แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

‘ปู’ ร่วมงานวันแม่ร.ร. ‘น้องไปป์’ ซึ้งน้ำตาคลอ ลูกชายลั่นไม่ขอเป็นนักการเมือง

ที่มา ข่าวสด

 

 

 

 

  เมื่อวันที่ 7 ส.ค. เวลา 08.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางมาร่วมกิจกรรมเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคมและกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ ที่โรงเรียน ณ ดรุณ ซ.สถานทูตลาว ซึ่งด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย ศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โดยนายกรัฐมนตรีสวมชุดผ้าไหมสีฟ้าอ่อน กระโปรงสีดำ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมหยอกล้อผู้สื่อข่าวว่า "มีเนื้อที่ให้วันแม่บ้างนะคะ"

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานมีการ จัดซุ้มและจัดนิทรรศการ"แม่ของแผ่นดิน"ที่แสดงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถและนิทรรศการ"เล่าเรื่องราว...เรารักแม่" ที่ให้นักเรียนนำภาพถ่ายร่วมกับแม่มาบรรยายถึงควาวมรู้สึกโดยหนึ่งในนั้น เป็นเรื่องราวของน้องไปป์ หรือด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร ที่เขียนว่า

 “นี่ คือรูปของไปป์กับคุณแม่ในงานวันแม่ปีที่แล้วที่โรงเรียน ณ ดรุณ ไปป์รู้สึกอบอุ่นและซึ้งใจ ไปป์มีความสุขมาก ไปป์รู้สึกซึ้งใจเพราะคุณแม่มีภารกิจเยอะ แต่ก็ยังสละเวลามาร่วมในงานวันแม่นี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณแม่เห็นความสำคัญของผม ที่จริงไปป์ก็แสดงความรักต่อคุณแม่ทุกวันอยู่แล้ว โดยการกอดทุกรอบที่เราเจอกัน ไปป์รักคุณแม่ครับ”

 หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ พร้อมตรวจวัดความดันที่โรงพยาบาลพระราม 9 มาตั้งบูธให้บริการตรวจสุขภาพมารดา และผู้ปกครองของนักเรียน โดยผลตรวจวัดความดันนายกรัฐมนตรีอยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 116-76 ชีพจร 91 ครั้งต่อนาที

 จากนั้นนายกรัฐมนตรี ถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และตัวแทนนักเรียนนำกล่าวอาเศียรวาทถวายพระพรเพื่อถวายความจงรักภักดีและ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สดุดีมหาราชา กลุ่มนักเรียนมอบพวงมาลัยดอกไม้ ก่อนจะมีการแสดงจินตลีลาของนักเรียน โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบเกียรติบัตรให้แก่คุณครูและผู้ปกครองที่ได้ทำคุณ ประโยชน์และร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนเป็นเวลานาน

 พร้อมกันนี้น้องไปป์ ได้นำพวงมาลัยดอกมะลิมากราบเท้าแม่พร้อมกล่องแทนใจเขียนข้อความ พร้อมรูปภาพ ก่อนสวมกอดทำให้นายกฯถึงกับย้ำตาคลอ โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมกอดและหอมแก้มน้องไปป์ ก่อนที่จะร่วมถ่ายภาพร่วมครูและกับบุคลากรของโรงเรียน ณ ดรุณ

 ทั้ง นี้ภายหลังเสร็จพิธีการน้องไปป์ ได้มอบเรียงความที่เขียนด้วยลายมือของตัวเองให้กับนายกรัฐมนตรีได้อ่าน โดยระบุว่าเขียนเสร็จเมื่อคืนนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรี ได้อ่านก็ถึงกับน้ำตาคลออีกครั้ง ก่อนจะสวมกอดบุตรชาย โดยเนื้อหาในเรียงความมีใจความว่า "ความรู้สึก...เมื่อนึกถึงแม่ หนึ่งเดียวในชีวิตของผม คือคุณแม่ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต และความรักนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง ผมรู้สึกภูมิใจในตัวของคุณแม่มาก ๆ คุณแม่ทำงานหนักทุกวัน แต่ก็ยังพยายามหาเวลาให้ไปป์ คณแม่เปรียบเหมือนเพชรงาม ๆ เม็ดหนึ่งที่มีความแข็งแกร่ง เหมือนคุณแม่ในการทำงาน และอดทนเสมอเมื่อมีปัญหา คุณแม่มีความงดงามเหมือนกับเพชรในเรื่องของความมีน้ำใจ คุณแม่มักจะไม่สบายใจเมื่อเห็นคนเดือดร้อน คุณแม่มีคุณค่าเหมือนกับเพชร เพราะคุณแม่คือคนสำคัญของไปป์และคุณพ่อ ไปป์ขอขอบคุณแม่สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ไปป์ ดีใจที่เกิดมาเป็นลูกชายของคุณแม่ จากไปป์ ลูกชายแม่ปู"

 จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีความสุขมาก และชื่นใจ ตอนนี้ลูกก็โตขึ้นแล้ว ภูมิใจในตัวลูกที่เขาได้แสดงความรู้สึก และได้เขียนถึงความรักของแม่ และที่สำคัญพัฒนาการเขาก็ถือว่าดีขึ้น ตนอยากให้เขาได้รับความรู้เรื่องของภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยให้มากขึ้น ซึ่งก็ภูมิใจที่วันนี้เขาทำได้ดี

 เวลาที่มีเหนื่อยหรือมีปัญหา น้องไปป์ก็จะเข้ามาแสดงความรู้สึก บางครั้งก็มากอดแม่ จะกอดกันทุกวัน และก็จะบอกว่าแม่รักลูก" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

 เมื่อถามว่าถือว่า วันนี้ลูกเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็เป็นส่วนสำคัญในการให้กำลังใจ ถ้าเราไม่มีความกังวลในเรื่องของลูก เราก็จะไม่กังวลในการทำงานมาก

 ทางด้าน ด.ช.ศุภเสกข์ หรือ น้องไปป์ กล่าวถึงการให้กำลังใจแม่เวลาที่เจอปัญหามาก ๆจากการทำงาน ว่า เวลาแม่เหนื่อยก็จะเข้าไปกอด ไปคุยด้วย และลูบหลังแม่ เมื่อถามว่าอยากให้แม่ออกจากการเมืองหรือไม่ เวลาเห็นแม่เหนื่อยหรือไม่สบายใจมาก ๆ น้องไปป์ กล่าวว่า  ก็ไม่มี แต่ก็ขอให้แม่ผ่านอุปสรรคไปได้

 “เวลาที่แม่เหนื่อยจากการทำงาน พอกลับถึงบ้าน ไปปก็จะเข้าไปโถมกอดแม่ เพื่อให้กำลังใจ สำหรับวันแม่ปีนี้ ก็ได้เขียนเรียงความถึงแม่ และทำกล่องดวงใจเล็ก ๆ ให้แม่"

 เมื่อถามว่าแม่ถือเป็นไอดอล และโตขึ้นอยากจะเป็นนักการเมืองหรือไม่ น้องไปป์ ส่ายหัวพร้อมบอกว่า “ไม่เอาครับ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น