Bangkok Pundit และเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ วิเคราะห์แบ็คอัพของ
'สุเทพ เทือกสุบรรณ' โดยชี้ว่าอดีต ส.ส.
หลายสมัยที่ผันตัวมาเป็นผู้นำการชุมนุมอาจเป็นแค่ตัวแทนข้างหน้า
แต่มีเบื้องหลังเป็นกลุ่มชนชั้นนำที่ต่อต้านพรรคเพื่อไทย
และต้องการรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
2 ธ.ค. 2556 - บล็อกเกอร์ชื่อ Bangkok Pundit ในเว็บไซต์ Asian Correspondent ตั้งคำถามว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้รับเงินทุนมาจากไหน ซึ่งคำถามเดียวกันนี้เคยมีคนตั้งขึ้นในสมัยที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวในปี 2553-2554 แต่ดูเหมือนยังไม่มีการตั้งคำถามในกรณีเดียวกันกับการเคลื่อนไหวในปัจจุบัน มากนัก
ในเรื่องนี้เดวิด เอลเมอร์ กล่าวถึงไว้ในเว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ ของฮ่องกงว่า หลายคนอาจจะคิดว่าสุเทพเป็นแกนนำหลักของการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ แต่จริงๆ แล้วมีเบื้องหลังเป็นกลุ่มแนวร่วมอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย และนโยบายประชานิยมซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนยากจนในชนบท
ในบทความดังกล่าวระบุว่าทักษิณเป็นที่เกลียดชังในหมู่ชนชั้นนำประเพณี นิยม ทั้งนักธุรกิจใหญ่ ที่ปรึกษาชนชั้นนำ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ รวมถึงกลุ่มชนชั้นกลางในเมือง เนื่องจากทักษิณถูกมองว่าไม่จงรักภักดี และมักจะอ้างว่ามีการคอร์รัปชั่นเพิ่มมากขึ้นในสมัครที่พรรคเพื่อไทยเป็น รัฐบาล
เดวิด กล่าวในบทความว่าสุเทพมีความเกี่ยวข้องกับชนชั้นนำในไทยมาหลายสิบปีแล้ว จากการที่เขาเติบโตมาในครอบครัวเจ้าของที่ดินร่ำรวยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนกระทั่งได้เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีปี 2522 ซึ่งโจนาธาน เฮด นักข่าวบีบีซีได้เคยถามเช่นกันว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาศัยเงินทุนสนับ สนุนจากไหนซึ่ง กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกกับเขาว่าสุเทพได้ขายที่ดินจำนวนมากของเขา เพื่อการต่อสู้ในครั้งนี้
แต่ก็มีคนส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่สุเทพจะสามารถเคลื่อนไหวได้ ด้วยเงินทุนของตนเองเพียงคนเดียว แต่มีผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยทำรัฐประหาร ในปี 2549
ด้านกานต์ ยืนยง ผู้อำนวยการสยามอินเทลลิเจนซ์ยูนิต (SIU) กล่าวว่า กลุ่มจัดการประท้วงใช้เงินทุนราว 5 ล้านบาทต่อวัน จึงเป็นไปได้ที่จะมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นนำที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ตัวเองโดยใช้สุเทพเป็นตัว ออกหน้าแทน เพราะไม่มีใครอยากยอมรับว่าพยายามปกป้องผลประโยชน์ตนเอง พวกเขาอ้างว่าต้องการให้มีการปฏิรูประบบที่มีการคอร์รัปชั่น แต่ถ้าหากสุเทพต้องการปฏิรูประบบจริง ทำไมถึงไม่ทำจากภายในสภา
ในแง่การเรียกร้องให้มี "สภาประชาชน" เว็บไซต์ต่างประเทศวิเคราะห์ว่า การประท้วงในครั้งนี้แทนที่จะเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ซึ่งพรรคประชา ธิปัตยืรู้ตัวว่าจะแพ้อยู่แล้วแต่กลับมีการเรียกร้อง "สภาประชาชน" แทน ซึ่งน่าจะหมายถึง "กลุ่มผู้แทนในฝัน" ที่มีการคัดเลือกจากคนที่ไม่เปิดเผยตัวตน
เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ระบุอีกว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ เองก็มีที่มาไม่ค่อยดีนักในสายตามวลชนบางคน ทำให้มีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับตัวเขา เช่นผู้ชุมนุมคนหนึ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการให้สุเทพเป็นนายกรัฐมนตรีและเห็น เขาเป็นแค่แกนนำการประท้วง ถึงได้เคยติดตามเขาเพียงเท่านั้น
ที่มาของการ์ด "กระเบนธง"
เว็บไซต์บางกอกโพสท์เปิดเผยว่า กลุ่มอาสาสมัคร "กระเบนธง" จากจังหวัดระยองได้มาเป็นการ์ดคุ้มกันการเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ ภายใต้การนำของสุเทพ โดยกลุ่มคนเหล่านี้มีส่วนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพเรือผู้ได้รับการฝึก ปฏิบัติการพิเศษ พวกเขาสวมชุดดำ และก่อนหน้านี้กลุ่มกระเบนธงก็เคยเป้นการ์ดคุ้มกันในการจัดตั้งเวที "ผ่าความจริง" ของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน
บางกอกโพสท์ระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มกระเบนธงได้แฝงตัวอยู่กับกลุ่มฝูงชนในการเคลื่อนไหวที่ราช ดำเนินเพื่อคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยและคุ้มกันเวที รวมถึงคอยติดตามคุ้มกันกลุ่มแกนนำโดยแบ่งกำลังคุ้มกัน 8 คนต่อ 1 แกนนำ
พวกเขายังคอยหาข่าวจากผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถแท็กซี่ กับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อประเมินบรรยากาศทางการเมืองในแต่ละวัน
แหล่งข่าวในการชุมนุมเปิดเผยว่ากลุ่มอาสาสมัครกระเบนธงที่ประจำการอยู่ในแหล่งชุมนุมราชดำเนินมีอยู่มากกว่า 3,000 คน
เรียบเรียงจาก
Who is financing the anti-government Suthep rallies in Bangkok?, Asian Correspondent, 02-12-2013 http://asiancorrespondent.com/116690/who-is-financing-the-suthep-rallies/
Thai protest leader Suthep a son of the elite with an axe to grind, South China Morning Post, 01-12-2013 http://www.scmp.com/news/asia/article/1369801/thai-protest-leader-suthep-son-elite-axe-grind
2 ธ.ค. 2556 - บล็อกเกอร์ชื่อ Bangkok Pundit ในเว็บไซต์ Asian Correspondent ตั้งคำถามว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้รับเงินทุนมาจากไหน ซึ่งคำถามเดียวกันนี้เคยมีคนตั้งขึ้นในสมัยที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวในปี 2553-2554 แต่ดูเหมือนยังไม่มีการตั้งคำถามในกรณีเดียวกันกับการเคลื่อนไหวในปัจจุบัน มากนัก
ในเรื่องนี้เดวิด เอลเมอร์ กล่าวถึงไว้ในเว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ ของฮ่องกงว่า หลายคนอาจจะคิดว่าสุเทพเป็นแกนนำหลักของการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ แต่จริงๆ แล้วมีเบื้องหลังเป็นกลุ่มแนวร่วมอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย และนโยบายประชานิยมซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนยากจนในชนบท
ในบทความดังกล่าวระบุว่าทักษิณเป็นที่เกลียดชังในหมู่ชนชั้นนำประเพณี นิยม ทั้งนักธุรกิจใหญ่ ที่ปรึกษาชนชั้นนำ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ รวมถึงกลุ่มชนชั้นกลางในเมือง เนื่องจากทักษิณถูกมองว่าไม่จงรักภักดี และมักจะอ้างว่ามีการคอร์รัปชั่นเพิ่มมากขึ้นในสมัครที่พรรคเพื่อไทยเป็น รัฐบาล
เดวิด กล่าวในบทความว่าสุเทพมีความเกี่ยวข้องกับชนชั้นนำในไทยมาหลายสิบปีแล้ว จากการที่เขาเติบโตมาในครอบครัวเจ้าของที่ดินร่ำรวยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนกระทั่งได้เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีปี 2522 ซึ่งโจนาธาน เฮด นักข่าวบีบีซีได้เคยถามเช่นกันว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาศัยเงินทุนสนับ สนุนจากไหนซึ่ง กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกกับเขาว่าสุเทพได้ขายที่ดินจำนวนมากของเขา เพื่อการต่อสู้ในครั้งนี้
แต่ก็มีคนส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่สุเทพจะสามารถเคลื่อนไหวได้ ด้วยเงินทุนของตนเองเพียงคนเดียว แต่มีผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยทำรัฐประหาร ในปี 2549
ด้านกานต์ ยืนยง ผู้อำนวยการสยามอินเทลลิเจนซ์ยูนิต (SIU) กล่าวว่า กลุ่มจัดการประท้วงใช้เงินทุนราว 5 ล้านบาทต่อวัน จึงเป็นไปได้ที่จะมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นนำที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ตัวเองโดยใช้สุเทพเป็นตัว ออกหน้าแทน เพราะไม่มีใครอยากยอมรับว่าพยายามปกป้องผลประโยชน์ตนเอง พวกเขาอ้างว่าต้องการให้มีการปฏิรูประบบที่มีการคอร์รัปชั่น แต่ถ้าหากสุเทพต้องการปฏิรูประบบจริง ทำไมถึงไม่ทำจากภายในสภา
ในแง่การเรียกร้องให้มี "สภาประชาชน" เว็บไซต์ต่างประเทศวิเคราะห์ว่า การประท้วงในครั้งนี้แทนที่จะเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ซึ่งพรรคประชา ธิปัตยืรู้ตัวว่าจะแพ้อยู่แล้วแต่กลับมีการเรียกร้อง "สภาประชาชน" แทน ซึ่งน่าจะหมายถึง "กลุ่มผู้แทนในฝัน" ที่มีการคัดเลือกจากคนที่ไม่เปิดเผยตัวตน
เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ระบุอีกว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ เองก็มีที่มาไม่ค่อยดีนักในสายตามวลชนบางคน ทำให้มีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับตัวเขา เช่นผู้ชุมนุมคนหนึ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการให้สุเทพเป็นนายกรัฐมนตรีและเห็น เขาเป็นแค่แกนนำการประท้วง ถึงได้เคยติดตามเขาเพียงเท่านั้น
ที่มาของการ์ด "กระเบนธง"
เว็บไซต์บางกอกโพสท์เปิดเผยว่า กลุ่มอาสาสมัคร "กระเบนธง" จากจังหวัดระยองได้มาเป็นการ์ดคุ้มกันการเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ ภายใต้การนำของสุเทพ โดยกลุ่มคนเหล่านี้มีส่วนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพเรือผู้ได้รับการฝึก ปฏิบัติการพิเศษ พวกเขาสวมชุดดำ และก่อนหน้านี้กลุ่มกระเบนธงก็เคยเป้นการ์ดคุ้มกันในการจัดตั้งเวที "ผ่าความจริง" ของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน
บางกอกโพสท์ระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มกระเบนธงได้แฝงตัวอยู่กับกลุ่มฝูงชนในการเคลื่อนไหวที่ราช ดำเนินเพื่อคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยและคุ้มกันเวที รวมถึงคอยติดตามคุ้มกันกลุ่มแกนนำโดยแบ่งกำลังคุ้มกัน 8 คนต่อ 1 แกนนำ
พวกเขายังคอยหาข่าวจากผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถแท็กซี่ กับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อประเมินบรรยากาศทางการเมืองในแต่ละวัน
แหล่งข่าวในการชุมนุมเปิดเผยว่ากลุ่มอาสาสมัครกระเบนธงที่ประจำการอยู่ในแหล่งชุมนุมราชดำเนินมีอยู่มากกว่า 3,000 คน
เรียบเรียงจาก
Who is financing the anti-government Suthep rallies in Bangkok?, Asian Correspondent, 02-12-2013 http://asiancorrespondent.com/116690/who-is-financing-the-suthep-rallies/
Thai protest leader Suthep a son of the elite with an axe to grind, South China Morning Post, 01-12-2013 http://www.scmp.com/news/asia/article/1369801/thai-protest-leader-suthep-son-elite-axe-grind
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น