วันที่ 2
ตุลาคม 2556
(go6TV) ตะลึง!
สะพานกลับรถแยกแพะโคก งบไทยเข้มแข็งรัฐบาลประชาธิปัตย์ มูลค่า 253ล้านบาท ผู้รับเหมาทิ้งงานหนี “ศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน”
รับงานต่อใช้งบแค่ 117 ล้านบาท
ส่วนต่าง 136
ล้านเข้ากระเป๋าใคร
ประชาชนในจังหวัดสระบุรี
ได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการสร้างสะพานต่างระดับ แยกแพะโคก จังหวัดสระบุรี
ที่ไม่มีความคืบหน้า มีการยกเลิกสัญญาจ้าง ไม่มีป้ายบอกทาง ป้ายเตือน
ไม่มีไฟส่องสว่าง และแยกดังกล่าวนี้
คนไม่ชินทางขับรถพุ่งทะลุแหกโค้งเกิดอุบัติเหตุมากกว่าร้อยครั้ง
จนรถบรรทุกสินค้าทุกคันต้องเปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นอื่น เป็นระยะเวลานานกว่า 4 ปีแล้วนั้น
ล่าสุด “ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานปทุมธานี
และกาญจนบุรี” ในฐานะที่ได้รับมอบหมาย ให้มาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้ชี้แจงว่า
“ตามข้อร้องเรียนของ นายวิริยะ จีนบัว เรื่อง
งานก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางเลี่ยงเมืองสระบุรี ในทางหลวงหมายเลข 1 จ.
สระบุรี เพื่อโปรดทราบดังนี้
1.สัญญาเดิม เลขที่ สส.11/2552 ลงวันที่ 28
กันยายน 2552 โดยบริษัท มงคลลาภก่อสร้างเป็นผู้รับจ้าง ค่างานเป็นเงิน
252,997,354.29 บาท เริ่มต้นสัญญาวันที่ 29 กันยายน 2552 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 22
มีนาคม 2554 ระยะเวลา 540 วัน (โครงการไทยเข้มแข็ง)
2.กรมฯ ได้บอกเลิกสัญญากับผู้รับจ้าง เมื่อวันที่
20 ธันวาคม 2555
3.กรมฯ อนุมัติให้ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3
(ปทุมธานี) และศูนย์สร้างทางกาญจนบุรี เข้าดำเนินการ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2556
4.ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี)
และศูนย์สร้างทางกาญจนบุรี ได้ส่งแผนงานฯ เพื่อขอเงินงบประมาณ เมื่อวันที่ 26
กุมภาพันธ์ 2556 โดยแยกเป็น
-งานสะพาน
ดำเนินการโดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) วงเงิน 21,500,000.-บาท
-งานทาง ดำเนินการโดย ศูนย์สร้างทางกาญจนบุรี
วงเงิน 96,080,000.-บาท
5.ขณะนี้ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3
(ปทุมธานี) และศูนย์สร้างกาญจนบุรี ยังไม่ได้รับเงินงบประมาณ
เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการโอนเปลี่ยนแปลงเงินงบประมาณ”
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ผู้รับเหมาโครงการครั้งแรกจากโครงการไทยเข้มแข็ง จำนวนกว่า 253 ล้านบาทได้ทิ้งงานไป สร้างไม่เสร็จ และมีข้อสังเกตถึงการอนุมัติงบประมาณที่สูงผิดปกติ เพราะศูนย์สร้างและบูรณะ ได้ประเมินใช้งบประมาณเพียงแค่ 117 ล้านบาท ถูกกว่าที่จ่ายให้งบไทยเข้มแข็งถึง 136 ล้านบาท จนก่อให้เกิดคำถามว่า งบประมาณส่วนต่างนั้นหายไปไหน ทำไมราคาสูงมากเป็นเท่าตัวเช่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น