20 คำถาม ทำความรู้จักกับ 'น้องจีน' หญิงสาวผู้ฝ่าม็อบ ไปมอบหนังสือให้ กกต.ลาออก

ที่มา ประชาไท

Thu, 2014-01-30 11:32

 

 

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ม.ค.2557 มีกลุ่มคนบุกเข้ายื่นหนังสือให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เพื่อเรียกร้องให้ กกต.ชุดนี้ลาออก ในระหว่างการแถลงข่าว ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี หลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างรัฐบาลและกกต.เรื่องการเลื่อนวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.โดยมีการชูป้ายข้อความ "เห็นหัวเราบ้าง"

 

กระแสที่ยังคงอยู่ คือการพูดถึง พุธิตา ชัยอนันต์ หรือ จีน หญิงสาวสวยใจกล้าที่ปฏิบัติการฝ่าการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.และการรักษาความปลอดภัยของทหารและตำรวจ เข้าไปยืนหนังสือถึงตัวนายสมชัยในวันนั้น แม้จะถูกเมินไม่รับหนังสือ แต่ก็ถูตอบรับด้วยการเขียนเฟสบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์นี้ว่า “ผมไม่ได้รับหนังสือ เพราะเวลาเขายืน ไม่เห็นหัวผม” จากนายสมชัย

 

ปัจจุบัน จีนเป็นนักศึกษาปริญญาโท คณะสังคมศาสตร์ สาขาการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เธอจบปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน และทำกิจกรรมรณรงค์ร่วมกับกลุ่มวันใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่นักเรียนนัก ศึกษาที่รวมตัวกันทำกิจกรรมรณรงค์อยู่ที่ จ.เชียงใหม่

 

ประชาไทสัมภาษณ์ จีนใน 20 คำถาม ว่าด้วยเรื่องกิจกรรมที่ทำ แนวคิด และประสบการณ์ที่เธอพึ่งประสบมา เพื่อทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น

 

 

 

000

 

Q1 เล่าสถานการณ์วันนั้นให้ฟังหน่อย เข้าไปกันได้อย่างไร ผ่านทั้งผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ?

ห้อยนกหวีด เดินผ่านผู้ชุมนุมมา แล้วปีนข้ามรั้วกันมา ทำตัวเนียนๆ เหมือนเป็นนักข่าว อีกคนที่ไปด้วยกันก็สะพายกล้องถ่ายรูปไป บุคลิกพวกเราอาจจะเหมือนนักข่าวก็ได้ เลยไม่มีใครสงสัยเลย

 

Q3 ทำไมต้องบุกไปยื่นหนังสือในวันนั้นถึงที่สโมสรกองทัพบก?

เราทราบข่าวมา รัฐบาลกับ กกต.จะมีการประชุมกันที่นั่น คิดว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ยื่นหนังสือให้กับคุณสมชัย ถ้าเป็นวันอื่นเราคงไม่มีโอกาสได้พบ และไม่รู้ว่าหนังสือจะถึงมือเขาหรือเปล่า ... เพลงนี้เลย "รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง ..."

 

Q2 ไม่กลัวเหรอ?

ก็กลัวนะ กลัวว่าจะเข้าไปไม่ได้ ถ้าเข้าได้ก็กลัวโดนจับได้ว่าไม่ใช่นักข่าว ส่วนม็อบที่อยู่ข้างหน้าประตู จีนไม่กลัวนะ จริงๆ เขาก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรานั่นแหละ จีนไปนั่งฟัง ไปอยู่กับม็อบ กปปส. มาทุกที่แล้ว เขามีชุมนุมที่ไหน ไปหมด อยากรู้ว่าพวกเขาคิดอย่างไร ทำไมเราถึงคิดไม่เหมือนกัน

 

Q4 ที่ไปในชื่อ “กลุ่มมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าคนไทยทั้งประเทศอยากได้ กกต.ชุดใหม่” เป็นมาอย่างไร?

มันเป็นอีเวนท์ในเฟซบุ๊กที่สร้างโดย นักวิชาการ นักกิจกรรมทางสังคม นักแปล และนักศึกษา ที่มีความอึดอัดใจต่อ กกต. ชุดนี้ ซึ่งควรมีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง กลับแสดงตนไม่เป็นกลาง และละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ มีเจตนาที่ต้องการเลื่อนเลือกตั้ง โดยกลุ่มนี้จะทำหน้าที่คล้ายๆ เป็น watch dog ในการติดตามควบคุมกำกับการทำงานของ กกต.ค่ะ

 

Q5 คิดว่าอะไรคือจุดแตกหักที่ทำให้เห็นว่า กกต.ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งนี้?

จีนขอพูดเฉพาะ คุณสมชัยดีกว่า แค่เขาอยู่ในฐานะ กกต. แต่ออกมาพูดในที่สาธารณะว่าไม่ควรมีการเลือกตั้ง นี่ก็ไม่สมควรทำหน้าที่นี้แล้ว

 

Q6 ตามข้อเรียกร้องให้ กกต.ลาออก มีคำถามว่าหากไม่มี กกต.มาทำหน้าที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องยืดเยื้อต่อไปอีก ตอบตรงนี้อย่างไร?

การเคลื่อนไหวของกลุ่ม เป็นการกดดันให้ กกต.เปลี่ยนท่าทีและระมัดระวังให้มากขึ้นในการทำหน้าที่ของตนเอง คุณสมชัยเคยขู่ว่าจะลาออกแต่ก็ไม่ลาออก เพราะเข้าใจว่าเบื้องหลังในการขัดขวางระบอบประชาธิปไตยได้วางหมากกันเอาไว้ แล้ว

 

การยื่นหนังสือก็เป็นแค่ movement ทางการเมือง การลงชื่อก็ไม่ได้มีผลทางกฎหมาย หาก กกต.จะลาออกจริงก็ประเมินได้ว่าเป็นการวางหมากของเค้าอยู่แล้ว และตอนนี้ทางกลุ่มฯ กำลังทำหนังสือเปิดผนึกฉบับที่ 2 อยู่ค่ะ คราวนี้จะกดดันไปที่คุณสมชัยคนเดียวโดยตรง เพราะมองว่าเป็นคนที่มีบทบาทนำใน กกต. ซึ่งถ้า กกต.ลาออกเพียงคนเดียว คณะก็ยังทำงานได้อยู่

 

Q7 ประเด็นเรื่องกาลเทศะ กรณีถูกบอกว่ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่ทำให้ไม่ได้รับความสนใจที่จะรับหนังสือที่ยืน มีคำอธิบายตรงนี้ไหม?

คิดว่ามันเป็นข้ออ้างในการจะไม่รับหนังสือมากกว่าค่ะ ถ้าเห็นภาพในข่าวก็จะรู้ว่าจีนไม่ได้ไปยืนค้ำหัวเขาเลย คือ ตอนนั้นรอให้เขาพูดแถลงการณ์ให้เสร็จแล้วเราก็เข้าไปยื่นหนังสือในจังหวะที่ เปิดโอกาสให้นักข่าวถามคำถาม ทีนี้ จีนไปเข้ายื่นหนังสือให้เขา แต่ก็ไม่ทันได้พูดอะไรกับเขา เพราะนักข่าวที่นั่งอยู่บนพื้นเขากำลังถามคำถามอยู่ เราก็ไม่มีโอกาสได้พูด คุณสมชัยก็หันมาถามว่า จะเอาไมโครโฟนไหม จะพูดไหม แต่นักข่าวกลุ่มนั้นบอกว่าไม่ เขาจะขอถามคำถามก่อน จีนเลยยืนรอ ตามที่เห็นในภาพแหละค่ะ ฮ่าๆ

 

 

Q8 ที่ผ่านมาเคยทำการรณรงค์อะไรบ้าง?

ทำกิจกรรมรณรงค์เคลื่อนไหวของกลุ่มวันใหม่ค่ะ ก็มีการขับเคลื่อนประเด็นนักโทษทางการเมือง มาตรา 112 ทำกิจกรรมป่วนวัฒนธรรม หน้ากากคุณสมยศ แล้วก็ออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมร่วมกับกลุ่มนักศึกษาธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ช่วงนี้ก็มาร่วมเคลื่อนไหวกิจกรรมจุดเทียนกับกลุ่มพอกันที! และเพจยุติความรุนแรงหยุดทำร้ายประเทศไทยค่ะ

 

นอกนั้นก็เคลื่อนไหวประเด็นเรื่องเพศและเรื่องการเมืองบนหน้าเฟซบุ๊กตัวเอง

 

Q9 ตอบยังไงกับคำถามที่ว่า “รณรงค์เรื่อง 112 นี่เป็นเสื้อแดงล้มเจ้าหรือเปล่า”?

เราไม่เห็นด้วยกับการมีอยู่ของ 112 ก็ไม่เห็นเกี่ยวว่าจะต้องเป็นคนคิดร้ายกับสถาบันเลย เป็นความหวังดีเสียด้วยซ้ำ เพราะ การใช้มาตรา 112 ทุกวันนี้ มีแต่จะทำให้สถาบันเสื่อมเสียค่ะ

 

ส่วนเรื่องเสื้อแดง จีนบอกตลอดเลยว่าตัวเองเป็นเสื้อแดง เป็นเสื้อแดงแบบที่บางทีก็โดนคนเสื้อแดงต่อว่าเวลาเราวิจารณ์คนเสื้อแดงด้วย กันเอง หรือวิจารณ์พรรคเพื่อไทย อะไรผิดเราก็บอกว่าผิด ก็ไม่ได้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่เห็นด้วยหลักการประชาธิปไตย

 

ตอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย จีนก็ออกมาต่อต้านนะ ไปร่วมกับกลุ่มนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ไปนอนตายกันอยู่หน้าพรรคเลย อย่างนี้อาจจะเรียกว่าแดงเทียมรึป่าว

 

Q10 ทำไมถึงได้มาสนใจการรณรงค์ประเด็นทางการเมือง?

คิดว่าการเมืองก็คือชีวิต มันอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกๆ คนอยู่แล้ว ที่ออกมารณรงค์ทางการเมืองก็เพราะว่าเราเห็นถึงความไม่เป็นธรรมค่ะ จีนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารอยู่แล้ว ที่สำคัญมาตาสว่างตอนเหตุการณ์สลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงปี 53

 

Q11 ที่ว่าเคยไปร่วมม็อบ กปปส.มาแล้วหลายครั้ง เห็นอะไรบ้าง?

ตอนไปม็อบ กปปส เราก็ตั้งใจไปฟังเขานะ แต่ฟังแล้วรู้สึกแย่ หดหู่ คนที่ขึ้นไปพูดบนเวทีส่วนใหญ่ก็จะพูดปลุกให้เกิดความเกลียดชัง มีการนำเสนอข้อเท็จจริงเพียงด้านเดียว เรานั่งฟังอยู่หลายครั้งมากที่ตกใจ งง ไม่รู้ว่าเขาพูดออกมาได้อย่างไร ข้อเท็จจริงอีกแบบอ้างหลักการและเหตุผลอีกแบบ ทั้งๆ ที่มันไม่เกี่ยวกันเลย

 

Q12 การออกมารณรงค์ทางการเมืองทำให้ในชีวิตส่วนตัวต้องสูญเสียหรือได้รับผลกระทบอะไรไปบ้างหรือเปล่า?

มันเหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปแล้ว ถ้าจะกระทบก็อาจจะเป็นเรื่องการเรียนนิดหน่อยค่ะ เพราะตอนนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงเขียนวิทยานิพนธ์อยู่

 

(หมายเหตุ: วันนี้ (30 ม.ค.5) จีนเล่าว่าแม่ของเธอโทรมาบอกว่า มีผู้ชายท่าทางแปลกๆ 2คน ใส่หมวกกันน็อค ใส่ผ้าปิดหน้า มาทำลับๆ ล่อๆ หน้าร้าน (ร้านอาหารที่เชียงใหม่) พอพ่อเธอออกไปดูก็รีบดึงหมวกลงมาปิดหน้า เธอเป็นห่วงที่บ้านมาก แต่ก็ยังคงต้องอยู่กรุงเทพต่อเพื่อทำภารกิจการยื่นหนังสือที่ยังไม่เสร็จสิ้น)

 

Q13 จากที่เคยเคลื่อนไหวประเด็นเรื่องเพศ มองกรณีสมชัยนัดนายกที่โรงเเรมโฟร์ซีซั่นยังไงบ้าง เพราะมีคนโจมตีว่าหมิ่นในเรื่องเพศ?

อืม... จีนเคยทำงานมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิงในฐานะอาสาสมัครนัก สิทธิมนุษยชน จีนคิดว่าคนเรามันมีหลายบทบาท เมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณะเขาก็คือนายกรัฐมนตรี กลับเข้าบ้านเขาก็คือแม่ คือภรรยา คือพี่ คือน้อง ของเพื่อนของครอบครัว เขาก็คือคนธรรมดา

 

จริงๆ แล้วเรื่องเพศเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องปกตินะจีนคิดอย่างนี้ แต่เราก็ ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นโจมตีกันทางการเมือง คนที่เสื่อมเสียไม่ใช่นายก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของผู้โจมตีมากกว่า

 

 

Q14 จุดยืนในฐานะคนรุนใหม่ต่อการเลือกตั้งคืออะไร?

การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้มันจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่มันต้องมีค่ะ คนเราเกิดมาแม้จะมีความแตกต่างกันทางชาติกำเนิด ฐานะ ชนชั้น แต่ทุกๆ คนเป็นคนเหมือนกัน การนับหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงก็เป็นหลักประกันว่า คุณมีตัวตนและเราเท่าเทียมกัน

 

Q15 คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญกว่าครั้งอื่นๆ อย่างไร?

โดยหลักแล้วก็ไม่ได้สำคัญกว่าครั้งอื่นๆ แต่เนื่องจากมีคนบอกว่าการเลือกตั้งมันไม่สำคัญ มีคนไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ดังนั้นหนึ่งเสียงที่ไปโหวตในครั้งนี้มันมีความหมาย นอกจากว่าคุณต้องการพรรคไหนแล้ว ยังมีความหมายว่า มีคนที่ต้องการการเลือกตั้งกี่คน

 

Q16 ที่ผ่านมามักมีคนส่วนหนึ่งมองว่าคนที่ต้องการการเลือกตั้งเป็นพวกเสื้อแดง มองตรงนี้อย่างไร?

ก็ถูกนะ แต่ถูกไม่หมด คนที่เขาไม่เคยออกตัวว่าเลือกข้างทางการเมืองข้างไหน ก็ต้องการให้มีการเลือกตั้ง แล้วมีเยอะด้วย เห็นได้จากคนที่ออกมาทำกิจกรรมจุดเทียนค่ะ

 

Q17 ประเมินเรื่องความรุนแรงในการเลือกตั้ง 2 ก.พ.อย่างไร จะหนักกว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีการตายและคนบาดเจ็บแล้ว หลายคนบอกไม่คุ้มที่จะเดินหน้า?

เป็นห่วงเรื่องความรุนแรงในวันที่ 2 ก.พ.นี้เหมือนกัน นักวิชาการและปัญญาชนหลายคนมองว่าเราต้องสู้ให้ถึงที่สุด ยังไงก็จะต้องให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 นี้ให้ได้ เป็นการรักษาหลักการประชาธิปไตยเอาไว้

 

แต่ส่วนตัวจีนเลย มองว่า มันคงไม่มีหลักการอะไรที่จะต้องรักษามากไปกว่าชีวิตมนุษย์ ถ้าถึงที่สุดแล้วนะ เกิดความรุนแรงเกิดความสูญเสียมากมายขึ้นมาจริงๆ ก็จำเป็นที่จะต้องเลื่อน แต่อย่างไรก็ตามในฐานะคนที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง คุณก็ต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ก่อน   

 

Q18 การที่มีบางคนบอกให้เลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกหน่อย จะเป็นอะไรไป ดีกว่ามีแล้วเกิดความรุนแรง จะบอกเขาว่าอย่างไร?

เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่า เลื่อนออกไปแล้วจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงในอนาคต ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ปฏิรูปอย่างไร เป็นเพียงข้ออ้างในการกำจัดศัตรูทางการเมืองหรือเปล่า เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะปฏิรูปกันอย่างไร ไม่มีทางหรอกที่เราจะได้คนดีเข้ามาปกครองประเทศ คนดีคนเลวไม่มีจริง

 

Q19 ถึงวันนั้นคนจะกล้าออกมาเลือกตั้งไหม คิดภาพไว้ไหมว่าจะเป็นอย่างไร?

คิดว่าจะมีคนออกมาเลือกตั้งเยอะมาก สังเกตจากการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา เป็นไทยอดทนกันมานานแล้วค่ะ เขาก็อยากออกมาแสดงออกบ้าง

 

แต่สุดท้ายการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะไม่สำเร็จ มีการพยายามขัดขวางการเลือกตั้ง และอาจจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นได้จากทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุน แล้วก็อาจจะได้เห็นป้าถือไฟฉายอีกหลายๆ คนก็ได้

 

Q20 อยากฝากอะไรให้กับคนในสังคม จากสภาพความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน?

อยากให้มวลชนทั้ง 2 ฝ่าย ถอยออกมาจากจุดที่ตัวเองยืนบ้างค่ะ เมื่อเราถอยออกมาเราก็อาจจะเห็นว่า พวกเราเป็นเพียงเบี้ยทางการเมืองเท่านั้น มันเป็นเกมการแย่งชิงผลประโยชน์กันของผู้มีอำนาจ เท่านั้นแหละ

 

เราเป็นประชาชน เราเป็นคนเหมือนกัน ไม่ควรจะมาเกลียดชังกัน มาทำร้ายกันเพราะเรื่องแบบนี้เลย

 

 

 

หมายหตุที่มาภาพจาก: กลุ่มมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าคนไทยทั้งประเทศอยากได้ กกต.ชุดใหม่ และ เฟซบุ๊กJean Chinese