มิพักต้องถามถึงจุดยืนทางการเมือง, ทัศนะทั่วไปและตรรกะขั้นพื้นฐานของพวกเขาก็บิดเบี้ยวตามวิสัยพ่อค้าเจ้าเล่ห์ ยกประวัติการต่อสู้ใกล้ๆมาก็ได้ ไม่ใช่คนพวกนี้หรอกหรือ ที่คอยฉุดแข้งฉุดขาการเคลื่อนไหว พอฝ่ายพลังประชาธิปไตยเคลื่อนไหวรุกไปข้างหน้ามากขึ้น พวกนี้ก็ป่าวร้องว่า “เคลื่อนไหวซ้ายเกินไป เป็นเงื่อนไขให้พวกปฏิกิริยารวมตัวกันตอบโต้” บ้าง “เป็นเงื่อนไขให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐประหาร” บ้าง แต่พอเห็นทางที่จะได้รับประโยชน์ เงื่อนไขต่างๆที่เคยยกมาก็อันตรธานไปโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่า กี่กรณีแล้ว ที่คนพวกนี้ฉุดกระชากลากถูพี่น้องเสื้อแดงไปหน้าแท่นที่ใช้เชือดแพะสังเวย
สิ่งที่พวกเขาเสนอมานั้น เปิดโปงธาตุแท้ออกมาอย่างล่อนจ้อน เพื่อปิดบังวาระซ่อนเร้น พวกเขาพยายามเอาใจคนเสื้อแดงโดยยกเอาเรื่องพาคุณทักษิณกลับบ้าน เนื่องจากถือเอาประโยชน์พวกตนเป็นหลัก ถือเอาประโยชน์ของคุณทักษิณเป็นรอง ก็เลยทำลืมๆไปว่า พวกเขาจะพาคุณทักษิณกลับบ้าน โดยวิธีเอาคนเสื้อแดงที่ติดคุกเป็นตัวประกัน ซึ่งจะเป็นความมัวหมองติดตัวคุณทักษิณไปตลอด
ไม่เพียงแต่ฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น คุณทักษิณเอง ก็ควรตระหนักถึงสิ่งที่คนพวกนี้ได้กระทำลงไปและผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
ด้วย นิสัยเจ้าเล่ห์ พวกเขาก็จะถามย้อนกลับมาว่า ถ้าเช่นนั้น การออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็จะทำให้คนติดคุกอื่นๆมัวหมองด้วย ดังนั้น ก็ไม่ต้องออกกฎหมายฉบับนี้แล้ว? ขอตอบว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะคนละเงื่อนไขกัน คนที่ติดคุกล้วนแต่เป็นคนที่แทบจะไม่มีทางต่อสู้คดีเพื่อหาความยุติธรรมให้ กับตนเองได้เลย ต้องติดคุกสามสี่ปี เดือดร้อนทั้งตัวเองและครอบครัว บางส่วนที่ไม่ติดคุกก็ต้องหนีกันหัวซุกหัวซุน ไม่สามารถใช้ชีวิตทำมาหาเลี้ยงครอบครัวตามปกติได้ การออกกฎหมายเป็นวิธีเดียวในขณะนี้ที่จะเอาพวกเขาออกจากคุกได้โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเสียหายจากความไม่ยุติธรรมที่เขาได้รับ ซึ่งก็น้อยไปด้วยซ้ำ
ถ้ายังกล้าถามมาแบบนี้ ก็ต้องถามย้อนไปว่า ร่างแรกของคุณวรชัย ก็ชัดเจนและเหมาะสมพอสมควรแถมได้รับการยอมรับจากผู้คนจำนวนมาก แล้วทำไมในชั้นกรรมาธิการ พวกเขาจึงพยายามสอดไส้สิ่งเหล่านี้ไปให้เสียขบวนด้วยเล่า
พวกฉวยโอกาส เหล่านี่ มีพฤติกรรมที่ได้คืบเอาศอก ถ้าประชาชนยอมรับมาตรฐาน ”นิรโทษกรรมเหมารวม” วันหน้า ก็จะต้องยอมรับมาตรฐาน”ปรองดองเหมารวม” ที่คนพวกนี้ออกมาเดินเฉิดฉายเคียงคู่กับบรรดาฆาตกรเหล่านั้นบนซากศพของคนเสื้อแดงด้วย
กระแสการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยใน 6-7 ปีที่ผ่านมานี้ เป็นขบวนที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสังคมไทย ทั้งมีปริมาณหนาแน่นและเชี่ยวกราก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมพัดเอาโคลนตมและเศษสิ่งต่างๆรวมมาด้วย การแยกแยะเศษสวะเหล่านี้ ก็เป็นภารกิจหนึ่งในหลายๆภารกิจของการต่อสู้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น