ผมอ่านข่าวเจลเนอรัลมอเตอร์สฟื้น คลังสหรัฐถอนตัวออก
โดยขายหุ้นทั้งหมดของกระทรวงการคลัง ได้เงินคืน 39,000 ล้านดอลลาร์
จากที่ลงทุนไป 50,000 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนไป 11,000 ล้านดอลล่าร์
ศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมรถยนต์ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้สำรวจพบด้วยว่าปฎิบัต
ิการดังกล่าว ช่วยรักษาการจ้างานได้ถึง 1.2 ล้านตำแหน่ง
ทำให้รัฐบาลสามารถประหยัดเงินงบประมาณด้านอื่นๆ เฉพาะช่วงปีแรกได้ถึง
39,400 ล้านดอลล่าร์
ผมนึกถึงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทยมีแต่คนคัดค้านว่ารัฐบาลขาดทุนเท่านั้น เท่านี้ ขอให้ยกเลิก
เมื่อมีคนร้องเรียน ป.ป.ช ก็รับลูก รีบดำเนินการโดยไว
ทั้งๆที่โครงการอื่นเช่น โครงการสร้างโรงพัก ร้องเรียนกันมาตั้งนานแล้ว
ก็ยังอืดเป็นเรือเกลือ
ก.ก.ต ก็โบกมือไม่ยอมช่วยเหลือโดยอ้างว่าช่วยไม่ได้ ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย
TDRI ก็ส่งดอกเตอร์ออกมาคัดค้าน โจมตีไม่เว้นแต่ละเดือน
คอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์หลักๆ ก็โหมโจมตีนโยบายดังกล่าว พูดแต่ผลเสียโดยไม่พูดถึงผลดีเลย
ตรงกันข้ามกับเมื่อเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อ พ.ศ 2540 รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เอาเงินภาษีประชาชนไปช่วย
ธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์หลายแสนล้านบาทและก็ขาดทุนหลายแสนล้าน ป.ป.ช. ได้แค่ปลาซิวตัวเดียว พวกฉลามหายเข้ากลีบเมฆไปหมด
TDRI ก็ไม่เคยโหมโจมตี
หนังสือพิมพ์ไมได้สนใจรายละเอียด ทำเป็นลืมกันหมด
ไม่เหมือนจำนำข้าวของรัฐบาล
ผมนั้นไม่ใช่นักเศรฐศาสตร์
ไม่ใช่นักการเมือง
ไม่ใช่นักหนังสือพิมพ์
และไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไดๆ
ผมเป็นแต่ลูกชาวนา
ผมรู้เห็นแต่เพียงว่า
โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้
รัฐบาลช่วยอีกไม่กี่ปีชาวนาก็จะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
รัฐบาลไม่ต้องช่วยต่อไป เหมือนกับเจเนอรัลมอเตอร์สของอเมริกา
ชาวนาไทยคงไม่โชคตีเหมือนเหมือนเจนเนอรัลมอเตอร์
สของอเมริกา เพราะรัฐบาลไทยที่มีนโยบายรับจำนำข้าวกำลังจะถูกทหาร
นักการเมืองและชนชั้นสูงสหบาทาถล่มให้จมธรณี รัฐบาลอเมริกันขาดทุนไป 11,000
ล้านดอลลาร์ เท่ากับ 352,000 ล้านบาท
ไม่มีใครถล่มเหมือนรัฐบาลไทยถูกโจมตีว่าทุจริต ชาวนาได้ประโยชน์ไม่ถึงครึ่ง
หากรัฐบาลนี่ล่ม นโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลก็คงสลายไป
ชาวนาก็ต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินต่อไป
ผมภาวนาให้รัฐบาลนี้เป็นฝ่ายชนะ
ขอให้คนชั่วถูกปราบราบคาบสิ้น เพื่อนโยบายรับจำนำข้าวจะได้ดำเนินต่ออไป
การลงทุนของรัฐบาลในนโยบายจำนำข้าวเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะ
ทุกข์ของชาวนาเป็นทุกข์ของแผ่นดิน
อ.สถิตย์ ไพเราะ
05/02/2014


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น