แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

นิรโทษเหมาเข่ง : อย่าทรยศต่ออดีตและอนาคต

ที่มา Thai E-News





ที่มา jpenkair.blogspot.com


เมื่อ ทราบว่าเขาจะเสนอให้นิรโทษกรรม (ทำให้ความผิดหมดไป หรือเป็นโมฆะ) กันทั้งยวง ใน “ความผิด” ทางการเมืองตั้งแต่การรัฐประหาร พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นต้นมา จนกระทั่งถึงการปราบปรามประชาชนรอบบริเวณราชประสงค์เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ผมก็เกิดความกังวลใจขึ้นมาอีก 

ใจ ผมก็ไม่ได้แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ ที่อยากเห็นความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานนี้จบสิ้นลง เพื่อให้ทุกฝ่ายมีปกติสุขและบ้านเมืองจะได้ก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจภูมิภาคและ ระหว่างประเทศอย่างเต็มสูบได้ แต่ใจข้างที่ใหญ่กว่ากลับบอกตัวเองว่า วันนี้มวลชนประชาธิปไตย ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังเรียกร้องหาความถูกต้องเป็นธรรม และมาตรฐานที่เท่าเทียมกันอย่างประชาธิปไตย ไม่ใช่การเขียนบทจบแบบละครที่เจ้าของสถานีและสปอนเซอร์ละครอยากให้จบ เพื่อให้เลิกแล้วต่อกันไป

ราว กับว่าทุกคนคือเด็กเล็กๆ ที่เข้ามาวิ่งกรูเกรียวสร้างความวุ่นวาย เมื่อผู้ใหญ่เข้ามาเทศนาสั่งสอนและสั่งให้เข้าบ้าน ก็จบลงง่ายอย่างดาย ราวกับว่าสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงเกมขู่กรรโชก (blackmailing) ที่คนทำไม่ได้คิดเอาจริง แค่ต้องการสำแดงพลังให้ฝ่ายตรงข้ามรู้เท่านั้นว่าถ้าไม่ยอมแล้วจะเกิดอะไร ขึ้น มิได้ยาวไกลไปถึงการสร้างบรรทัดฐานและมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาประชาธิปไตยเลย


          ช่วงปีหลังๆ มีหนังสือเกี่ยวกับประชาธิปไตยไทยที่ค้นคว้าอย่างเป็นระบบและแต่งดีมาให้เรา ได้อ่านกันมากขึ้น ผมได้อ่านเกือบทุกเล่ม และบางเล่มก็ยังใช้เป็นหนังสืออ้างอิงในการพูดและเขียนอยู่เสมอ ท่านที่อ่านอย่างผมคงจะคิดคล้ายกันว่า การขัดขวางระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นในสังคมไทยมาตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ และย้อนกลับไปได้ถึง ร.ศ.๑๓๐ ที่ถูกเรียกว่าเป็น “กบฏ” เวลาที่ผ่านมาถึง ๑๐๑ ปี (ร.ศ.๑๓๐ แปลงเป็นพุทธศักราชคือ พ.ศ.๒๔๕๕) ชนชั้นนำในเมืองไทยไม่เคยเปลี่ยนทัศนะและพฤติกรรมมาในทางสนับสนุนสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมกันทางกฎหมายในสังคมไทยเลย การยอมรับว่าประชาชนเป็นเจ้าของรัฐไทยไม่เคยปรากฏ เพียงแค่แปลงความคิดและความเชื่ออันล้าหลังโบร่ำโบราณในลักษณะเอาของเก่า เวียนมาใช้ใหม่ (recycling) เท่านั้่นเอง


          ประชาธิปไตยจึงเป็นนวัตกรรมจำเป็นของอารยธรรมมนุษย์ที่ชนชั้นนำไทยมองว่า เป็นของปลอมหรือเป็นส่วนเกิน และทำทุกวิถีทางที่จะลดความหมาย ความผูกพัน ความสำคัญ และบิดเบือนฐานะทางประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยลงอย่าง เป็นระบบต่อเนื่อง (หนังสือเล่มล่าสุดของ ดร.ณัฐพล ใจจริง ซึ่งมีชื่อว่า “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อฯ” ได้ลำดับความอย่างละเอียดและเป็นระบบยิ่งเกี่ยวกับขบวนการขัดขวาง ประชาธิปไตยในห้วง ๒๕ ปีแรกของการเปลี่ยนการปกครอง) ถ้าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และพร้อมจะช่วยเขาผลักการต่อสู้ครั้งสำคัญๆ ของฝ่ายประชาชนให้เหลือความสำคัญเพียงเรื่องที่เล่าสู่กันฟัง หรือเชิงอรรถในงานวิชาการด้านประชาธิปไตย เช่นเดียวกับวีรกรรม ๒ ครั้งในปี พ.ศ.๒๕๕๓ (ทั้งวันที่ ๑๐ เมษายน และ ๑๙ พฤษภาคม) ซึ่งมีความหมายไม่ต่ำกว่าการลุกฮือของฝ่ายประชาชน ก็เท่ากับเรามีส่วนร่วมในขบวนการของฝ่ายเขาโดยปริยาย


          อย่าลืมเป็นอันขาดว่า การลดค่าของประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยฝ่ายประชาชน คือยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายตรงข้ามเขาใช้เตะตัดขาไม่ให้ระบอบประชาธิปไตยเมืองไทย เสถียรได้มาตลอด คำถามคือแนวคิดนิรโทษกรรมยกเข่งหรือทั้งยวง ซึ่งเป็นการเขียนบทจบในหนังสือได้รวดเร็วทันใจวัยรุ่น แต่อาจจะไม่จบจริงนั้น คือคลื่นสึนามิที่ไหลบ่าเข้ามาท่วมหลักฐานแห่งความผิดและการทำลาย ประชาธิปไตยของฝ่ายตรงข้ามไปด้วยหรือไม่ ถ้ามีลักษณะอย่างที่ว่านั้น แทนที่เรื่องนี้จะเป็นตอนอวสาน จะกลับเป็นบทที่หนึ่งของการต่อสู้ครั้งใหม่ ที่มิตรอาจกลายเป็นศัตรูไปได้ง่ายๆ ถึงตอนนั้นเครือข่ายศัตรูเดิมก็จะฝังตัวลึกลงไปอีกชั้นหนึ่งในการต่อสู้ขัด ขวางระบอบประชาชน โดยอาศัยความขัดแย้งระหว่างฝ่ายที่ยอมรับประชาธิปไตยแบบจำกัดและฝ่ายที่ เรียกร้องต้องการประชาธิปไตยแบบสุดทาง มาเป็นเครื่องมือที่สำคัญของเขา


         เราทุกคนอยากให้เรื่องจบ แต่ถ้าจบอย่างไร้ความหมายและทิ้งไว้แต่ความรู้สึกอ้างว้าง ไม่รู้จะเอาอะไรไปสอนลูกหลานในรุ่นต่อๆ ไปได้ ก็อย่าเพิ่งจบ เพราะจะเท่ากับเราเอาความสุขของปัจจุบัน ไปอยู่เหนือคุณค่าแห่งอดีตและโอกาสแห่งอนาคต เหนื่อยมามากแล้วก็อึดกันต่อไปอีกสักนิดเถอะครับ ฝ่ายเขามาไม้อ่อนก็เพราะเขาอ่อนแอลง ไม่ใช่เพราะเขายอมรับนับถือฝ่ายประชาชนหรือเปลี่ยนใจใดๆ เราควรยืนระยะสุดท้ายก่อนเข้าโค้งประชาธิปไตยไว้ให้จงดี อย่าแวะเข้าข้างทางทั้งๆ ที่เห็นปลายทางอยู่รำไรแล้วเลยครับ.




********************************************
TPNews : บริการข่าวสั้นผ่านมือถือ SMS สำหรับคนรักประชาธิปไตย เที่ยงตรง แม่นยำ ไม่ใส่ร้าย บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือของท่านทุกวัน ควบคุมโดย "จักรภพ เพ็ญแข"
สมัครง่ายๆ ระบบ AIS เพียงกด *455240415 แล้วโทรออก
ส่วนระบบ DTAC กด *45521460141 เดือนละ 29 บ.

********************************************
www.tpnewsbook.com ร้านหนังสือเฉพาะทางสำหรับผู้รักประชาธิปไตย สอบถาม-สั่งซื้อ โทร. 085-5049944

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น