4 มกราคม 2556
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนางธิดา โตจิราการ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธ์ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ร่วมแถลงข่าว
นางธิดา กล่าวว่า ประชาชนทั้งประเทศยกเว้นกลุ่มมวลมหาประชาชน ต้องการให้มีการเลือกตั้งอย่างราบรื่น คนที่ต้องการให้มีความรุนแรงนั้น ไม่ใช่แนวทาง นปช. ขอเรียกร้องให้ประชาชนในกรุงเทพฯ และผู้ที่สนับสนุนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ใช้สติและปัญญาพินิจพิเคราะห์ว่า ทางที่นายสุเทพกำลังนำไปนั้น จะพาไปสู่หุบเหว ขอให้คนในกทม.พิจารณาว่าจะให้คนส่วนน้อยมากดดันจัดการคนส่วนใหญ่หรือไม่ และหยุดสนับสนุนนายสุเทพเสีย เพราะคนในกทม.ก็ต้องทำมาหากิน ไปเรียนหนังสือ ส่วนพี่น้องในภาคใต้จำนวนหนึ่งที่ออกมาหยุดการรับสมัครเลือกตั้งนั้น อาจคิดว่าทำสำเร็จแล้ว แต่สิ่งที่ท่านทำอยู่ คือการยับยั้งประชาธิปไตยทั้งประเทศ
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า กรณี 28 เขตที่ผู้สมัครไม่สามารถไปสมัครได้นั้น กลุ่ม กปปส.ใช้คนเพียง 100-200 คน ก็สามารถปิดการเลือกตั้งได้แล้ว แม้ว่า กกต.ตัดสินใจเลื่อนการเลือกตั้ง แต่หากยังเปิดรับสมัครแบบเดิม ผู้สมัครก็คงไม่สามารถไปลงสมัครได้อีก เพราะ กกต เองไม่มีความตั้งใจใที่จะห้ผู้สมัครไปลงสมัครได้ ทั้งนี้ ในสถานการณ์ที่หมู่มิตรกังวลว่าการชุมนุมของ นปช. อาจเข้าทางฝ่ายนายสุเทพ แต่หากไม่มีการแสดงพลังเลย โดยปล่อยให้นายสุเทพชุมนุมไปฝ่ายเดียว ก็คงเข้าทางนายสุเทพเช่นกัน
นอกจากนี้ ตนยังไม่วางใจว่าจะไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก ซึ่งในวันที่ 8 ม.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการชี้มูลของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาแก้ไขมาตรา 190 และในวันที่ 9 ม.ค. ป.ป.ช.นัดแถลงใหญ่ ทุกอย่างถือเป็นการสร้างกระแสปูพื้นไปยังวันที่ 13 ม.ค. ที่จะมีการชุมนุมปิด กทม.ของนายสุเทพทั้งสิ้น จึงขอให้คนไทยที่รู้สึกอึดอัดกับการกระทำของนายสุเทพมาแสดงพลังว่าคนไทยไม่ ได้เห็นด้วยกับนายสุเทพทุกคน และเพื่อเตือนว่าอย่าทำรัฐประหารอีก
ขณะ ที่นายณัฐวุฒิ กล่าวชี้แจงว่า วันที่ 13 ม.ค.นี้ นปช.จะชุมนุมเคลื่อนไหวทั่วประเทศครั้งสำคัญ ภายใต้แนวคิด “เปิดประเทศ เปิดตัวเจ้าของอำนาจอธิปไตย เปิดประตูสู่การเลือกตั้ง” โดยจะเคลื่อนไหวในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี โดยรูปแบบกิจกรรมในวันที่ 13 ม.ค. เวลา 09.00 น. จะเดินขบวนเพื่อรณรงค์ต้านรัฐประหาร เดินหน้าเลือกตั้ง ตามถนนสายหลักแต่ละจังหวัด พร้อมกับมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมตามแต่ละท้องถิ่น จากนั้นช่วงเย็นจะตั้งเวทีปราศรัยขึ้นพร้อมกันที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง บนเวทีจะมีผู้ร่วมปราศรัยจากหลายสาขาอาชีพ อาทิ นักวิชาการ นักการเมือง นักเคลื่อนไหว ตัวแทนกลุ่ม หรือองค์กรต่างๆ พร้อมกันนี้ยังได้ประสานเครือข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมอย่างน้อย 6 ช่อง รายงานการเคลื่อนไหวของการชุมนุมเดินขบวนตั้งแต่ช่วงเช้า และถ่ายทอดสดเวทีปราศรัยทั้ง 3 ภูมิภาค
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า การชุมนุมเดินขบวนครั้งนี้ ผู้ชุมนุมไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อแดงมาเข้าร่วม หรือประกาศว่าเป็นนปช. แต่จะชวนพรรคการเมืองอื่นๆ มาเข้าร่วม การชุมนุมครั้งนี้จะคำนึงถึงความปลอดภัย และสันติภาพเป็นสำคัญ จะไม่มีการยึดสถานที่ราชการ ตัดน้ำตัดไฟสถานที่ต่างๆ หรือยกขบวนผู้ชุมนุมเข้า กทม.และปริมณฑลแน่นอน ส่วนคนในกทม.ที่อยากจะเข้าร่วม ขอให้ไเดินทางปร่วมชุมนุมในจังหวัดใกล้เคียง ส่วนวันที่ 5 ม.ค. จะเป็นการเริ่มประชุมกลุ่มของแต่ละจังหวัด เพื่อปรึกษาหารือ นัดหมาย และเตรียมการชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค.ต่อไป
ระหว่าง นี้ก่อนถึงวันที่ 13 ม.ค. นปช.จะทำหนังสือส่งถึงสถานทูตทุกประเทศเพื่อแจ้งรูปแบบ และวัตถุประสงค์การชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค. รวมถึงจะแจ้งต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและคณะกรรมการการเลือกตั้งของทุก ประเทศผ่านแต่ละสถานทูต เพื่อชี้แจงถึงการชุมนุมที่จะมีขึ้น โดยยกเว้นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมการการเลือกตั้งของไทย เพราะไม่เชื่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของไทยจะเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ถูก เหยียบย่ำสิทธิจากนายสุเทพได้ และเพื่อประกาศว่าคนไทยต้องการเลือกตั้ง
“นปช.พร้อม ที่แล้วจะเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด และเคลื่อนไหวต้านรัฐประหารใน กทม. หากชัดเจนว่ามีการรัฐประหารเกิดขึ้น จะเกิดยุทธการดอกไม้บานขึ้นกลางกรุง จะมีแต่คำประกาศต่อสู้ ไม่มีการยุติต่อสู้ จึงขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศ พรรคการเมืองทุกพรรค นักการเมือง นักวิชาการ ศิลปินดารา และผู้คนทุกวิชาชีพ ให้เตรียมกายเตรียมใจชุมนุมโดยสงบสันติ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิ 1 คน 1 เสียงเท่ากัน และให้อำนาจอธิปไตยเป็นของทุกคน ขอให้สบายใจกับการชุมนุมที่จะถึงนี้ ว่ารูปแบบของขบวนที่เตรียม ไม่ได้จะเอาเป็นเอาตาย แต่จะเดินขบวนกันอย่างยิ้มแย้ม ด้วยจิตใจบริสุทธิ์โปร่งใส ไม่ใช้กองกำลังสู้ด้วยอาวุธ แต่ต่อสู้ด้วยขบวนการประชาธิปไตยและหลักการที่ถูกต้อง” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น