นายกฯ แถลงยันเลือกตั้ง 2 ก.พ. เพื่อพิทักษ์รธน.และปกป้องระบอบฯ
ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียม เป็นที่ยอมรับของสากล
ชี้การปฏิรูปคู่ขนานไม่ขัดกับการเลือกตั้ง
ใช้กลไกรัฐสภาเป็นหลักที่ขับเคลื่อนให้ข้อเสนอเป็นจริงได้
21 ธ.ค.2556 เมื่อเวลา 14.30 น. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ อ้างถึงพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งกำหนดวันเลือกตั้งไว้ในวันที่ 2 ก.พ.57 รัฐบาลยังยันเจตนารมณ์ที่ต้องการพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญและปกป้องระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยการให้ประชาชน มีสิทธิ มีเสียงทั่วประเทศ และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เป็นผู้กำหนดทิศทางของประเทศ และร่วมกันหาทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองภายใต้กรอบกติกาประชาธิปไตยอัน เป็นที่ยอมรับของสากล ในขณะเดียวกัน จากเวทีการระดมความคิดเห็นต่างๆ รัฐบาลมีความเห็นที่สอดคล้องว่า การดำเนินการปฏิรูปประเทศทั้งในมิติของการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมนั้น มีความจำเป็น ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะร่วมในการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการปฏิรูปที่ สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง
ยิ่งลักษณ์ กล่าวรัฐบาลขอยืนยันด้วยว่ากระบวนการปฏิรูปประเทศนั้นสามารถที่จะดำเนินการ คู่ขนานกันไป โดยไม่ขัดแย้งกับกระบวนการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งอาณาจักร ไทย ตรงกันข้ามกลับเป็นความจำเป็นด้วยซ้ำที่การเลือกตั้งจะต้องเดินหน้า
ด้วยเหตุผลที่เมื่อมีฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนของประชาชนแล้ว กลไกรัฐสภาจะต้องเป็นกลไกหลักที่จะขับเคลื่อนให้ข้อเสนอการปฏิรูปต่างๆเป็น จริงขึ้นมาได้ ด้วยแนวคิดดังกล่าว รัฐบาลเห็นว่าเพื่อให้ประชาชน มีความมั่นใจว่าหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.57 แล้ว สภาผู้แทนราษฏรและคณะรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นใหม่ จะต้องกำหนดให้การปฏิรูปประเทศเป็นวาระแห่งชาติ
ทั้งนี้ยิ่งลักษณ์ได้เสนอเพื่อดำเนินการตามลำดับ 3 ข้อดังนี้
1. พรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกลงรับเลือกตั้งคราวนี้ พร้อมทั้งองค์กรหรือภาคีอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้สัตยาบันว่าหลังจากสภาผู้แทนราษฎร์และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ แล้ว จะมีการจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศไทยขึ้นทันที
2. การจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศไทย จะประกอบด้วยตัวแทนจากองค์กรวิชาชีพหรือสถาบันต่างๆ ที่มีกฎหมายรองรับพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงที่ประชุมที่แม้มิได้มีกฎหมายรองรับแต่มีบทบาทที่สำคัญของประเทศเช่น ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ที่ประชุมปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการ หรือองค์กรอื่นๆในลักษณะที่เทียบเคียงกันได้ ตลอดจนตัวแทนของกลุ่มวิชาชีพทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ รวมถึงกลุ่มที่มีความคิดเห็นทางการเมืองสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม
3. สภาปฏิรูปประเทศไทยสมควรมีวาระการทำงานไม่เกิน 2 ปีและมีหน้าที่สำคัญคือการจัดทำและเสนอกลไกเพื่อปฏิรูปประเทศไทยในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปการเมืองให้การเมืองในอนาคตสามารถเป็นปากเสียง แทนประชาชนได้อย่างแท้จริง ข้อเสนอของรัฐบาลดังกล่าวเป็นข้อเสนอเบื้องต้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้ฝ่าย ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ และพี่น้องประชาชนทุกคน ได้ถกเถียงแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและเสนอแนะเพื่อปรับปรุงให้กลไกเฉพาะกิจดัง กล่าวเกิดขึ้นได้โดยเร็วที่สุด และนำไปสู่การปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง
นายกฯ กล่าวด้วยว่าเวทีต่างๆจะได้นำข้อเสนอของรัฐบาลไปพิจารณา และมีข้อแนะนำกลับมายังรัฐบาล ทั้งนี้รัฐบาลตั้งใจไว้ว่า หากทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน กระบวนการปฏิรูปจะเริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด รัฐบาลขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคน เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ เพราะเป็นอนาคตของปวงชนชาวไทยทุกคน และรัฐบาลเชื่อว่าหากพี่น้องคนไทยร่วมมือร่วมใจกัน เราจะหาทางแก้ไขวิกฤตทางการเมือง และนำความสงบสันติกลับมาสู่ประเทศชาติของเราทุกคน
21 ธ.ค.2556 เมื่อเวลา 14.30 น. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ อ้างถึงพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งกำหนดวันเลือกตั้งไว้ในวันที่ 2 ก.พ.57 รัฐบาลยังยันเจตนารมณ์ที่ต้องการพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญและปกป้องระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยการให้ประชาชน มีสิทธิ มีเสียงทั่วประเทศ และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เป็นผู้กำหนดทิศทางของประเทศ และร่วมกันหาทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองภายใต้กรอบกติกาประชาธิปไตยอัน เป็นที่ยอมรับของสากล ในขณะเดียวกัน จากเวทีการระดมความคิดเห็นต่างๆ รัฐบาลมีความเห็นที่สอดคล้องว่า การดำเนินการปฏิรูปประเทศทั้งในมิติของการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมนั้น มีความจำเป็น ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะร่วมในการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการปฏิรูปที่ สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง
ยิ่งลักษณ์ กล่าวรัฐบาลขอยืนยันด้วยว่ากระบวนการปฏิรูปประเทศนั้นสามารถที่จะดำเนินการ คู่ขนานกันไป โดยไม่ขัดแย้งกับกระบวนการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งอาณาจักร ไทย ตรงกันข้ามกลับเป็นความจำเป็นด้วยซ้ำที่การเลือกตั้งจะต้องเดินหน้า
ด้วยเหตุผลที่เมื่อมีฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนของประชาชนแล้ว กลไกรัฐสภาจะต้องเป็นกลไกหลักที่จะขับเคลื่อนให้ข้อเสนอการปฏิรูปต่างๆเป็น จริงขึ้นมาได้ ด้วยแนวคิดดังกล่าว รัฐบาลเห็นว่าเพื่อให้ประชาชน มีความมั่นใจว่าหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.57 แล้ว สภาผู้แทนราษฏรและคณะรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นใหม่ จะต้องกำหนดให้การปฏิรูปประเทศเป็นวาระแห่งชาติ
ทั้งนี้ยิ่งลักษณ์ได้เสนอเพื่อดำเนินการตามลำดับ 3 ข้อดังนี้
1. พรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกลงรับเลือกตั้งคราวนี้ พร้อมทั้งองค์กรหรือภาคีอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้สัตยาบันว่าหลังจากสภาผู้แทนราษฎร์และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ แล้ว จะมีการจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศไทยขึ้นทันที
2. การจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศไทย จะประกอบด้วยตัวแทนจากองค์กรวิชาชีพหรือสถาบันต่างๆ ที่มีกฎหมายรองรับพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงที่ประชุมที่แม้มิได้มีกฎหมายรองรับแต่มีบทบาทที่สำคัญของประเทศเช่น ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ที่ประชุมปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการ หรือองค์กรอื่นๆในลักษณะที่เทียบเคียงกันได้ ตลอดจนตัวแทนของกลุ่มวิชาชีพทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ รวมถึงกลุ่มที่มีความคิดเห็นทางการเมืองสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม
3. สภาปฏิรูปประเทศไทยสมควรมีวาระการทำงานไม่เกิน 2 ปีและมีหน้าที่สำคัญคือการจัดทำและเสนอกลไกเพื่อปฏิรูปประเทศไทยในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปการเมืองให้การเมืองในอนาคตสามารถเป็นปากเสียง แทนประชาชนได้อย่างแท้จริง ข้อเสนอของรัฐบาลดังกล่าวเป็นข้อเสนอเบื้องต้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้ฝ่าย ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ และพี่น้องประชาชนทุกคน ได้ถกเถียงแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและเสนอแนะเพื่อปรับปรุงให้กลไกเฉพาะกิจดัง กล่าวเกิดขึ้นได้โดยเร็วที่สุด และนำไปสู่การปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง
นายกฯ กล่าวด้วยว่าเวทีต่างๆจะได้นำข้อเสนอของรัฐบาลไปพิจารณา และมีข้อแนะนำกลับมายังรัฐบาล ทั้งนี้รัฐบาลตั้งใจไว้ว่า หากทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน กระบวนการปฏิรูปจะเริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด รัฐบาลขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคน เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ เพราะเป็นอนาคตของปวงชนชาวไทยทุกคน และรัฐบาลเชื่อว่าหากพี่น้องคนไทยร่วมมือร่วมใจกัน เราจะหาทางแก้ไขวิกฤตทางการเมือง และนำความสงบสันติกลับมาสู่ประเทศชาติของเราทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น