แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รองโฆษก ทบ.สรุปคำแถลง11 ประเด็น 7 ข้อปัญหา ของ พล.อ.ประยุทธ์

ที่มา Thai E-News

 

 โดย วาสนา นาน่วม


พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง มีความรุนแรงมากขึ้น มีประชาชนบาดเจ็บและสูญเสียจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จึงได้แสดงความคิดเห็นความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังนี้

1.ขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต ทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มาชุมนุมโดยสันติ และเจ้าหน้าที่ตร. ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ 

2.กองทัพบกได้หารือกับนายกรัฐมนตรี , ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ให้ช่วยกันยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยให้เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดในการใช้อาวุธสงครามอย่างอุกอาจ ไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐ ทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ/ทหาร และทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันพิสูจน์ทราบหาข้อเท็จจริง และดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อป้องกัน ปราบปรามให้ได้โดยเร็ว จากข้อมูลด้านการข่าวพบกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงนั้น พบว่ามีอยู่หลายกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องสมัยเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี ๒๕๕๓ ทั้งนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ทราบ และหาหลักฐานให้ชัดเจน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด

3.กองทัพไม่เคยเกรงกลัวในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อแก้ไข สถานการณ์ แต่เกรงว่าอาจเกิดการบาดเจ็บสูญเสียของประชาชนเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เพราะมีประชาชนบางส่วนที่ไม่เข้าใจ และพยายามต่อต้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทหาร

4.การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และข้าราชการในปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่การปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้

5.การใช้อาวุธต่อผู้ชุมนุม ต่อเจ้าหน้าที่ หรือต่อสถานที่ราชการ เช่น ศาล องค์กรอิสระ ถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมายด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นจำเป็นต้องยุติให้ได้ ด้วยการจับกุมดำเนินคดีโดยเร็ว ด้วยความเป็นธรรม

6. ทหารไม่สามารถใช้กำลังเข้าแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ยึดถือหลักกฎหมาย เพราะว่าความขัดแย้งในปัจจุบันเกิดขึ้นหลายระดับ ทั้งระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชน ระหว่างประชาชนด้วยกัน ดังนั้นหากใช้กำลังแก้ไขที่ปลายเหตุ ย่อมหมายความว่า รัฐธรรมนูญหรือกฏหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะไม่ได้รับการยึดถืออีกต่อไป มีหลายฝ่าย อยากให้ใช้วิธีการดังกล่าว จึงขอให้กลับมาตั้งสติพิจารณาดูว่า ปัญหาเหล่านี้ จะยุติได้หรือไม่ หรือจะเป็นการขยายผลความขัดแย้งรุนแรงออกไปอีกหรือไม่ ในขณะที่ยังคงมีการปลุกระดมประชาชน ให้มาต่อสู้ซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายก็ยังไม่พยายามลดเงื่อนไข ไม่พยายามจะพิสูจน์ในข้อเท็จจริง และพยายามแสดงออกว่าไม่ยอมรับกฎ กติกา ของสังคม ประเด็นสำคัญคือไม่สามารถแน่ใจได้ว่าการใช้กำลังทหารลักษณะนั้นจะทำให้ สถานการณ์ยุติลงได้โดยสงบ ปราศจากการสูญเสีย รวมทั้งประชาชนที่อยู่นอกเหนือความขัดแย้งจะให้การยอมรับไม่ ความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ กับต่างประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ การนำเข้าส่งออก การค้าการลงทุน จะเป็นอย่างไร

7.ปัจจุบันกองทัพบกได้จัดกำลังออกมาดูแลประชาชนในพื้นที่ ประกาศ พ.ร.ก.ฯ จำนวนมากตลอด 24ชั่วโมง ในขณะเดียวกัน ยังคงจัดกำลังตอบสนองภารกิจงานป้องกันชายแดน งานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งงานการพัฒนาและงานการช่วยเหลือประชาชน

8.ทุกฝ่าย ต้องทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบให้ครบถ้วน อำนวยความยุติธรรมให้ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์

9.ความขัดแย้งในครั้งนี้กว้างขวางมากกว่าปี 53 ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่าง รัฐบาล กับกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเดียว แต่ในปี 56-57 นั้น มีความขัดแย้มีหลายกลุ่ม หลายฝ่าย และมีเงื่อนไขที่สลับซับซ้อนมาก

10.สิ่งที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนคือ ทำอย่างไรให้ทุกพวกทุกกลุ่มหันหน้ามาพูดคุยหารือกัน หาทางออกให้กับประเทศชาติ โดยทุกฝ่ายต้องได้รับความชอบธรรม เป็นธรรมอย่างเท่าเทียมกัน และช่วยกันเดินหน้าแก้ไขปัญหากันอย่างเป็นระบบโดยสันติวิธี รวมทั้งหลีกเลื่ยงการตีความใช้แง่มุมทางกฎหมายมาต่อสู้กันเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ประชาชนทั้งประเทศต้องช่วยกันคิด ช่วยกันเรียกร้องให้เกิดขึ้น อย่าได้คิดว่าธุระไม่ใช่ หรือยังถือพวกถือฝ่ายกันอยู่ ควรคิดถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ในฐานะที่เราเป็นคนไทยและเป็นเจ้าของประเทศร่วมกันทุกคน เพราะหากมีความสูญเสียเกิดขึ้นอีกต่อไป ประเทศชาติ จะล่มสลายอย่างแน่นอน และไม่มีใครชนะหรือแพ้อีกต่อไป

11.สรุปเงื่อนไขสำคัญของความขัดแย้งคือ

11.1.การใช้รัฐธรรมนูญและกฎหมายของทุกพวกทุกฝ่าย มาต่อสู้กัน เพื่อความถูกต้อง ความชอบธรรมความยุติธรรม มาตรฐานที่เจ้าหน้าที่ ที่แต่ละฝ่ายนำมากล่าวอ้างว่าไม่ได้รับ

11.2.ความโปร่งใส ทุจริต ในโครงการต่างๆทั้งอดีตและปัจจุบัน การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ภายใต้รัฐธรรมนูญและการใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง

11.3.การไม่ยอมรับโดยสมบูรณ์ต่อการปฏิบัติของกระบวนการ ยุติธรรม องค์กรอิสระ ซึ่งควรให้องค์กรต่างๆได้ทำหน้าที่โดยไม่ถูกกดดัน หรือไม่ปลอดภัย

11.4.การดำเนินการของทุกฝ่าย ที่เคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญนั้นควรจะเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ไม่ผิดกฎหมายไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้อื่น

11.5.การปฏิบัติงานของข้าราชการ พลเรือนตำรวจทหาร ตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญที่ ที่ต้องไม่ถูกบังคับให้ต้องเลือกข้าง

11.6.การว่ากล่าวให้ร้าย การปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยปราศจากข้อเท็จจริง 

11. 7.เงื่อนไข อื่นๆ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งในระดับรัฐบาลหรือมวลชนทุกกลุ่ม และประชาชนอื่นๆในประเทศ

ที่กล่าวมาคือเหตุผลความจำเป็นที่ต้องชี้แจงเพื่อไม่ให้ เกิดความสูญเสียต่อประชาชนคนไทยอีกต่อไป โดยเฉพาะอยากให้ทุกฝ่ายออกมาร่วมกัน แสวงหาทางออกร่วมกันให้ได้ ก่อนที่ทุกระบบ ที่ใช้ขับเคลื่อนประเทศไทย จะสูญเสียไปอย่างถาวร และเนื่องจากกองทัพมักจะ ถูกว่ากล่าวให้ร้ายหรือ ดึงเข้าไปอยู่ในความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด จากนี้ไปหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยสงบสันติให้ได้ โดยเร็ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น