กระเทย ดีก็มี อย่างบนเวทีที่กำลังพูดอยู่นี้แหละ แล้วที่ไม่ดีก็มี อย่างที่ไปออกรายการช่องสามกับผัวหลินฮุยหนะ นะคะ นั่นหนะน่าจะเป็นกระเทยที่ขาดผู้ชายจนกระทั่งจิตใจโสมม ไม่รู้ว่าใครที่นั่งอยู่ในนี้จะช่วยสนองให้มันหายคันบ้างได้ไหม เผื่อจะดีขึ้น[2]ผู้ชมหรือผู้ฟังคงรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังที่ผู้พูดมีต่อผู้ที่กล่าว ถึง แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว ถ้อยแถลงดังกล่าวยังปรากฏการแบ่งแยกกระเทยดีและกระเทยเลว และยังมีคำแนะนำในเชิง How to ว่าทำอย่างไรจึงจะเป็นกระเทยดีตามแบบฉบับเฉพาะตัวของ ดร. เสรี อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจนิยามของกระเทยดี ผู้เขียนบทความขอแบ่งคำพูดเป็นส่วนๆเพื่อให้ง่ายต่อการขยายความ
“กระเทย ดีก็มี อย่างบนเวทีที่กำลังพูดอยู่นี้แหละ”... นอกจากผู้พูดจะนิยามตัวเองในฐานะของกระเทยดีแล้ว ผู้พูดยังแสดงให้เห็นหนึ่งในคุณสมบัติของกระเทยดีไปในเวลาเดียวกัน นั่นคือ กระเทยดีต้องเป่าประกาศในที่สาธารณะให้คนอื่นรับทราบว่าตนเป็นกระเทยดี
“อย่างที่ไปออกรายการช่องสามกับผัวหลินฮุยหนะ นะคะ”... การว่าร้ายผู้อื่นและพูดจาเกินเลยไปจากความไปจริง รวมถึงพูดจาถึงเรื่องเพศในเชิงชู้สาวให้มากๆแม้ว่าสิ่งที่พูดจะไม่มีมูล เหตุมาจากข้อเท็จจริงเลยก็ตาม
“ไม่รู้ว่าใครที่นั่งอยู่ในนี้จะช่วยสนองให้มันหายคันบ้างได้ไหม เผื่อจะดีขึ้น”... กระเทยดีต้องมีน้ำใจ เมื่อรู้ว่าผู้กล่าวถึงเป็นกระเทยไม่ดี ดร.เสรีในฐานะกระเทยดีก็จะต้องรีบยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยประกาศหาอาสาสมัคร ไปช่วยเหลือผู้ที่ตนกล่าวถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ขอร้องให้ช่วยเลยสักนิด
“กระเทยที่ขาดผู้ชายจนกระทั่งจิตใจโสมม”... นั่นหมายความต่อไปได้อีกว่าผู้ชายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับกระเทยในการก้าวข้าม สถานะความเป็นกระเทยไม่ดี คำพูดนี้นอกจากจะตีตราบาปให้กับกระเทยที่ไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายไม่ว่าจะ ด้วยเหตุผลใดก็ตามแล้ว ยังถือเป็นการกดทับกระเทยที่มีรสนิยมทางเพศที่หลากหลายว่าพวกเขาเหล่านั้น ไม่สามารถเป็นกระเทยดีได้ พูดอีกอย่างก็คือ ถ้ากระเทยคนไหนไปมีเพศสัมพันธ์กับทอม ดี้ เกย์ ผู้หญิง หรือกระเทยด้วยกันเองก็จะไม่มีพลังพิเศษที่จะผลักให้เขาก้าวข้ามชนชั้นกระเท ยไม่ดีไปได้ และถ้าคิดตามตรรกะเดียวกัน ยิ่งถ้ากระเทยคนไหนที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมากเท่าไหร่ กระเทยคนนั้นก็จะมีจิตใจที่สูงส่ง จากข้อความดังกล่าวนี้ เราจึงสามารถสรุปคุณสมบัติหนึ่งอย่างของกระเทยดีได้หนึ่งข้อนั้นคือการมีเพศ สัมพันธ์กับผู้ชาย
เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถสรุปคำนิยามของ"กระเทยดี"ตามทัศนคติของ ดร.เสรี แบบสั้นๆได้ดังนี้
1. อ้างตนเป็นคนดีและเป่าประกาศให้คนอื่นรับทราบ
2. พูดจาว่าร้ายผู้อื่น
3. ช่วยกระเทยไม่ดีโดยการหาผู้ชายให้
4. มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย (ยิ่งบ่อยยิ่งดี)
ที่จริงแล้วการกล่าวปราศัยของ ดร. เสรี
ในประเด็นนี้นอกจากจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไร้รสนิยมแล้วยังผูกโยงความดี
และเพศสัมพันธ์เข้าด้วยกันโดยใช้ตรรกะวิปลาส ยิ่งไปกว่านั้น
ในขณะที่ตัวเองพยายามใช้ภาษาเป็นอาวุธเพื่อทำร้ายคนอื่นแต่ภาษานั้นกลับวก
กลับมาทำร้ายตัวผู้พูดเองเอง
และไม่น่าเชื่อเลยว่าการผูกขาดรสนิยมทางเพศของกระเทยแบบใดแบบหนึ่งโดยไม่
คำนึงถึงรสนิยมแบบอื่นๆที่มีอยู่เช่นกันจะหลุดออกมาจากผู้ใหญ่ที่เป็นที่นับ
หน้าถือตาว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในวงการคนเพศที่สามของประเทศน่าประหลาดใจมากที่คำพูดไร้เหตุไร้ผลโดยสิ้นเชิงของผู้กล่าวปราศัยกลับ ไม่สร้างผลในเชิงลบแก่ผู้ฟังที่เป็นผู้เข้าร่วมชุมนุม ตรงกันข้าม พวกเขากลับแสดงความความสะใจราวกับว่าสารที่ถูกสื่ออกมานั้นเป็นเรื่องที่ เข้าใจได้และถูกต้อง เหตุใดพวกเขาไม่คิดตั้งคำถามกับ “สาร” ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเช่นนี้? หรือปรากฏการณ์นี้ตอกย้ำสภาวะของคนในประเทศกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะเชื่อสิ่ง ที่อยู่เหนือเหตุและผลขอเพียงแค่เป็นความคิดของคนจากฝั่งตัวเอง?
สุดท้าย ข้อดีของปัญหาสุขภาพทางการเมืองได้เผยให้เห็นถึงทัศนคติและการเหยียดเพศ(ซ้ำ ซ้อน)ที่เกิดขึ้นในขณะนี้น่าจะเป็นข้อเตือนใจคนในประเทศได้เป็นอย่างดีว่า อย่าเที่ยวไปโฆษณาให้ใครต่อใครฟังว่าประเทศเรามีใจกว้างและเปิดใจยอมรับความ หลากหลายทางเพศ เพราะแม้กระทั่งกระเทยในประเทศยังกีดกันกันเองและแบ่งแยกดีเลวกันอยู่เลย!
[1]
ผู้เขียนบทความไม่มีเจตนาในการจัดลำดับกระเทยในฐานะเพศที่สาม(ในเชิงความ
สำคัญ) เพราะอันที่จริงเรื่องเพศซับซ้อนและหลากหลายมากเกินกว่าจะจัดลำดับ
แต่เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจของผู้อ่าน จึงขออนุญาตใช้คำนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น