แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"คำนูณ - ปานเทพ" ติงปชป.ทิ้งม็อบยิ่งทำรบ.แกร่ง แนะเอาเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ

ที่มา Thai E-News


ที่มา ASTVผู้จัดการ


"ปาน เทพ" ติงปชป.ทำมวลชนผิดหวัง อาจทำคนเอือมไม่กลับมาร่วมม็อบอีก แล้วจะยิ่งทำให้รัฐบาลลุแก่อำนาจ ชี้ควรชุมนุมต่อควบคู่กับอภิปรายในสภาเพื่อกดดันรัฐบาล แนะเอาเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ด้าน "คำนูณ" จี้ปชป.ต้องตัดสินใจแล้ว จะนำประชาชนสู้เพื่อแค่เปลี่ยนขั้วหรือปฏิรูปประเทศ
 
       วัน ที่ 7 ส.ค. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และนาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทีวี
 
       โดยนายคำนูณ กล่าวว่า สถานการณ์ก่อนวันที่ 7 ส.ค. เอื้อหลายอย่าง ประธานรัฐสภามีอาการรนไล่รถถ่ายทอดสดออก กระแสออนไลน์ก็จุดติดในแง่รัฐบาลปิดหูปิดตาประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นไปต่อได้แน่ ฉะนั้นประชาธิปัตย์ต้องคิดกิจกรรม ไม่ใช่นำมวลชนไปปะทะกับตำรวจ แต่การตั้งมั่นชุมนุมต่อ และใช้แทคติกสภาคงมวลชนไว้ จะเป็นพลังกดดันสภาได้ผลทีเดียว
 
       นาย คำนูณ กล่าวอีกว่า เมื่อพันธมิตรฯไม่เอา การนำของกลุ่มอื่นก็ไปไม่ได้ทุกกลุ่ม มีแต่ราคาคุย ก็เหลือแต่ประชาธิปัตย์ อันนี้อาจเป็นเหตุที่กดดันให้ประชาธิปัตย์ทำสิ่งที่ไม่ถนัด เดินแล้วเดินไม่สุด จะออกวาระ 3 จะเอาตรงไหนต้องพูดกับประชาชนให้ชัด ไม่ใช่ต่อด้วยฝากความหวังที่ ส.ว. 3 วาระ ซึ่งแพ้แน่นอน แล้วต่อด้วยรอศาลรัฐธรรมนูญค่อยเป่านกหวีด ขออย่าให้เป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นจบเลย
 
       คนทำงานมวลชนมันต้องมีจริยธรรมบางอย่างในการ นำมวลชน เมื่อตัดสินใจเดินหน้า ความเสี่ยงก็มีมาตั้งแต่วินาทีนั้น อย่างพันธมิตรฯไม่ได้สุขสบาย มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ปลุกม็อบยากแต่สลายม็อบยากกว่า เพราะหากไม่ถึงเป้าหมายที่ประกาศไว้ ต้องทำอย่างไรให้มวลชนพอใจที่สลายไปแล้วกลับมาได้อีก แต่วันนี้มันไม่ได้จริงๆ มาส่งส.ส. แล้วให้กลับบ้านอาบน้ำดูทีวี นี่เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ส่วนในสภาประชาธิปัตย์อภิปรายได้ยอดเยี่ยมมาก แต่พูดให้ตายก็แพ้ แต่ถ้าตัดสินใจนำมวลชนหลังวาระ 3 จะเป่านกหวีดยาว ยาวอย่างไรและแค่ไหน
       
       วันนี้ ต้องถือเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาไม่เคยต่อสู้แบบนี้ เมื่อประชาธิปัตย์ออกมาก็คล้ายๆเป็นหนึ่งในความหวังเดียว ที่ช่วยเติมความพร่องของคนที่อึดอัดรัฐบาลอยู่ ประชาธิปัตย์ต้องคิดให้สุดกระบวนและตัดสินใจว่าพรรคจะเดินไปทางไหน ไม่ได้ให้ทิ้งระบอบรัฐสภา ทำไป แต่งานมวลชนก็ทำไปด้วย แล้วต้องบอกมวลชนว่าเป้าหมายสู้เพื่ออะไร เพียงแค่เปลี่ยนตัวขึ้นไปครองอำนาจหรือเปลี่ยนเชิงปฏิรูป เพราะวันนี้ก็ไม่ได้บอกว่าระบอบสภาไม่ดี บอกแต่ว่าคนขึ้นมาเป็นใหญ่มันไม่ดี แต่ถ้าเราขึ้นไปแล้วจะดี ประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดปฏิรูปที่ระบอบเลย แต่ถึงเวลานี้ต้องตัดสินใจแล้ว
   


       นาย คำนูณ ยังได้ฝากถึงเวทีชุมนุมที่สวนลุม ว่า เป้าหมายต้องชัดเจน และจะมีวิธีการอย่างไร จะก่อสถานการณ์แล้วให้ทหารตาม มันเป็นไปได้ไหม ไม่ใช่แถลงออกมาวิลิศมาหรา แต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนอาจโดนด่ากลับว่าไม่ทำอะไรเอาแต่วิจารณ์คนอื่น แต่ตนคิดว่าไม่ใช่เราไม่ทำอะไร แต่ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และบอกว่าสิ่งที่รัฐบาลทำผิดอะไร คนผิดไม่สามารถคงดำรงอยู่ได้นานหรอก บางคนบอกว่าจะรอให้ประเทศล่มจมก่อนหรือ ตนเห็นว่าบางครั้งมันก็จำเป็น เพราะความล้มเหลวของรัฐบาลหลายอย่างก็เริ่มประจักษ์ออกมา แต่พอการต้านที่มีแต่ภาพ กลับเป็นการไปต่ออายุให้เขา เขากำลังเริ่มไปไม่เป็น แต่พอมีคนมาล้ม เขากลับรวมตัวกันใหม่
 
       ภาย ใต้สถานการณ์ตอนนี้ การชุมนุมไม่เหมือนปี 48 - 49 ถ้ายังไม่พร้อม ไม่แน่ใจ ยังไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นนัดชุมนุม ถ้าไม่พร้อมหยุดได้ มันมีวิถีทางที่จะทำงานได้ มีหลายทาง อย่างน้อยประชาธิปัตย์ก็เป็นขุมกำลังมวลชนที่ใหญ่ 1 ใน 2 ของประเทศนี้ อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งสำคัญ ซึ่งต้องตัดสินใจในช่วง 2-3 เดือนนี้ว่าจะเอาอย่างไร
 
       ด้านนายปานเทพ กล่าวถึงการเคลื่อนขบวนของประชาธิปัตย์ ว่า ไม่ควรล้มเลิกไปง่ายๆ ต้องตั้งเวทีตรงนั้น ในฐานะที่รัฐบาลปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารประชาชน เพราะหากมีมวลชนจำนวนเยอะและอยู่ใกล้ๆสภา จะสร้างความกดดันให้รัฐบาล ประชาธิปัตย์เดินสายปลุกระดมมาหลายเดือนจนคนฮึกเหิมห้าวหาญ ประชาธิปัตย์อาจไม่ถนัดการนำมวลชน เลยไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกว่าอาจทำให้พวกเขาผิดหวัง และไม่อยากมาในคราวหน้า ซึ่งรัฐบาลก็จะย่ามใจมากกว่าเดิม
 
       แม้ เวทีประชาธิปัตย์ช่วงดึกของวันที่ 6 ส.ค. พยายามลดโทนอารมณ์ของมวลชนด้วยการประกาศว่าจะเคลื่อนแค่ไหน แต่คนก็ยังมาเยอะทำให้กลุ่มกองทัพประชาชนที่สวนลุมฝ่อไปเลย ถ้าคนเยอะขนาดนี้ไม่ควรให้มวลชนกลับบ้านมือเปล่า ต้องสร้างความหวังครั้งต่อไป เพื่อให้เขาไม่ผิดหวัง จะเห็นว่ามีประชาชนบางส่วนยังไม่อยากกลับบ้าน นี่ยังดีที่ประกาศก่อนล่วงหน้า แต่ถ้าไม่บอกล่วงหน้าสถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้ การตัดสินใจไม่ปะทะนั้นถูกแล้ว แต่ไม่ควรปลุกเร้าจนมวลชนคาดหวัง ตรงนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญมาก เพราะทำให้กองทัพประชาชนที่สวนลุมคนน้อย คนไปก็ผิดหวัง กลายเป็นมวลชนทั้งสองกลุ่มที่ผิดหวังพร้อมกัน ตนยังให้กำลังใจทุกกลุ่มในการเดินหน้าต่อ ให้เอาเป็นบทเรียน คราวหน้า 2 กลุ่มต้องนัดแนะกันให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้อีก
     


       นาย ปานเทพ กล่าวต่อว่า การนำของประชาธิปัตย์มีแรงดึงดูดอยู่มาก มีทุกอย่างพร้อมสรรพมากกว่าทุกกลุ่ม เพียงแต่ยังไม่ก้าวข้ามความเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา การลั่นว่าจะเป็นเจ้าภาพนำมวลชนหลังวาระ 3 ต้องชัดเจนว่าตกลงจะใช้มวลชนในการจัดการปัญหา หรือยังเชื่อระบอบรัฐสภา ตนเชื่อว่าที่ประชาธิปัตย์รอถึงวาระ 3 เพราะหวังว่าขัดรัฐธรรมนูญ แล้วจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
 
       หากนอกสภาเป็นแบบนี้ ในสภาก็มีโอกาสที่จะถูกหักดิบ ประชาธิปัตย์ต้องมีจุดยืนชัดเจน ว่ามองการเคลื่อนไหวของประชาชนว่ามีปฏิกิริยาสูงเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างใด อย่างหนึ่ง หรือมองว่าเป็นแค่การสร้างภาพให้ตัวเองในการสร้างคะแนนนิยม ถ้าทำไม่ได้ตามสิ่งที่ประชาชนคาดหวังอย่าทำอีก มันอันตราย ไม่ใช่เรื่องสนุกที่เอาประชาชนเข้าไปเสี่ยง แล้วตัวเองไม่รับผิดชอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น