วันที่ 8 ต.ค.2552 นายไทกร มารับเงินไปทั้งสิ้น 1.1 ล้านบาท
ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
วันที่ 10 ต.ค. 2552 นายไทกร มารับเงินไปอีก 9 แสนบาท
โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญ
วันที่ 13 พ.ย.2552 นายไทกร มารับเงินไปอีก 1 ล้านบาท
บริเวณปั้มน้ำมัน ย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินท
และ วันที่ 4 ธันวาคม 2552 นายไทกร
มารับเงินงวดสุดท้ายจำนวน 2 ล้านบาท
บริเวณปั้มน้ำมัน ย่านลาดพร้าว
ซึ่งระหว่างแต่ละงวด พบว่า “นายไทกร”
ได้พยายามโน้มน้าวให้ “ผู้เสียหาย”
รีบจ่ายเงินให้ครบตามจำนวนโดยเร
โดยอ้างว่า “ผู้ใหญ่เร่งรัด”
และ “หากจ่ายช้าอาจจะไม่ได้รับโครงก
และไม่ได้รับเงินคืน” หลายต่อหลายครั้ง
กระทั่ง “ผู้เสียหาย” ต้องหาเงินมาจ่ายให้ครบตามจำนวน
“นายไทกร ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคประชาธิปัตย์”
ต้องการแต่กลับปรากฏว่าเมื่อ “นายไทกร”
ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว
กลับไม่มีการ “มอบงาน” หรือ “โครงการ
ตามงบประมาณไทยเข้มแข็ง
ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์” ตามที่เคยกล่าวอ้าง
กระทั่งเวลาผ่านไปกว่าปี จนถึงช่วง
“ปลายรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์”…
ผู้เสียหาย กลับไม่เคยได้รับการติดต่อจาก
“นายไทกร พลสุวรรณ อดีตผู้สมัคร
ส.ส.ขอนแก่น พรรคประชาธิปัตย์”
เลยว่าสามารถหางาน “โครงการไทยเข้มแข็ง”
มาให้ดำเนินการได้ ที่สำคัญ “ความจริง”
กลับปรากฏชัดเจนขึ้นเมื่อ “นายไทกร” ถูก “ฟ้องร้อง”
ข้อหา “ฉ้อโกง” ที่ศาลจังหวัดน่าน (สาขาปัว)
ในเดือน “เม.ย 2554” ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่า ถูก “นายไทกร”
หลอกลวงเงินจำนวน 5 ล้านบาทเสียแล้ว !!!
และวันนี้ “นายไทกร พลสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น
พรรคประชาธิปัตย์” ผู้ซึ่งศาลเพิ่งจะพิพากษาไม่กี่
ให้ “จำคุก 2 ปี” เนื่องจาก “ฉ้อโกง” เงิน ที่ “หลอกลวง”
มาจากชาวบ้าน กลับประกาศตัวเป็น
“หนึ่งในแกนนำม็อบคณะเสนาธิการร
นอกจากนี้ “พระนครสาส์น” ยังตรวจสอบพบว่า
ก่อนหน้านี้ศาลล้มละลายกลางมีคำ
นายทัยกร หรือไทกร พลสุวรรณ
(คดีหมายเลขแดงที่ ล. 7150/
ลงเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 13 มกราคม 2552
เนื่องจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
เจ้าหนี้เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง
ข
ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2551
ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ นายทัยกรลูกหนี้
เด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 อีกด้วย
การชุมนุมครั้งนี้จึงน่าเป็นห่ว
และขอให้ผู้ร่วมการชุมนุม ระมัดระวัง
“กระเป๋าสตางค์ -กล่องรับเงินบริจาค”
และ “เงินส่วนตัว” ของแต่ละท่านให้ดีๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น