นเมื่อรวมเข้าไปกับการขยาย Medicaid (โครงการของรัฐบาลกลางเพื่อช่วยเหลือการรักษาพยาบาลแก่ผู้มีรายได้น้อย) ซึ่งจัดทำบนฐานันดรเดิมที่มีอยู่แล้ว เท่ากับบวกค่าใช้จ่ายเข้าไปอีก ๗๑๐ พันล้านในเวลา ๑๐ ปี (นี่เป็นตัวเลขหลังจากคำนวณค่าประหยัดจากเมดิแคร์ ภาษีเกี่ยวเนื่องสุขภาพ และมาตรการอื่นที่เป็นตัวช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วยแล้ว)
เช่นนี้จะเรียกว่าโอบาม่าแคร์เป็นลักษณะฐานันดรรูปใหม่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าท่านคิดว่าคำฐานันดรนี้หมายความอย่างไร ถ้าหากการทดสอบฐานันดรใหม่อยู่ที่ว่าค่าใช้จ่ายมีอย่างต่อเนื่องไปทุกปีก็ใช่ ฐานันดรเช่นนี้นิยามตามม้าร์ค พอลี่ นักเศรษฐศาสตร์สุขศึกษามหาวิทยาลัยเพ็นซิลเวเนียได้ว่า
มันเป็นฐานันดรในความรู้สึกที่ว่า มันตั้งอยู่บนการขับเคลื่อนอัตโนมัติ พอลี่กล่าว มันเหมือนกับเมดิเคด หรือสวัสดิการ มากกว่าจะเป็นเครดิตลดหย่อนภาษีชั่วคราวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
จริงอยู่ว่าเงินเกื้อหนุนโอบาม่าแคร์ไม่ได้ให้เป็นการชั่วคราว มันจะต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีกฏหมายนี้อยู่ แต่ว่าในทางการแล้วมันคือเครดิตภาษี จึงได้ดำเนินการแบบเดียวกับเครดิตทั้งหลายที่กำหนดไว้ในระเบียบภาษีอากร
ตาม ความเห็นของแลรี่ เลวิตต์ แห่งมูลนิธิตระกูลไคเซอร์ มีกลไกบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นไว้ในระบบเครดิตภาษี เพื่อควบคุมไม่ให้ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้นมากในยามที่อัตราเบี้ย ประกันสูงขึ้น นี่ต่างจากโครงการในระบบฐานันดรที่ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มตามไปโดยอัตโนมัติ
แล้วยังมีข้อแตกต่างอย่างยิ่งระหว่างโครงการสุขภาพถ้วนหน้านี้กับโครงการฐานันดรขนาดใหญ่ ในความเห็นของพอลี่ว่า สภาคองเกรสสามารถลดขนาดค่าใช้จ่ายได้ถ้าเกิดปัญหาร้อนระอุทางการเมืองขึ้นมานัวเนียกับโครงการ พอลี่ไม่ยอมรับข้อโจมตีที่ว่าโอบาม่าแคร์เป็นฐานันดรใหม่ที่แตะต้องไม่ได้
มันไม่ใช่โครงการฐานันดรชนิดที่ผมแขวนหมวกไว้ด้วย พอลี่กล่าว
สิ่งที่ท่านได้ฟัง : โอบาม่าแคร์ช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการประกันสุขภาพลดลงไปได้บ้างแล้ว
ตรวจสอบความจริง : รัฐบาลโอบาม่าพยายามอ้างว่าโครงการถ้วนหน้านี้ทำให้อัตราค่าประกันสุขภาพลดลง แต่มันมีปัญหาอยู่นิดหนึ่งว่า พวกคนเขียนประกันภายในระบบสุขภาพเมดิแคร์กลับไม่เห็นเช่นนั้น พวกเขาบอกว่าค่าใช้จ่ายในด้านประกันสุขภาพจะเร่งเพิ่มเร็วขึ้นภายใต้โอบาม่าแคร์ ไม่ใช่ช้าลง
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากระแสค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพภายในชาตินั้นผ่อนคลายลงกว่าที่เคยเป็นมา มันเคยโตในอัตรา ๔ เปอร์เซ็นต์ต่อปีนับแต่ พ.ศ. ๒๕๕๓ หลังจากที่อัตราเพิ่งสูงถึง ๗ เปอร์เซ็นต์ในช่วง ๑๐ ปีก่อนหน้านั้น ทั้งนี้ตามผลการวิจัยในเดือนกันยายนโดยกลุ่มผู้เขียนประกันของเมดิแคร์
และจากการสำรวจอัตราค่าประกันสำหรับนายจ้างของมูลนิธิตระกูลไคเซอร์ในเดือนสิงหาคมพบว่า การเติบโตของราคาช้าลงเหลือ ๔ เปอร์เซ็นต์ในปี ๒๕๕๖ นี้
รัฐบาล ระวังที่จะไม่อ้างว่าเป็นผลมาจากโอบาม่าแคร์ทั้งหมด แต่ว่าประธานาธิบดีโอบาม่าเองเป็นผู้กล่าวว่าอย่างน้อยๆ กฏหมายประกันสุขภาพก็มีส่วนช่วยอยู่ด้วย และประธานาธิบดีก็ใช้อัตราการเติบโตที่ที่เฉื่อยลงนี้เป็นเครื่องสนับสนุน โครงการสุขภาพถ้วนหน้า
ขอบคุณกฏหมายประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่เรียกกันว่า โอบาม่าแคร์ ค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพเดี๋ยวนี้เชื่องช้าลงต่ำสุดในรอบ ๕๐ ปี เป็นปราศรัยของประธานาธิบดีโอบาม่าต่อสมัชชาการส่งออกเมื่อเดือนกันยายน ผลปรากฏว่าสิ่งที่เราทำมาเริ่มผลิดอกออกผลแล้ว และมันก็ส่งผลลัพท์พื้นฐานต่อบรรดาธุรกิจ และประชาชนอเมริกัน
มันไม่แน่ชัดนักว่าการช้าลงของอัตราเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านประกันสุขภาพเกิดจากโอบาม่าแคร์ ผู้เขียนประกันเมดิแคร์บอกว่าอาจเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และการฟื้นตัวที่เชื่องช้าด้วยก็เป็นได้ มันกดดันให้ประชาชนจำกัดจำเขี่ยในการรักษาสุขภาพของตน และเป็นเพราะนายจ้างเปลี่ยนท่าทีไปใช้ประกันสุขภาพแบบที่ผลักภาระให้ลูกจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองมากขึ้น
แต่โอบาม่าแคร์ก็น่าจะมีส่วนช่วยอยู่พอสมควร ค่าใช้จ่ายเมดิแคร์ลดลง อัตราเพิ่มแค่ ๔.๖ เปอร์เซ็นต์ในปี ๒๕๕๕ เทียบกับ ๖.๒ เปอร์เซ็นต์ในปี ๒๕๕๔ กลุ่มคนเขียนประกันบอกว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตัดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ให้บริการรักษาสุขภาพ
เดวิด คัทเลอร์ นักเศรษฐศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ชี้ว่าการจ่ายค่าตอบแทนรายได้เสริมแก่หมอที่ให้การรักษาพยาบาลอย่างดีมีคุณภาพสูง แทนที่จะคำนึงเรื่องปริมาณ ช่วยลดรายจ่ายลงได้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวกับผลของกฏหมาย ดังเช่นการนำเทคโนโลยี่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการรักษาก็ช่วยลดต้นทุนได้เช่นกัน แต่ (กระนั้น) มันจะผิดพลาดอย่างยิ่งถ้าหากจะไม่ยอมรับเสียเลยว่าเป็นผลจากกฏหมายประกันสุขภาพ เขากล่าว
ปัญหาสำหรับทำเนียบขาวอยู่ที่พวกคนเขียนประกันเมดิแคร์บอกว่า ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะกลับมาเพิ่มใหม่ในปี ๒๕๕๗ และโอบาม่าแคร์นี่แหละที่เป็นต้นเหตุใหญ่
กลุ่มคนเขียนประกันรายงานว่า ใน ปี ๒๕๕๗ การเริ่มใช้กฏหมายสุขภาพถ้วนหน้าส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการขยายขอบข่ายประกันใน หลักสำคัญจะทำให้อัตราเติบโตของค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น ๖.๑ เปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นเพราะเมื่อประชาชน (ที่ไม่เคยมีประกันสุขภาพ) ได้ใช้ระบบประกันสุขภาพเป็นครั้งแรก หรือมีการประกันสุขภาพที่ดีกว่าเก่าโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง ย่อมจะใช้ประโยชน์จากโครงการกันมากกว่าเดิม
กลุ่มผู้เขียนประกันเชื่อว่าแนวโน้มเช่นนี้จะยังคงมีในปีต่อๆ ไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพยังคงจะสูงอยู่ เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นผู้คนย่อมใช้จ่ายเพื่อสุขภาพมากขึ้น
เจ้าหน้าที่รัฐบาลบอกว่าขอไม่คอมเม้นต์ต่อคำทำนายเช่นนั้น แต่จะขอเจาะจงให้ความสนใจกับสิ่งที่กฏหมายทำให้เกิดผลแล้วเท่านั้น ทางการย้ำว่าการจ่ายค่าตอบแทนเสริมแก่หมอก่อให้เกิดผลดี และกฏหมายใหม่ยังทำให้เบี้ยประกันสุขภาพลดลงเนื่องจากข้อกำหนดอีกส่วนหนึ่งในกฏหมาย ที่ระบุให้ผู้ขายประกันต้องรายงานชี้แจงเมื่อมีการเพิ่มราคา ๑๐ เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป

ท้ายที่สุดแล้ว : รัฐบาลโอบาม่าได้รับความจริงหนุนหลังในการอ้างว่ากฏหมายใหม่ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายสุขภาพไม่ให้สูงขึ้นรวดเร็ว แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ เสริมอยู่ด้วย และถ้าข้ออ้างของกลุ่มผู้เขียนประกันเป็นจริง ว่าการเติบโตของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเร่งแรงขึ้นเมื่อมีการขยายข่ายครอบคลุมของการประกันสุขภาพเนื่องจากกฏหมายละก็ องค์ประกอบอื่นๆ ในโอบาม่าแคร์ก็คงจะไม่ได้รับเครดิตจากมวลชนเองอยู่ดี

สิ่งที่ท่านได้ฟัง : ไม่ต้องกังวล เงินเกื้อหนุนจะทำให้คนส่วนใหญ่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้
ตรวจสอบความจริง : นี่เป็นคำตอบของตายที่ผู้สนับสนุนโอบาม่าแคร์ใช้ต้านคำขู่ที่ว่า เบี้ยประกันราคาสูงจะทำให้เกิดการ กระชากอัตรา’ (Rate Shock) แต่นั่นไม่ใช่ที่สิ้นสุดความกังวลของผู้คนในเรื่องรายจ่ายประกันสุขภาพ แล้วใครก็ตามที่หวังว่าโอบาม่าแคร์จะแก้ปัญหาได้ละก็ ตื่นขึ้นมาแล้วคุณจะรู้สึก
ยังมีประเด็นอื่นที่ทำให้คนซึ่งใส่ใจเรื่องประกันสุขภาพตื่นตัวเตรียมพร้อมกัน ถ้าคนงานได้ประกันสุขภาพถ้วนหน้าจากนายจ้างแล้วครอบครัวของเขาจะไม่สามารถขอการเกื้อหนุนจากโอบาม่าแคร์ด้วย กรมธรรม์ประกันแบบเกื้อหนุน ถ้วนหน้านี้จำกัดเฉพาะตัวผู้เป็นลูกจ้าง ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงครอบครัวของเขา
อัตราเบี้ยประกันในตลาดออนไลน์ของรัฐบาลกลางต่ำกว่าที่คาดไว้เมื่อมีการลงนามรับรองร่างกฏหมายประกันสุขภาพ แม้จะมีหลากหลายอัตราทั่วประเทศ ตามผลการวิจัยของมูลนิธิตระกูลไคเซอร์ คนโสดวัย ๒๕ ปี มีรายได้ ๒๕๐ เปอร์เซ็นต์ของอัตรารายได้ที่ขีดวัดความจน ๒๘,๗๒๕ เหรียญต่อปี จะซื้อประกันแบบบัตร เงิน ในท้องที่นครส่วนใหญ่ของสหรัฐได้ในราคา ๑๙๓ เหรียญต่อเดือนเมื่อคำนวณส่วนลดจากเครดิตภาษีแล้ว หรือบัตร ทองเหลือง ในราคาต่ำถึง ๑๑๑ เหรียญต่อเดือนในนครนิวยอร์ค หลังจากหักเครดิตภาษีแล้วเช่นกัน
สำหรับคนโสดวัย ๔๐ ปี ในระดับรายได้เท่ากัน จะหาซื้อประกันสุขภาพในราคาหลากหลายนับแต่ ๙๗ เหรียญต่อเดือนในฮ้าร์ทฟอร์ด คอนเน็คติกัต ไปถึง ๑๖๘ เหรียญต่อเดือนในซู้กฟอลส์ เซ้าท์ดาโกต้า หลังจากคำนวณส่วนลดจากเครดิตภาษี
แต่มันไม่ได้จบแค่นี้ ประชาชนยังจะต้องเสียค่าบริการต่างๆ ด้วยตนเองแบบเดียวกับการจ่ายเสริม (Co-payments) แต่ละครั้งที่ได้รับการรักษา และซื้อยา หรือจ่ายค่าส่วนต่าง (Deductibles) เป็นเงินก้อนจำนวนหนึ่งก่อนที่ประกันจะมีผล
โอบาม่าแคร์มิได้วางขีดจำกัดสำหรับส่วนต่าง และค่าใช้จ่ายจากกระเป๋าของผู้ซื้อประกันครั้งแรก ซึ่งมันอยู่ในอัตราสูงพอดู รวมทั้งสิ้นสำหรับคนที่มีค่าใช้จ่ายมากรายการในเรื่องดูแลรักษาสุขภาพอาจจะต้องควักกระเป๋าจ่ายสูงถึง ๖,๓๕๐ เหรียญต่อปีสำหรับส่วนบุคคล และ ๑๒,๗๐๐ เหรียญต่อปีสำหรับทั้งครอบครัว
แม้กระทั่งเกณฑ์ดังกล่าวก็ยังเลื่อนกำหนดใช้ออกไป รัฐบาลโอบาม่าอนุโลมให้ผู้ขายประกันสุขภาพแบบเป็นกลุ่มเลื่อนเวลาปฏิบัติตามไปถึงปี ๒๕๕๘ เนื่องจากพวกนี้อ้างว่าจำเป็นต้องใช้เวลาดำเนินการมากกว่านี้โดยเหตุที่โครงสร้างของการอำนวยประโยชน์แก่ผู้ซื้อประกัน (Benefits) แตกต่างไป
โอบาม่าแคร์ได้ผนวกแบบแผนอีกอย่างสำหรับช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ให้ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่างส่วนเสริมจากกระเป๋าสูงมากนัก ยกตัวอย่างส่วนที่เรียกว่า เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายแบ่งปัน (cost-sharing subsidies) ควรที่จะทำให้ราคาประกันต่ำลงไปเป็น ๒,๒๕๐ เหรียญต่อบุคคล และ ๔,๕๐๐ เหรียญต่อครอบครัว สำหรับผู้มีรายได้ระดับต่ำกว่าขีดกำหนดความจน ๒๐๐ เปอร์เซ็นต์
ผลการวิจัยชิ้นหนึ่งโดย โจนาธาน กรูเบอร์ แห่งเอ็มไอที ผู้ซึ่งให้คำปรึกษาทั้งต่อโอบาม่าแคร์ และโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าของรัฐแม้สซาชูเส็ท ชี้ว่าแม้แต่อัตราดังกล่าวก็ยังสูงเกินไปที่จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยไม่ต้องเผชิญปัญหาไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ ถึงจะป่วยไข้อาการหนักชนิดไม่รับการรักษาไม่ได้
ผมคิดว่าปัญหาจะเกิดสำหรับผู้ป่วยที่ขีดความจนต่ำขนาด ๑๕๐ ถึง ๓๐๐ เปอร์เซ็นต์ ตามเกณฑ์ของรัฐบาลกลาง กรูเบอร์กล่าว
เขาบอกด้วยว่า โดยส่วนใหญ่แล้วการเกื้อหนุนควรที่จะใจกว้างพอสำหรับคนส่วนใหญ่ที่โอบาม่าแคร์กำหนดให้ต้องซื้อประกันสุขภาพนั่นแหละ
เขาอาจไม่พอใจกับมันนัก ความสามารถที่จะมีได้กับความพอใจนั้นเป็นสองสิ่งต่างกัน กรูเบอร์กล่าว แต่คำถามมีว่าพวกเขาจะสามารถซื้อประกันสุขภาพโดยไม่ต้องเปลี่ยนวิถีการดำรงชีพได้ไหมล่ะ คำตอบคือต้องได้สิ
สิ่งที่ท่านได้ฟัง : มันก็เหมือนซื้อโทรทัศน์จอแบน หรือว่าซื้อรถ
ตรวจสอบความจริง : คงไปถึงจุดนั้นได้แหละ แต่จะใช้เวลานาน สำหรับขณะนี้ถ้าคุณไม่ช่ำชองเรื่องประกันสุขภาพ เตรียมตัวไว้ได้สำหรับเส้นทางขรุขระสับสน
โอบาม่าเคยพูดว่าตลาดขายประกันใหม่นี้จะเปิดให้คุณเปรียบเทียบ เลือกซื้อประกันได้อย่างง่ายดายเหมือนซื้อตั๋วเครื่องบินออนไลน์จากเอ็กซ์พีเดีย มาหลังๆ นี่เขาใช้การเปรียบเทียบใหม่ว่าเหมือนซื้อโทรทัศน์จอแบนทางอินเตอร์เน็ต
ข่าวดีอยู่ที่ เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ตลาดออนไลน์ใหม่จะเปิดทางให้ผู้บริโภคเข้าไปออนไลน์ และเปรียบเทียบบริการประกันสุขภาพเอกชนแบบเดียวกับที่ท่านเปรียบเทียบข้อตกลงซื้อขายที่ดีที่สุดทางอินเตอร์เน็ต ต่อโทรทัศน์จอแบน หรือรถยนต์ หรือว่าสินค้าใดๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของท่าน โอบาม่ากล่าวในการแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม
การใช้โทรทัศน์จอแบนเป็นตัวอย่างที่เหมาะเจาะพอดีทีเดียว ตามความเห็นของดอน ชูยเลอร์ ผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยี่ตลาดออนไลน์ของบริษัทลีวิตต์ หุ้นส่วนจำกัด แต่ว่าเป็นเพราะการซื้อโทรทัศน์จอแบนทางอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องยุ่งยากเหลือร้าย
การซื้อตั๋วเครื่องบินออนไลน์ยังง่ายเสียกว่า ชูยเลอร์บอกว่าแม้กระทั่งซื้อรถก็ยังไม่ยุ่งยากนักถ้าผู้ซื้อรู้แน่ว่าตนเองต้องการแบบไหน แต่เมื่อคุณต้องการซื้อโทรทัศน์จอแบน คุณจะหัวหมุนกับรุ่นต่างๆ ล้นหลามเป็นสิบๆ แล้วยังรายละเอียดทางเท็คนิคอีกมากมาย ขนาดความละเอียดของภาพเท่าไร ใช้ปลั๊กต่อสายชนิดไหน อัตราปรับจอภาพอย่างไร เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคปกติมักสับสนยุ่งเหยิงเกินกว่าจะชี้ชัดได้ง่ายๆ
เหล่านี้แหละคือสิ่งที่ผู้ไม่เคยซื้อประกันสุขภาพจะได้พบ พวกเขาจะไม่รู้ว่าเบี้ยประกันเป็นอย่างไร ค่าส่วนเสริมคืออะไร แล้วไอ้แบบผลประโยชน์ตอบแทน (Benefit design) ล่ะอะไร ชูยเลอร์ชี้ให้เห็นอีกว่า พวกเขาจะต้องท่วมท้นไปด้วยแบบแผนชนิดต่างๆ รวมทั้งศัพท์เท็คนิคมากมายที่ไม่เคยมักคุ้น
แต่ สำหรับคนที่คุ้นกับระบบประกันสุขภาพมาก่อนแล้ว ตลาดขายประกันออนไลน์จะมีลักษณะที่ปรับปรุงดีขึ้นกว่ามีอยู่ขณะนี้ ตามความเห็นของเลวิตต์แห่งมูลนิธิตระกูลไคเซอร์ ราคาที่เสนอในนั้นจะใกล้เคียงกับราคาจริงเมื่อตกลงซื้อ ทั้งนี้เพราะเขาจะไม่จำเป็นต้องกรอกรายละเอียดยืดยาวเพื่อหาคำตอบว่าเขาต้อง การกรมธรรม์ในราคาขนาดไหน
เลวิตต์บอกว่ามันจะไม่เหมือนเสียทีเดียวกับการซื้อโทรทัศน์จอแบนหรอก แต่ มันจะง่ายกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้
ชูยเลอร์เปรียบว่าตลาดประกันสุขภาพจะคล้ายไปทางทราเวลอสซิตี้ (เว็บไซ้ท์จำหน่ายตั๋วเครื่องบินออนไลน์) แต่ไม่ใช่ตอนเริ่มต้น ตลาดบางแห่งจะพบกับความยุ่งยากในการจัดระบบเสาะหาให้สมบูรณ์ เช่นว่าต้องมีเครื่องมือเซิ้ร์ชที่ทรงประสิทธิภาพชนิดลูกค้าสามารถหาประกันที่อำนวยให้เขาซื้อยาที่ใช้ประจำอยู่ได้
แน่ละ การเปรียบเทียบของโอบาม่าอาจจะถูกต้อง แต่คงไม่ใช่ประเด็นที่เขาตั้งใจไว้แต่แรกหรอก
สิ่งที่ท่านได้ฟัง : ท่านจะไม่มีจำนวนหมอมากพอให้เลือก
ตรวจสอบความจริง : ผู้ให้บริการประกันสุขภาพบางแห่งลดราคาเบี้ยประกันของตนในตลาดออนไลน์ แต่ว่าก็ลดจำนวนแพทย์ และโรงพยาบาลในเครือข่ายลงไปด้วยเพื่อให้ได้สัดส่วนการประหยัด อาจหมายความว่าคุณไม่มีทางเลือกมากเท่าผู้ให้บริการรายอื่น (ที่ราคาแพงกว่า) แต่คุณก็ยังมีจำนวนหนึ่งให้เลือกอยู่ดี มันน่าจะมีหนทางให้คุณสำรวจดูได้ว่าบริการไหนมีแพทย์ และโรงพยาบาลที่เหมาะกับตัวคุณเช่นกัน (แม้จะไม่มีตัวเลือกมากนักก็ตาม)
การตัดสินให้มีการลดจำนวนตัวเลือกนี้ปรากฏในรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ ลอส แองเจลีสไทม์ส กับ นิวยอร์คไทม์ส ทำให้พรรครีพับลิกันได้ทีกระโจนเข้าไปขยายผลโจมตีว่าในโอบาม่าแคร์ผู้เข้าโครงการจะไม่สามารถใช้หมอของตนเองได้
กรณีนี้เป็นปัญหาได้สำหรับคนที่เคยมีประกันสุขภาพของตัวเองแล้วย้ายไปเข้าในโอบาม่าแคร์ อาจเป็นเพราะนายจ้างเลิกอำนวยประกันสุขภาพแก่ลูกจ้าง เปลี่ยนไปให้หาซื้อกันเองในตลาดของโอบาม่าแคร์แทน ซึ่งไม่มีตัวเลือกสำหรับแพทย์ และโรงพยาบาลจำนวนมากเท่าของเดิม
แต่สำหรับลูกค้าหลัก คือผู้ที่ไม่เคยมีประกันสุขภาพมาก่อน การมีช่องทางได้เข้าถึงหมอย่อมดีกว่าไม่มีโครงการสุขภาพของตนเองเลย นี่เองทำให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงประกันสุขภาพ และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบอกว่าไม่เป็นห่วงมากนัก
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มีเครือข่ายเล็กเกินไป แต่ขึ้นอยู่กับการให้บริการสุขภาพทันท่วงที พร้อมรับเมื่อต้องการเท่านั้น แอนโธนี่ ไร้ท์ ผู้อำนวยการบริหารของเฮ้ลต์แอ็คเซส กลุ่มกิจกรรมด้านสุขภาพในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถูกอ้างถึงว่าเป็นบริการที่มีเครือข่ายขนาดเล็ก ตราบเท่าที่คุณมีช่องทางเข้าพบหมอได้ มันไม่สำคัญว่าเครือข่ายจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่เพียงใด
แลรี่ ฮิคส์ โฆษกของตลาดประกันสุขภาพของมลรัฐแคลิฟอร์เนียยอมรับว่าทางการปล่อยให้บริการประกันสุขภาพบางแห่งมีเครือข่ายขนาดย่อม เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงแลกเปลี่ยนกันกับการที่บริการเหล่านั้นรักษาอัตราค่าประกันไว้ในระดับต่ำ เจ้าหน้าที่ดูแลตลาดจะคอยจับตาไม่ให้มีผู้ซื้อประกันรายใหม่ๆ ถูกกีดกันจากการได้รับบริการสุขภาพที่พวกเขาต้องการ ฮิคส์เสริมว่า-ท้ายที่สุดแล้วตลาดประกันนี้ เปิดโลกใหม่ไปสู่การให้บริการแก่คนที่ไม่เคยมีประกันสุขภาพมาก่อน
และในแคลิฟอร์เนียนั้นอย่างน้อยๆ ตลาดประกันเปิดช่องให้ผู้ซื้อประกันเสาะหาในแต่ละเครือข่ายของแผนสุขภาพได้ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา เพื่อให้แน่ใจว่าแพทย์ที่เขาพอใจอยู่ในเครือข่ายนั้น หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ไร้ท์บอกด้วยว่า ตลาดประกันไม่ใช่ปัญหา แต่จะเป็นทางออกให้ได้เสียอีก
ไม่แน่เหมือนกันว่าแต่ละตลาดจะมีความสามารถในการเสาะหาได้สมบูรณ์ตามที่ต้องการนั้นเมื่อเริ่มเปิดดำเนินการ และผู้ถือประกันรายใหม่ๆ อาจประสบปัญหาก็ได้ถ้าพวกเขาหลุดออกไปจากเครือข่ายโดยไม่รู้ตัว เช่นเข้าไปอยู่กับโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในโครงการ แล้วอาจต้องจ่ายค่าประกันสูงขึ้นไป
แต่นี่ก็เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้กับการประกันสุขภาพในระบบเดิมเช่นกัน ดังนั้นผู้ซื้อประกันจึงมักได้รับคำเตือนเสมอให้ตรวจดูโรงพยาบาล หรือหมอของตน ให้มั่นใจเสียก่อนว่าอยู่ในครอบคลุมของแผนประกันที่ซื้อหรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญสุขภาพกล่าวว่า ความจริงก็คือเครือข่าย และผู้ให้ประกันไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ผู้ให้บริการที่มีเครือข่ายแคบก็เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้ต่ำไว้ ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็ต้องยอมปล่อยให้ราคาสูงขึ้นมากสำหรับประกันสุขภาพในโอบาม่าแคร์
เครือข่ายแคบๆ เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่มีอาการ เรทช็อค หรือปรากฏการณ์กระชากอัตรา รอเบิร์ต แลสซูวสกี้ ผู้ให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพคนหนึ่งกล่าว
เครือข่ายแบบแคบอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในลักษณะของประกันสุขภาพโอบาม่าแคร์ไปก็ได้ แม้บรรดานายจ้างต่างก็พากันเสาะสำรวจยุทธวิธีที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านนี้ของตนต่ำลง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กระทำในแบบเดียวกับที่ตลาดในโอบาม่าแคร์ปฏิบัติกันก็ตาม
แนวทางที่นายจ้างบางแห่งทดลองทำกันขณะนี้อยู่ที่การใช้หลักการอำนวยผลประโยชน์ตอบแทน (Benefits) สูงสุดถ้าผู้คนพากันใช้ เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งได้แก่แพทย์ และโรงพยาบาลที่ยอมรับกันว่ามีผลงาน และชื่อเสียงเป็นเลิศ
พวกลูกจ้างอาจเลือกใช้เครือข่ายที่อยู่ในระดับต่ำกว่านั้นก็ได้ แต่ก็จะได้รับผลตอบแทนไม่สูงเท่า แล้วจะต้องจ่ายส่วนต่างออกจากกระเป๋าตนเองจำนวนมากถ้าหากออกไปใช้บริการนอกเหนือเครือข่าย นี่ตามความเห็นของแซนดี้ แอ็กเกล้อฟ แห่งบริษัทจัดจ้างทรัพยากรบุคคล ทาวเออร์วัตสัน
มีหลักฐานสนับสนุนอย่างเพียงพอกล่าวได้แน่ๆว่า นี่กำลังเป็นเทร็นด์ใหม่ ที่จะผลักดันลูกจ้างให้เลือกใช้เครือข่ายหมอ และโรงพยาบาลขนาดย่อม แ็อกเกล้อฟกล่าวว่า เพียงมันไม่ได้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และด้วยท่วงทีดราม่าอย่างที่ตลาดประกันสุขภาพโอบาม่าแคร์ทำเท่านั้นเอง
สิ่งที่ท่านได้ฟัง : โอบาม่าแคร์ช่วยลดการขาดดุล เนื่องจากงบประมาณสนับสนุนเมดิแคร์ที่ถูกตัดออกไปจะมาใช้จ่ายให้แก่กฏหมายใหม่นี้

 

ตรวจสอบความจริง : สำนักงบประมาณแห่งคองเกรสมักพูดเสมอว่ากฏหมายใหม่นี้จะสามารถออกค่าใช้จ่ายให้แก่ตัวเองได้อย่างน้อยในช่วง ๑๐ ปีแรก ส่วนหนึ่งมาจากการตัดงบประมาณของโครงการเมดิแคร์ นั่นหมายความถึงการตัดงบประมาณดังว่าเกิดขึ้นจริงๆ ผู้เขียนประกันให้แก่โครงการเมดิแคร์คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ และจะไปไม่รอด
ตามการประเมินล่าสุดของสำนักงบประมาณแห่งรัฐสภา การตัดวงเงินที่จ่ายให้กับผู้ให้บริการประกันสุขภาพนั้นมุ่งหมายลดค่าใช้จ่ายของเมดิแคร์ลง ๔๑๕ พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา ๑๐ ปี นี่เป็นเป้าหมายหลักของการลดค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยประทังค่าใช้จ่ายให้แก่เงินเกื้อหนุนโอบาม่าแคร์ และการขยายขอบข่ายเมดิแคร์ อย่างน้อยมันจะช่วยค่าใช้จ่ายให้กับโอบาม่าแคร์ถ้าหากมีการประหยัดที่ว่าเกิดขึ้นจริง
แต่ว่าสำนักงานผู้เขียนประกันของเมดิแคร์ไม่ยอมเชื่อตามนั้นมาแต่ต้น ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖ สำนักงานฯ แถลงว่า มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ (การเปลี่ยนแปลงวิธีจ่ายเงิน) จะไม่สามารถดำรงคงอยู่ได้ในระยะยาว และคองเกรสจะต้องยกเลิกมันเสีย เพื่อให้ผู้ที่รับผลประโยชน์ของเมดิแคร์สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพต่างๆ ได้
ริค พอลแล็ค แห่งสมาคมโรงพยาบาลอเมริกันบอกว่าการตัดเงินสนับสนุนนั้นได้มีการกำหนดไว้ในแผนการจ่ายเงินประจำปีสำหรับโรงพยาบาลต่างๆ แล้วด้วย จึงยากที่จะบอกได้ว่าตอนนี้ผลกระทบได้เกิดขึ้นแล้วมากน้อยเพียงใด มันเข้าไปผสมรวมอยู่กับการตัดเงินช่วยเหลืออื่นๆ ที่โรงพยาบาลจำต้องเผชิญขณะนี้ แต่พอลแล็คก็เสริมด้วยว่าโรงพยาบาลส่วนมากได้รับเงินจากรัฐบาลในการรักษาคนไข้เมดิแคร์ และเมดิเคดน้อยกว่าราคาจริงอยู่แล้วเวลานี้ ดังนั้นสิ่งที่เรา เป็นกังวล ก็คือในระยะยาวจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากการตัดค่าใช้จ่ายคราวหลังสุดยังเป็นอยู่ต่อไปภายหน้า
สิ่งที่ท่านได้ฟัง : ‘คณะกรรมการจัดสรรปันส่วนจะมากีดกั้นกลางระหว่างท่าน และหมอ
ตรวจสอบความจริง : นี่เป็นชื่อที่พรรครีพับลิกันตั้งให้แก่ คณะกรรมการอิสระให้คำแนะนำในการจ่ายเงิน (Independent Payment Advisory Board) อันเป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยโครงการโอบาม่าแคร์เพื่อดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายของเมดิแคร์ไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พอล ไรอัน (ส.ส.พรรครีพับลิกันผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดีในปี ๒๕๕๕) เป็นผู้ใช้วลีนี้ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงคู่กับมิตต์ รอมนี่ย์ จนเป็นที่รู้จักกันทั่ว
ทว่ามันติดอยู่นิด: ตรงที่มันยังไม่มีตัวตนในขณะนี้ และจากความเป็นไปในปัจจุบันถ้าหากมันจะเกิดขึ้นได้ มันคงยังไม่เกิดขึ้นในเวลาอีกนานทีเดียว
มีอีกอย่างหนึ่ง คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญนี้จะมีความจำเป็นก็ต่อเมื่ออัตราค่าประกันสุขภาพขึ้นสูงมากจนเกินขีดเป้าหมายที่กำหนด อย่างไรก็ดี เมื่อเร็วๆ นี้ค่าใช้จ่ายเมดิแคร์กลับลดลงไปกว่าที่คาดหมาย ดังนั้นในเดือนเมษายน ๒๕๕๖ ผู้เขียนประกันของศูนย์บริการเมดิแคร์ และเมดิเคด ซึ่งควบคุมดำเนินงานโครงการเมดิแคร์แถลงว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้คณะกรรมการทำการตัดรายจ่ายสำหรับปี ๒๕๕๘ อันจะเป็นปีแรกที่คาดว่าอาจจะต้องการใช้
ไม่เพียงเท่านั้น โอบาม่ายังไม่ได้เสนอชื่อผู้ใดสำหรับเข้าไปเป็นคณะกรรมการ ๑๕ คนชุดนี้เลยด้วยซ้ำ หรือถ้าหากเสนอ ท่านประธานาธิบดีก็เชื่อแน่ได้เลยว่าพลพรรครีพับลิกันจะต้องออกมาคัดค้านดะไม่ว่าจะเสนอใคร และโอกาสที่พรรคเดโมแครทจะสามารถรวบรวมเสียงในสภามากพอยับยั้งมาตรการฟิลิบัสเตอร์เตะถ่วงร่างก.ม.ในสภาดูจะเป็นศูนย์
กฏหมาย ระบุว่าคณะกรรมการชุดนี้ถูกห้ามไม่ให้จัดแบ่งสัดส่วนของการอำนวยด้านสุขภาพ แต่พวกรีพับลิกันบอกว่าผลกระทบในทางปฏิบัติของการตัดรายจ่ายจะทำให้คนสูง อายุได้รับความเดือดร้อนในเรื่องการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่จำเป็น
คองเกรสจำต้องปฏิบัติตามคำแนะนำภายใต้ระเบียบที่เรียกว่า ช่องทางด่วนกับจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงการตัดรายจ่ายได้ เว้นแต่จะมีแนวทางใหม่ที่สามารถประหยัดเงินในจำนวนเท่าๆ กัน
แม้แต่ว่าคณะกรรมการจะสามารถกำหนดชื่อขึ้นได้ ก็ยังมีสิ่งบั่นทอนอำนาจอยู่อีกอย่าง กฏหมายห้ามไม่ให้คณะกรรมการเสนอคำแนะนำเพื่อตัดรายจ่ายของโรงพยาบาล ซึ่งได้ยอมรับข้อตกลงตัดรายจ่ายโอบาม่าแคร์ไว้แล้ว ๑๕๕ ล้านล้านเหรียญ และย้ำยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มกันอีกต่อไป คณะกรรมการยังต้องอยู่ห่างๆ ไม่ยื่นมือเข้าไปวุ่นวายกับโรงพยาบาลที่ดูแลสุขภาพระยะยาว สถานพักฟื้น และหน่วยงานเกี่ยวกับโรคจิต
เช่นนี้ไม่ว่าจะมีการตัดรายจ่ายใดๆ จักต้องเน้นเฉพาะในบางท้องที่ เหมือนกับโครงการเมดิแคร์ส่วนบุคคลแบบล้ำหน้า (Advantage plans) โครงการจ่ายยาแบบครอบคลุม สถานเลี้ยงดู บ้านสุขภาพ และศูนย์ศัลยกรรมฉุกเฉิน
กระนั้นก็ดี ในขณะนี้ยังเป็นเพียงเรื่องสมมุติฐาน ถ้าค่าใช้จ่ายเมดิแคร์เริ่มที่จะขึ้นสูงอีกครั้งเมื่อไร ประธานาธิบดีโอบาม่าคงจะต้องเสนอชื่อคณะกรรมการขึ้นมา และยอมรับการโจมตีทางการเมือง ก่อนจะถึงจุดนั้นเขาไม่มีความจำเป็นจะต้องหาเรื่องทะเลาะกับคองเกรสเกี่ยวกับโอบาม่าแคร์อีก

หมายเหตุ บทความแปลนี้เป็นตอนจบต่อจากเรื่อง มารู้จัก 'โอบาม่าแคร์' กันหน่อย ที่ได้ลงตีพิมพ์ในไทยอีนิวส์เมื่อ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น