แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

'เต็งเส่ง' หนุนแก้ รธน.ให้ 'ซูจี' เป็นประธานาธิบดี

ที่มา Voice TV



นายเต็งเส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ ประกาศสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีเมียนมาร์ได้ในอนาคต

นายเต็งเส่ง อดีตนายพลของกองทัพเมียนมาร์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมียนมาร์ กล่าวปราศรัยทางวิทยุเมื่อวานนี้ ระบุว่า รัฐธรรมนูญที่ดี จำเป็นต้องมีการแก้ไขเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นทางสังคม และเศรษฐกิจของชาติ ณ ช่วงเวลานั้นๆ

นอกจากนี้ เขายังประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้รัฐธรรมนูญ มีการจำกัดสิทธิของพลเมืองคนใดในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศ ขณะเดียวกันก็ชี้ว่า เมียนมาร์จำเป็นต้องมีมาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ

ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการประกาศสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดโอกาสให้นางอองซานซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเมียนมาร์ สามารถลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมียนมาร์ได้ในอนาคต หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ซึ่งร่างขึ้นโดยกองทัพ และใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังคงกีดกันไม่ให้ผู้ที่มีคู่สมรส หรือบุตรเป็นชาวต่างชาติ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเมียนมาร์ โดยมาตรานี้ หลายฝ่ายเชื่อว่าร่างขึ้นมาเพื่อสกัดกั้นนางซูจี ซึ่งมีลูก และสามีถือสัญชาติอังกฤษเป็นการเฉพาะ

การแสดงความเห็นของนายเต็งเส่งครั้งนี้ ยังมีขึ้นในขณะที่นางซูจี ออกมาเคลื่อนไหวอย่างครึกโครม เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งยังคงสงวนที่นั่งในรัฐสภาถึง 1 ใน 4 ให้กับเจ้าหน้าที่ของกองทัพ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซูจี ได้ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยืนยันว่า พรรคฝ่ายค้านจะไม่บอยคอตการเลือกตั้งทั่วไปรอบใหม่ในปีหน้า แม้ว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้นางซูจี ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม

นายเต็งเส่งยอมรับว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อความปรองดองของคนภายในชาติ อย่างไรก็ตาม เขาได้กล่าวเตือนทิ้งท้ายว่า ความต้องการปฏิรูปการเมืองของประชาชน หากไปไกลเกินกว่าที่ระบบการเมืองในปัจจุบันจะรับได้ ประเทศชาติก็อาจจบลงด้วยภาวะชะงักงันทางการเมือง และทุกคนอาจสูญเสียอิสรภาพทางการเมืองทั้งหมดที่ผลักดันร่วมกันมา ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเรียกร้องให้ชาวเมียนมาร์ทุกคน ควรรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วยสติปัญญา และความระมัดระวัง
3 มกราคม 2557 เวลา 11:21 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น